ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ระดับบุคคลทั่วไปจนถึงระดับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา ด้านการทำธุกิจ การติดต่อสื่อสาร หรือการตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆมากขึ้น เช่น การช้อปปิ้งหรือการทำธุรกรรมออนไลน์
แต่ความสะดวกสบายต่างๆที่เกิดขึ้น มักมาพร้อมกับอันตรายที่เรามักคาดไม่ถึง ทุกคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านหูมาบ้าง การโจมตีทางไซเบอร์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ โดยรูปแบบที่โดนกันบ่อยๆจะมี การโจมตีด้วยมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ มักจะแฝงตัวมากับการดาวน์โหลดโปรแกรมหรือไฟล์แนบ และการโจมตีแบบ Phishing ส่วนใหญ่มักแอบอ้างเป็นบุคคลสำคัญหรือองค์กรต่างๆ และสร้างความเร่งด่วนให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่แนบมาพร้อมมัลแวร์
ซึ่งการโจมตีเหล่านี้มีจุดประสงค์ในการขโมยข้อมูลเพื่อให้จ่ายเงิน หรือการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด และในปัจจุบันการโจมตีทางไซเบอร์ก็มีออกมาให้เห็นกันอยู่ตลอด โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อป้องกันการโดนโจรกรรมข้อมูลจากภัยคุกคามต่างๆ
ในขณะที่โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มีวางจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย แต่ผู้คนกลับให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์น้อยลง เนื่องจากมักคิดว่าข้อมูลที่มีอยู่นั้นไม่สำคัญอะไรมากมาย การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสจึงไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ข้อมูลที่อาชญากรทางไซเบอร์ต้องการอาจไม่ใช่ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เสมอไป
จากสถิติการโจรกรรมข้อมูลที่ผ่านมา การขโมยข้อมูล เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต และอื่นๆ ถูกนำไปขายบนเว็บไซต์ตลาดมืดเป็นจำนวนถึงล้านบัญชี หรือแม้แต่ชื่อบัญชีและรหัสผ่านที่คุณไม่ได้ใช้แล้ว ก็ยังสามารถนำไปขายได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของบัญชีที่ถูกขโมยไปนั้นไม่ได้มีการใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาก่อน
นอกจากนี้โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ไม่ได้ป้องกันแค่ไวรัสเท่านั้น ยังสามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลขณะทำธุรกรรมออนไลน์ รวมไปถึงช่วยออกแบบรหัสผ่านใช้ต่อการคาดเดาได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวไกล เพื่อให้สามารถป้องกันภัยคุกคามในอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด