ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้ทดสอบเทคโนโลยี Projector สมัยใหม่จาก Epson ที่ทางผู้ผลิตระบุว่าด้วยเทคโนโลยีภายใน Projector จาก Epson นี้ ทำให้ภาพที่ฉายนั้นมีคุณภาพสูง สีสันสดใส และทำให้ Projector กลับมาเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการเลือกใช้จอโทรทัศน์ เราจึงขอนำประเด็นต่างๆ ที่ได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งทดสอบการใช้งานจริงมาสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในอนาคตกันครับ
ระหว่างโทรทัศน์กับ Projector คุณภาพสูง จะเลือกใช้อะไรดี?
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว เราจะรู้สึกว่า Projector นั้นมักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดมากมายทั้งเรื่องของราคา ความคมชัด สภาพแสงสว่างในพื้นที่ ความร้อน และอื่นๆ อีกมากมาย เหล่าผู้พัฒนาเทคโนโลยี Projector เองก็ทราบดีถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เกิดการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี Projector ใหม่ๆ ขึ้นมาอุดจุดอ่อนเดิมที่เคยมี ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ Projector เริ่มกลับมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง ด้วยราคาที่จับต้องได้มากขึ้นกว่าเดิม และมาพร้อมกับคุณภาพในการใช้งานที่ดีขึ้น Projector จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งภายในอาคารบ้านเรือน และการใช้งานในเชิงธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน
ประเด็นหลักๆ ของ Projector ที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นในปัจจุบันนี้ ก็ได้แก่
- ความคมชัดของภาพและการแสดงสีสันได้อย่างสดใส เหนือขึ้นกว่าสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด
- ความง่ายในการติดตั้งใช้งาน ระบบหลายๆ อย่างกลายเป็นอัตโนมัติมากขึ้น และการออกแบบ User Experience นั้นก็ดีขึ้นมากจนไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่แผนก IT มาปรับจอให้อย่างแต่ก่อน ติดตั้งใช้งานได้เองง่ายๆ รองรับมุมในการฉายภาพได้หลายมุม พร้อมมีคู่มืออธิบายอย่างชัดเจนว่าถ้าอยากได้จอขนาดใหญ่แค่ไหนควรจะต้องติดตั้งในระยะเท่าไหร่ที่มุมใด
- ความทนทานที่สูงขึ้น รองรับการใช้งานติดต่อกันได้นานขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อก่อนการเปิด Projector 3-4 ชั่วโมงก็อาจทำให้อุปกรณ์ร้อนจนใช้งานต่อไม่ได้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้สามารถเปิดได้ต่อเนื่อง 8-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว
