Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

[Guest Post] Google Cloud จัดงานใหญ่ประจำปี Next‘21 ช่วยลูกค้ารับมือความท้าทายใหม่ๆ

พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมด้านข้อมูล ความปลอดภัย การทำงานร่วมกัน โครงสร้างพื้นฐานแบบเปิด และความยั่งยืน

Google Cloud เปิดฉากงานใหญ่ประจำปี Google Cloud Next ‘21 พร้อมประกาศเปิดตัวนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาทางธุรกิจที่เร่งด่วนที่สุดในอุตสาหกรรมต่างๆ

นวัตกรรมที่ประกาศภายในงานครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์แบบเปิดของ Google Cloud ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ นำข้อมูลที่สำคัญไปประยุกต์ใช้ในส่วนที่มีความจำเป็นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจและเข้าถึงลูกค้า ผลิตภัณฑ์ และพาร์ทเนอร์ เทคโนโลยีการทำงานร่วมกันที่ส่งเสริมการทำงานแบบไฮบริด และเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ปกป้องผู้ใช้ แอปพลิเคชัน และข้อมูล โดยทั้งหมดนี้อยู่บนระบบคลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

เอพริล ศรีวิกรม์ Country Manager, Google Cloud ประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม กล่าวว่า “ธุรกิจในยุคปัจจุบันต่างได้รับการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยบริษัทต่างๆ กำลังใช้ประโยชน์จากพลังของข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และประสบการณ์ดิจิทัลในการพลิกโฉมธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ในท้ายที่สุด องค์กรที่จะเติบโตได้นั้นไม่เพียงจะทำการตัดสินใจในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูลเท่านั้น แต่ยังจะใช้ระบบคลาวด์เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานร่วมกันภายในองค์กรและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อีกด้วย”

โครงสร้างพื้นฐานแบบเปิด: ระบบคลาวด์แบบเปิดที่สามารถใช้งานได้ทุกที่

เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถในการปรับใช้ระบบคลาวด์ได้ทุกที่ Google ได้เปิดตัว Google Distributed Cloud กลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ ซึ่งขยายโครงสร้างพื้นฐานและบริการของ Google Cloud ไปยังจุดเชื่อมต่อคลาวด์และศูนย์ข้อมูล

แพลตฟอร์ม Anthos แพลตฟอร์มแบบโอเพนซอร์สที่รวมการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชันทั่วทั้งองค์กร จุดเชื่อมต่อคลาวด์ และในระบบคลาวด์สาธารณะ ในขณะที่มอบการทำงานที่สอดคล้องกันในขนาดต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ ซึ่งได้แก่

  • Google Distributed Cloud Edge – พร้อมให้ใช้งานในเวอร์ชันพรีวิวแล้ววันนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบนี้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานและบริการต่างๆ ของ Google Cloud อยู่ใกล้กับที่ที่มีการสร้างและใช้ข้อมูลมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระบบคลาวด์ของ Google ที่มีกว่า 140 แห่งในปัจจุบัน จุดเชื่อมต่อระบบคลาวด์ของลูกค้า เช่น ร้านค้าปลีก พื้นที่โรงงาน หรือสำนักงานสาขา หรือที่จุดเชื่อมต่อระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร Google Distributed Cloud Edge เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลในเครื่อง การทำงานด้วยการประมวลที่ต้นทางที่มีเวลาในการตอบสนองต่ำ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในองค์กรให้ทันสมัย และการปรับใช้โซลูชัน 5G/LTE บนโครงข่ายส่วนตัวในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยโซลูชันนี้เป็นการต่อยอดโซลูชันด้านโทรคมนาคมของ Google Cloud และช่วยให้ CSP สามารถเรียกใช้การทำงานบนเทคโนโลยี Intel และ NVIDIA เพื่อส่งมอบรูปแบบการใช้งาน 5G และ Edge แบบใหม่
  • Google Distributed Cloud Hosted – Google Distributed Cloud Hosted ซึ่งจะพร้อมให้ใช้งานในเวอร์ชันพรีวิวในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นำเสนอวิธีการที่ปลอดภัยแก่ลูกค้าในการปรับปรุงการปรับใช้งานภายในองค์กรให้ทันสมัยขึ้น ไม่ว่าจะเลือกทำเองหรือใช้บริการผ่านพาร์ทเนอร์ที่ได้รับมอบหมายและไว้วางใจได้ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Google Cloud เพื่อจัดการโครงสร้างพื้นฐาน บริการ API หรือเครื่องมือต่างๆ แต่จะใช้ส่วนควบคุมภายในที่จัดการโดย Anthos ในการดำเนินการ ด้วยเหตุนี้จึงสนับสนุนลูกค้าภาครัฐและหน่วยงานเชิงพาณิชย์ที่มีข้อกำหนดด้านข้อมูล ความปลอดภัย หรือความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด

ข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล: โซลูชันด้านข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และ AI แบบรวมศูนย์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด

เพื่อช่วยลูกค้าสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลที่ทันสมัยด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และส่งเสริมการประยุกต์ใช้ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อภารกิจขององค์กร Google Cloud ได้ประกาศการอัปเดตใหม่ๆ ดังนี้

  • เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป (GA) ของ BigQuery Omni – BigQuery Omni เป็นโซลูชันสำหรับการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป BigQuery Omni ช่วยให้องค์กรสามารถเรียกใช้การวิเคราะห์ข้อมูลข้ามระบบคลาวด์ด้วยข้อมูลใน Amazon Web Services และ Microsoft Azure
  • Spark บน Google Cloud – Spark บน Google Cloud ซึ่งพร้อมให้ใช้งานในเวอร์ชันพรีวิว เป็นบริการ Spark แบบปรับขนาดอัตโนมัติที่ไร้เซิร์ฟเวอร์สำหรับแพลตฟอร์มข้อมูล Google Cloud รายแรกของโลก บริการใหม่นี้ทำให้ Spark เป็นข้อเสนอระดับพรีเมียมบน Google Cloud และช่วยให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ภายในไม่กี่วินาทีและปรับขนาดได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะใช้งานกับ BigQuery, Dataproc, Dataplex หรือ Vertex AI ก็ตาม
  • Salesforce Tableau Partnership – Google Cloud เตรียมประกาศความร่วมมือกับ Salesforce Tableau ที่มอบประสบการณ์ความเป็นเลิศทางธุรกิจ (Business Intelligence: BI) ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ให้ผู้ใช้ Tableau สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจาก BigQuery ได้อย่างราบรื่น เพื่อรับประโยชน์จากโมเดลเชิงความหมายของ Looker และเพื่อเปิดใช้ Tableau ได้โดยตรงจาก Google Sheets

Google Workspace: การทำงานร่วมกันในทุกแง่มุมของธุรกิจ

Google Workspace ช่วยให้ผู้ใช้มากกว่า 3 พันล้านคนสามารถติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยการสร้างพื้นที่ดิจิทัลสำหรับการทำงาน Google Workspace ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านเครื่องมืออำนวยความสะดวก เช่น Smart Canvas และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นให้กับผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Google Docs, Gmail, Google Meet และ Google Chat เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้ปฏิบัติงานส่วนหน้า วันนี้ Google Workspace ได้ประกาศอัปเดตใหม่ๆ ดังนี้:

  • การผสานการใช้งาน Atlassian Jira แบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้าง Ticket (การติดตามสถานะการแก้ไขปัญหา) ขึ้นมาใหม่ และตรวจสอบปัญหาต่างๆ ภายในแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย
  • การผสานการใช้งาน AppSheet ใน Gmail แบบใหม่ที่ช่วยให้ทุกคน แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ใช่ผู้เขียนโค้ด สามารถสร้างแอปอีเมลสำหรับงานต่างๆ ได้ เช่น การอนุมัติงบประมาณ คำขอลาพักร้อน และอื่นๆ
  • การขยายความร่วมมือกับ Citrix เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานที่ทำงานแบบกระจายตัวและแบบไฮบริดสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและเดสก์ท็อปเสมือนจริงที่ง่าย ปลอดภัย และมีเวลาในการตอบสนองต่ำได้จากทุกที่ ด้วยการควบคุมการจัดการจาก Citrix และโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Google Cloud
  • นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยใหม่ใน Google Workspace ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสฝั่งไคลเอ็นต์ (client-side encryption) สำหรับ Google Meet ที่ให้ลูกค้าเป็นผู้ควบคุมคีย์การเข้ารหัส (encryption key) และการป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Loss Prevention: DLP) สำหรับ Google Chat เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนรั่วไหลออกไปภายนอกองค์กร