- เสริมเทคโนโลยีหรือลูกเล่นอื่นๆ นอกเหนือจากการฉายภาพเข้าไปมากมาย ทั้งตัว Remote เองที่มีความสามารถมาก, การจัดการผ่าน Mobile Device หรือ Network ได้, การฉายภาพจากหลายจอพร้อมกันได้, การมีลำโพงภายในตัวสำหรับเล่นเสียงต่างๆ ได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ การใช้งาน Projector นั้นหลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- มีให้เลือกหลากหลายทั้งราคา, เทคโนโลยี, ความสามารถเสริม และอื่นๆ ทำให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ความสามารถของ Projector นี้ก็ถือว่าไม่แพ้จอ Monitor หรือโทรทัศน์เลยทีเดียว แต่ก็ยังคงข้อดีของ Projector ที่เห็นชัดเจนอย่างเช่นขนาดของการแสดงผลภาพที่ใหญ่กว่าจอปกติมากในราคาที่ต่ำกว่า และความง่ายดายในการพกพาที่ทำให้ Projector กลายเป็นอุปกรณ์หลักในการทำธุรกิจบางประเภท เช่น การจัด Event, งานสัมมนา หรือธุรกิจฝึกอบรมต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
Epson Home Theatre Projector โปรเจคเตอร์คุณภาพสูงสำหรับใช้งานในบ้าน ที่ความสามารถรองรับได้ถึงการใช้งานในระดับธุรกิจ
สำหรับ Epson Home Theatre Projector ที่เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Epson ในเวลานี้ ก็เป็นอุปกรณ์ Projector ที่ใส่ความสามารถต่างๆ เข้ามามากมาย พร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลภาพคุณภาพสูงที่ทำให้ภาพทั้งคมชัดและมีสีสันที่สดใส ทำให้ที่ผ่านมา Epson Home Theatre Projector ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดี ด้วยจุดเด่นต่างๆ ดังนี้
ภาพคมชัดด้วยเทคโนโลยี 3LCD และ 4K Enhancement
จุดสำคัญมี่ทำให้ Epson Home Theatre Projector สามารถแสดงผลได้อย่างมีคุณภาพสูงนั้น ก็คือการนำเทคโนโลยี 3LCD มาใช้นั่นเอง
Projector ในอดีตนั้นมักจะใช้เทคโนโลยีในการฉายภาพแบบ 1-chip DLP ที่แสดงผลภาพทีละสีสลับกันด้วยความเร็วสูง ทำให้การมองภาพจาก Projector แบบนี้นานๆ อาจทำให้สายตาเมื่อยล้าได้โดยไม่รู้ตัว และเห็นภาพส่ายจนนำไปสู่การปวดศีรษะได้ ในขณะที่สีที่แสดงออกมานั้นก็ไม่ได้มีความคมชัดสดใสมากนัก
ด้วยเหตุนี้ Epson จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี 3LCD ขึ้นมา โดยทำการแยกแสงสีขาวออกเป็นแสงสีแดง, แสงสีเขียว และแสงสีน้ำเงิน ก่อนที่จะยิงออกไปผ่าน LCD คนละชุด แล้วค่อยนำมารวมกันด้วยปริซึมก่อนจะฉายออกไปยังพื้นหลัง ทำให้ทุกๆ สีที่แสดงผลนั้นมีความสดใสชัดเจน แสดงสีได้ละเอียดหลากหลาย และมีความสว่างที่สูงขึ้นถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ Epson ยังได้เพิ่มเทคโนโลยี 4K Enhancement เข้าไปทำให้การแสดงผลภาพใดๆ นั้นมีความละเอียดที่สูงขึ้นได้จากการเพิ่ม Pixel เข้าไปในการแสดงผลภาพ ทำให้ถึงแม้ตัว Projector จะรองรับความละเอียดไม่ถึง 4K แต่ภาพก็จะมีความละเอียดสูงกว่าปกติมากจนใกล้เคียงกับ 4K ได้
ให้ความสว่างสูง ปรับความสว่างได้ด้วยตัวเอง ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ด้วยความสว่างที่สูงขึ้นก็ทำให้การใช้งาน Projector ในพื้นที่ที่มีแสงสว่างนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้น การเลือกพื้นที่ติดตั้งใช้งาน Projector จึงหลากหลายมากขึ้นไปด้วย ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ Epson Home Theatre Projector นี้สามารถตรวจสอบความสว่างรอบๆ ได้ด้วยตนเองและทำการปรับความสว่างของการแสดงผลให้เหมาะสมได้ ทำให้เราสามารถรับชมเนื้อหาภาพยนตร์ต่างๆ ได้อย่างสบายตา ไม่ต้องตั้งค่าใหม่เองทุกครั้ง
ติดตั้งใช้งานได้หลายมุม ยืดหยุ่นได้ตามต้องการ
Epson Home Theatre Projector นี้มีการใช้เลนส์ซูมและรองรับการปรับรูปแบบการแสดงผลภาพเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูได้ในมุมต่างๆ ทำให้สามารถติดตั้งใช้งาน Epson Home Theatre Projector ได้หลากหลายมุมจากจอแสดงผล ไม่ว่าจะเป็นมุมตรงตั้งฉากตามปกติ หรือมุมเอียงที่เฉียงออกมาเพื่อให้เราสามารถนั่งชมเนื้อหาต่างๆ กลางจอได้อย่างสบาย และไม่ต้องปรับแต่งพื้นที่ห้องที่จะติดตั้ง Projector มากนัก
เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย แสดงภาพจาก Source พร้อมกันได้ 2 แห่ง ประยุกต์ใช้ได้หลายงาน
Epson Home Theatre Projector นี้รองรับการแสดงผลจาก Source ได้หลากหลายมาก ทั้งผ่านสาย VGA, HDMI, Composite, USB ไปจนถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบเครือข่าย และการอ่านไฟล์จากอุปกรณ์ USB ทำให้การนำไปใช้งานนั้นมีความยืดหยุ่นสูงทีเดียว
อีกความสามารถที่น่าสนใจก็คือการรองรับการแสดงผลจาก 2 Source พร้อมๆ กันบนจอเดียว โดยสามารถเลือกได้ว่าภาพจาก Source ใดจะมีขนาดใหญ่กว่า หรือมีขนาดเท่ากัน ทำให้การประยุกต์ใช้จอนี้สามารถนำไปใช้งานได้หลายอย่าง ทั้งการประชุม, การนำเสนอข้อมูล, การเปรียบเทียบ, การฝึกอบรม หรือใช้ในกิจกรรมที่เป็นเชิงการแข่งขัน
Remote มีความสามารถมากมาย เป็นตัวช่วยในการนำเสนองานได้
เดิมที Remote ของ Projector นั้นมักจะมีบทบาทเฉพาะการใช้งานเพื่อการตั้งค่าอุปกรณ์ Projector หรือเปิดปิดอุปกรณ์เท่านั้น แต่ Remote ของ Epson Home Theatre Projector นี้สามารถทำหน้าที่แทน Mouse เพื่อควบคุมหน้า PowerPoint ได้ รวมถึงยังสามารถทำหน้าที่เป็น Pointer เพื่อชี้จุดสำคัญบนจอในการนำเสนอก็ได้เช่นกัน และยังมีทางเลือกให้ผู้ใช้งานใช้ Smartphone แทน Remote ได้ด้วย ถือว่าสะดวกไม่น้อยทีเดียว
บริหารจัดการและตรวจสอบการทำงานผ่านระบบเครือข่ายได้ ง่ายต่อผู้ดูแลระบบ IT
Epson Home Theatre Projector นี้สามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายเพื่อทำการแจ้งเตือนผ่านทาง Email ในกรณีที่เกิดความผิดปกติในการใช้งานใดๆ ได้, สามารถเปิดช่องให้เข้ามาบริหารจัดการและควบคุมการทำงานได้ผ่านเว็บ และยังมี SNMP เพื่อรับส่งข้อมูลไปยังระบบ IT Monitoring ได้ด้วย ดังนั้นสำหรับธุรกิจหรือองค์กรใดๆ ที่จะใช้งาน Projector ติดตั้งเป็นจำนวนมาก ก็สามารถติดตามการทำงานและตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นจากศูนย์กลางได้อย่างง่ายดาย
มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมต่อการใช้งานจริง
สำหรับผู้ที่สนใจใช้งาน Epson Home Theatre Projector นั้น อันที่จริงแล้ว Epson เองก็ยังมี Projector รุ่นเฉพาะสำหรับภาคธุรกิจที่ออกแบบมาตอบโจทย์อย่างหลากหลายอีกด้วย ผู้ที่สนใจ Projector รุ่นต่างๆ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.epson.co.th/