ความปลอดภัย: ช่วยให้ผู้คนปลอดภัยบนโลกออนไลน์ได้มากกว่าใครๆ ในโลก

เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งองค์กรในทุกอุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน Google Cloud ได้ประกาศสิ่งสำคัญสองประการ ได้แก่

  • ทีมปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Google – ทีมที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยนี้จะให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลและธุรกิจต่างๆ ในการใช้แนวทางปฏิบัติแนะนำด้านความปลอดภัยของ Google เพื่อเป็นแนวทาง ให้ความรู้ และแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการพลิกโฉมระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบตรวจจับภัยคุกคามอัจฉริยะ (threat intelligence) และนโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • โปรแกรม Work Safer – Work Safer เป็นโปรแกรมรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกองค์กร รวมถึงธุรกิจขนาดเล็ก องค์กรธุรกิจ และสถาบันภาครัฐ ซึ่งหลายแห่งอาศัยเทคโนโลยีแบบเดิมและมักขาดความเชี่ยวชาญในการจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานแบบไฮบริด ข้อเสนอนี้จะช่วยให้องค์กรเหล่านี้เข้าถึงการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับอีเมล การประชุม ข้อความ เอกสาร และอื่นๆ โดยเป็นการรวมโซลูชันที่ดำเนินการบนระบบคลาวด์และเป็น Zero Trust ของ Google Workspace เข้ากับโซลูชันชั้นนำอื่นๆ ของ Google และพาร์ทเนอร์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง CrowdStrike และ Palo Alto Networks

ความยั่งยืน: ระบบคลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

ในฐานะระบบคลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด Google Cloud ได้เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อช่วยให้ลูกค้าดำเนินการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างเร่งด่วน

  • Carbon Footprint พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้สำหรับลูกค้าทุกคนใน Cloud Console โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน Google Cloud Platform ของตนได้ รวมทั้งวัดผล ติดตาม และรายงานความคืบหน้าเทียบกับเป้าหมายด้านสภาพอากาศของตน
  • Google Earth Engine พร้อมให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชันพรีวิว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Google Cloud Platform เมื่อรวมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เปิดใช้งานข้อมูลสารสนเทศเชิงพื้นที่ เช่น BigQuery, Cloud AI และ Google Maps แล้ว Earth Engine จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถติดตาม ตรวจสอบ และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่รุนแรงหรือกิจกรรมที่เกิดจากมนุษย์ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน บรรเทาและจัดการความเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพขึ้น ตลอดจนสามารถรับมือกับผลกระทบของภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น ด้วยการนำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google มาไว้ด้วยกัน เครื่องมือใหม่นี้จะรวบรวมข้อมูลเฉพาะ ข้อมูลเชิงลึก และฟังก์ชันการทำงานของ Earth Engine พร้อมด้วยประสบการณ์ระดับองค์กรที่มีการจัดการเต็มรูปแบบและเชื่อถือได้
  • Unattended Project Recommender เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อระบุโปรเจ็กต์ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกทิ้งร้าง และแจ้งเตือนเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถเลือกลบโปรเจ็กต์เหล่านั้นออกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

เอพริล ศรีวิกรม์ กล่าวเสริมว่า “ในฐานะพาร์ทเนอร์ในการพลิกโฉมธุรกิจสำหรับลูกค้า เรามุ่งเน้นให้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีที่สุด โซลูชันซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แพลตฟอร์มที่ไว้วางใจได้ และเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสนับสนุนการทำงานแบบไฮบริด ไปพร้อมๆ กับการจัดการความท้าทายที่สำคัญที่สุดของโลก การเปลี่ยนแปลงมีหลายด้าน และผู้ให้บริการระบบคลาวด์ต้องรับผิดชอบในการนำเสนอโซลูชันที่ดีที่สุดในทุกด้าน ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเดิมมาใช้ใหม่บนแพลตฟอร์มใหม่”

About Maylada

Check Also

NVIDIA เปิดตัว Blackwell B200 GPU และ GB200 Superchip

NVIDIA ประกาศเปิดตัว Blackwell B200 GPU และ GB200 Superchip ชิปประมวลผล AI รุ่นใหม่

Google ยกระดับ URL Protection บน Chrome ให้เป็นแบบเรียลไทม์

Google ประกาศเปิดตัว Safe Browsing ที่เพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามและรักษาความเป็นส่วนบุคคลได้แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ใช้ Google Chrome ทั้งบน Desktop และ iOS รวมถึงอัปเดตฟีเจอร์ Password Checkup ใหม่บน …