ทดลองใช้งานจริงกับ Epson Home Theatre TW650 1080p 3LCD Projector
ตามสไตล์ TechTalkThai เรามักจะรีวิวสินค้าโดยไม่อ่านคู่มือใดๆ เลยเพื่อดูว่าสินค้านั้นๆ จะใช้งานง่ายแค่ไหน สำหรับ Epson Home Theatre Projector เองก็ไม่ยกเว้นครับ
อุปกรณ์ที่ได้มาทดสอบในครั้งนี้คือ Epson Home Theatre TW650 1080p 3LCD Projector ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดในตระกูล ด้วยราคาที่เปิดในหน้าเว็บอยู่ที่ 33,900 บาท แต่ความสามารถต่างๆ ก็ถือว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ และเหมาะกับการใช้งานทั่วไปเป็นอย่างมาก ผู้ที่สนใจลองดูรายละเอียดได้ที่ https://www.epson.co.th/การใช้งานบุคคล/โปรเจคเตอร์/โฮมเธียเตอร์/Epson-Home-Theatre-TW650-1080p-3LCD-Projector/p/V11H849052 นะครับ
ก่อนอื่นเลยต้องขอเรียนก่อนว่ารีวิวครั้งนี้แทบจะไม่ได้ถ่ายภาพประกอบอะไรมาเลยนะครับเพราะไม่รู้ว่าจะถ่ายยังไงดี ก็จะขอใช้การบรรยายเป็นหลักก็แล้วกันนะครับ
เริ่มต้นติดตั้งใช้งาน – พร้อมใช้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที
แรกเริ่มก็ประทับใจแล้วครับกับความง่ายดายในการเริ่มต้นใช้งาน โดยหลักจากเสียบปลั๊กเสร็จ กดปุ่ม Power เปิด รอเพียงไม่กี่วินาทีตัว Projector ก็พร้อมให้ใช้งานได้แล้ว พอเสียบสายเสร็จปุ๊บก็สามารถแสดงผลภาพออกมาได้ทันที
สำหรับการปรับมุมและความคมชัดเองก็ทำได้ง่าย โดยเบื้องต้นนั้นบน Remote มีปุ่ม Auto ให้อยู่แล้ว กดไปครั้งเดียวระบบก็จะทำการตรวจสอบและเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดให้เราโดยอัตโนมัติ ส่วนในการติดตั้ง Projector เป็นมุมเอียง ก็สามารถกดปรับมุมขอบจอส่วนที่เอียงเองได้ง่ายๆ เช่นกันครับ เรียกได้ว่าการปรับการแสดงผลในส่วนนี้เองก็ใช้เวลาน้อยมากเช่นกัน รวมๆ แล้วไม่ถึง 1 นาทีนับจากเปิดเครื่องก็ใช้งานได้เลย
เชื่อมต่อภาพจาก Notebook ได้ทันที สีสันสดใสและสว่างมาก
หลังจากที่เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานได้แล้ว ทันทีที่ต่อ Notebook เข้ากับ Projector สิ่งที่ประทับใจมากก็คือภาพที่แสดงผลบนจอ Projector นั้นคมชัดมาก และสีสันสดใสทุกโทนสี เรียกได้ว่าภาพออกมาชัดและสว่างไม่แพ้การใช้จอ Monitor ในการแสดงผลเลยครับ แต่มีข้อดีที่เหนือกว่าคือมีขนาดใหญ่กว่ามาก สามารถใช้นำเสนองานได้สบายๆ หรือถ้าจะใช้ดูภาพยนตร์ผ่านทาง Netflix ก็น่าจะได้อรรถรสที่ดีไม่น้อยทีเดียว และใช้งานได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนโดยไม่ต้องปิดไฟครับ แต่ถ้าใครไม่ชอบให้แสงมันสว่างเกินไป ก็สามารถปรับโหมดสีให้มันนุ่มนวลสบายตาขึ้นได้เช่นกันครับ
อีกประเด็นที่น่าพูดถึงคือเรื่องเสียงของพัดลมที่ถือว่าไม่ดังจนเกินไป คือก็ยังได้ยินเสียงพัดลมทำงานอยู่แต่ก็ไม่ได้ดังจนรู้สึกว่ารบกวนแต่อย่างใด และหากลองปรับให้จอมีความสว่างน้อยลง เสียงพัดลมก็จะเงียบลงจนแทบจะไม่ได้ยินเลยครับ
ต้องการจอขนาดเท่าไหร่ มีข้อมูลให้อ้างอิงว่าจะต้องใช้ระยะเท่าไหร่
สำหรับกรณีที่ต้องการแสดงผลภาพขนาดใหญ่ให้ได้ตามต้องการ ก็สามารถอ้างอิงได้จากคู่มือครับ ตัวอย่างเช่น หากต้องการแสดงผลที่อัตราส่วนจอแบบ 16:9 ที่ขนาด 300 นิ้วหรือราวๆ 6.6 เมตร x 3.7 เมตร ก็ต้องเว้นระยะระหว่าง Projector กับพื้นผิวจอที่จะใช้แสดงผลประมาณ 6.9 เมตร – 8.3 เมตร เป็นต้นครับ ข้อมูลตรงนี้จะมีบอกอย่างละเอียดในคู่มือเลยว่าหากอยากได้จอขนาดเท่าไหร่ต้องตั้งอย่างไร ก็ถือว่าสะดวกดีที่ไม่ต้องคำนวนหรือลองผิดลองถูกเองมากครับ
แสดงผลภาพจากหลายจอพร้อมๆ กัน
อีกหนึ่งความสามารถที่อยากทดสอบคือการนำภาพจากหลายๆ Source มาแสดงผลพร้อมๆ กันนั่นเองครับ ซึ่งการใช้งานนั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่ต่อ Source เข้าไปมากกว่า 1 แหล่งไปยัง Projector จากนั้นก็กดปุ่ม Split บน Remote เพียงเท่านี้จอแสดงผลของเราก็จะถูกแยกเป็น 2 จอ และนำภาพจาก 2 Source มาแสดงผลพร้อมๆ กันได้แล้ว
ส่วนการแสดงผลภาพจากจอ Smartphone หากไม่มีสายสำหรับเชื่อมต่อโดยเฉพาะ ก็สามารถติดตั้ง Epson iProjection ได้ทั้ง Apple iOS และ Google Android ซึ่งโหลดได้จากที่ https://www.epson.co.th/iprojection ครับ
การตอบสนองการตั้งค่าต่างๆ ไวมาก เปลี่ยนประสบการณ์ในการตั้งค่า Projector ไปเลย
ใครที่เคยใช้ Projector เก่าๆ หรือรุ่นเล็กๆ ก็คงมักจะหงุดหงิดใจทุกทีที่ต้องทำการตั้งค่า เพราะ Projector เหล่านั้นมักตอบสนองช้า กดปุ่มบน Remote ไปก็มีชะงักเล็กน้อย หรือพอเลือกคำสั่งใดไปก็ต้องรอซักครู่ก่อนที่อุปกรณ์จะเริ่มปรับตาม แต่กับ Epson Home Theatre Projector นี้ถือว่าประทับใจมากครับ เพราะกดอะไรปุ๊บก็ตอบสนองปั๊บทันที ดังนั้นตอนลองผิดลองถูกกับการใช้ความสามารถต่างๆ จึงสนุกมืออยู่ไม่น้อย
Remote สารพัดประโยชน์
สำหรับ Remote ของ Epson นี้ก็นับเป็นอีกจุดที่ประทับใจมากเช่นกันครับ เพราะโดยปกติเวลาใช้งาน Projector ทั่วๆ ไป ถ้าตั้งมุมองศาการฉายจอดีอยู่แล้ว Remote ก็มีหน้าที่แค่เอาไว้เลือก Source เท่านั้น แต่ Remote ของ Epson ที่ทดสอบนี้สามารถทำอะไรได้เยอะมาก ตั้งแต่การกดปุ่ม Auto เพื่อปรับจอแบบอัตโนมัติ, การสั่ง Split หน้าจอแยกเป็น 2 จอย่อย, การสั่ง Freeze หน้าจอให้แสดงภาพล่าสุดค้างเอาไว้แม้ภาพจริงใน Notebook จะเปลี่ยนไปแล้ว, การสั่ง Zoom เข้าออกเพื่อเน้นเนื้อหาบางส่วน, การใช้ Pointer ชี้เนื้อหาส่วนที่สำคัญในการนำเสนอโดยไม่กระทบกับ Cursor Mouse ที่ใช้อยู่, การปรับโทนการแสดงผลให้เหมาะกับเนื้อหาที่กำลังรับชม และอื่นๆ อีกมากมาย
ลองปรับค่าต่างๆ ในอุปกรณ์ดู
สำหรับการตั้งค่าเชิงลึกต่างๆ นั้นก็สามารถทำผ่าน Remote ได้เลย เพียงแค่กด Menu ขึ้นมาก็สามารถตั้งค่าต่างๆ ตามที่ต้องการเองได้แล้ว
มีกระเป๋าให้จัดเก็บและพกพาได้ง่าย สำหรับการใช้งานนอกสถานที่
ในอุปกรณ์ที่ได้รับมาทดสอบนี้ก็มีกระเป๋าสำหรับใส่ Projector ด้วยครับ ใช้ได้ทั้งการกันฝุ่นและการพกพาอย่างสะดวก มีช่องย่อยสำหรับใส่ Remote และสายต่างๆ ที่จำเป็นให้ด้วย
ความสามารถที่อยากทดสอบแต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง
จริงๆ แล้วตัว Projector นี้ทำอะไรได้หลากหลายมากแต่ในครั้งนี้เราไม่ได้มีโอกาสทดสอบกัน เช่น
- ลำโพงเสียงที่มีอยู่ใน Projector แต่เนื่องจากไม่มีสาย HDMI ไว้ทดสอบเลยไม่ได้ลองใช้ความสามารถนี้ครับ
- จอขนาด 300 นิ้ว พอดีสถานที่ไม่เอื้ออำนวยเลยได้ใช้ที่ขนาด 60 นิ้ว – 100 นิ้วเท่านั้นครับ ซึ่งภาพก็ออกมาคมชัดสว่างดีมากอยู่
โดยสรุปแล้วก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายดีครับ เพียงแต่ว่าในการใช้งานจริงก็อาจต้องเตรียมสายในการเชื่อมต่อหลายๆ แบบเอาไว้ให้พร้อม ส่วนการใช้งานนอกสถานที่ก็ต้องประเมินเรื่องระยะการฉายภาพและตำแหน่งในการติดตั้งให้ดี ซึ่งการนำอุปกรณ์ไปทดสอบก่อนก็ใช้งานจริงก็จะทำให้มั่นใจได้มากขึ้น แต่สำหรับการใช้งานในการฝึกอบรมทั่วๆ ไปก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถใช้งานได้เลยแน่ๆ อยู่แล้ว
จุดที่ประทับใจนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องของคุณภาพในการแสดงผลที่ภาพออกมามีสีสันสวยงามและคมชัดดี แตกต่างจาก Projector ในอดีตเป็นอย่างมาก และด้วภาพที่ขนาดใหญ่กับความสบายตา ก็ทำให้ Projector รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการนำไปใช้งานและการนำไปใช้เพื่อความบันเทิงเลยครับ
Epson Home Theatre Projector นี้เหมาะกับใคร?
สำหรับผู้ที่อยากมีประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์หรือวิดีโอต่างๆ บนจอขนาดใหญ่ Epson Home Theatre Projector นี้ก็สามารถกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจากการซื้อจอ Monitor หรือโทรทัศน์ในบ้านได้ ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกันแต่ Epson Home Theatre Projector สามารถแสดงผลบนจอขนาดใหญ่ถึง 100 นิ้วหรือ 300 นิ้วได้สบายๆ
นอกเหนือจากการใช้งานเพื่อความบันเทิงภายในบ้านที่พักอาศัยแล้ว Epson Home Theatre Projector เองก็ยังสามารถถูกนำไปใช้ในธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางได้ ทั้งการติดตั้งใช้งานภายในห้องประชุม, การนำไปใช้นำเสนอนอกสถานที่, การนำไปจัด Event หรืองานสัมมนา และการนำไปใช้ในการออกบูธเพื่อดึงดูดให้คนสนใจภาพนิ่งหรือวิดีโอขนาดใหญ่ได้
ทั้งนี้ Epson Home Theatre Projector นี้ก็ยังเป็น Projector อีกตระกูลที่เหล่าธุรกิจ Organizer มักเลือกนำไปให้บริการเพื่อให้ธุรกิจองค์กรต่างๆ ได้นำไปเช่าใช้งาน อีกทั้งธุรกิจโรงแรมหรือห้องประชุมเอง ก็มักเลือกนำไปใช้เป็น Projector สำหรับรองรับความต้องการจากภาคธุรกิจ เพื่อใช้สถานที่ในการจัดงานประชุม, นำเสนอ หรือฝึกอบรมก็ตาม
ติดต่อ Epson ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจใช้งาน Projector รุ่นต่างๆ ทั้งสำหรับการใช้งานภายในบ้านที่พักอาศัย, ในธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการ Projector สำหรับนำไปใช้งานเฉพาะทางในรูปแบบต่างๆ สามารถติดต่อทีมงาน Epson เพื่อขอข้อมูล, ขอคำปรึกษา หรือขอใบเสนอราคาได้ทันทีที่ call center 02-685-9899 และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Epson ได้ที่ https://www.epson.co.th