IBM Flashsystem

ผงาด DeepSeek เคลมเหนือชั้นแถมปล่อย Open Source สะเทือนทั้งวงการ AI

เรียกได้ว่าเป็นอีกเหตุการณ์พลิกโลกที่เกิดขึ้นมาตามหลังจาก ChatGPT ได้กำเนิดขึ้นมาก็ว่าได้ หลังจากที่ “DeepSeek-R1” โมเดล AI สัญชาติจีนที่ปล่อยออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วนั้นมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า OpenAI-o1 และที่สำคัญคือ “Open Source” เอาไปใช้ต่อยอดได้เลยอีกด้วย

บทความนี้จะพามารู้จักกับ DeepSeek ที่เปิดตัวโมเดลออกมาภายในช่วงเวลาเพียงแค่สัปดาห์นิด ๆ ที่ผ่านมาเท่านั้นก็ได้ทำให้วงการ AI สั่นสะเทือนและทำให้ราคาหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐโดยเฉพาะ NVIDIA ที่ร่วงลงมาอย่างหนักภายในเวลาไม่กี่วัน

DeepSeek คือบริษัท AI สัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2023 โดยคุณ Liang Wenfeng ที่เมืองหางโจว ช่วงตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน โดยคุณ Liang Wenfeng เรียนจบในสาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ (Information and Electronic Engineering)

ปัจจุบัน DeepSeek มีโมเดลหลากหลายรูปแบบให้บริการ อาทิ

  • DeepSeek V3โมเดลที่ปล่อยออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ชี้ให้เห็นถึงขีดความสามารถอันทรงพลังไม่แพ้โมเดลชั้นนำ ซึ่งได้คะแนนที่เหนือกว่าในหลาย ๆ Benchmark ในขณะที่ชุดทดสอบอื่น ๆ ก็ยังได้คะแนนระดับกลาง ๆ หรือสูสีที่อาจจะเบียดขึ้นเป็นผู้นำได้ไม่ช้านี้
  • DeepSeek Coder ที่ประกอบไปด้วยโมเดลเขียนโค้ดโปรแกรม ที่สามารถช่วยเติมเต็มการเขียนโค้ดได้ในหลายภาษาชั้นนำ เช่น Python, Java, C, PHP, R, Shell, Solidity, Yaml เป็นต้น
  • DeepSeek Math โมเดลที่ใช้แก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยเน้นที่ทักษะในการแก้ไขได้ด้วยตนเองโดยที่ไม่ขึ้นกับเครื่องมือภายนอกแต่อย่างใด

และโมเดลที่ทำให้ทั้งโลกและวงการ AI สั่นสะเทือนภายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ “DeepSeek-R1 ที่เพิ่งปล่อยออกมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2025 ที่ผ่านมา” โดยบริษัทได้ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า OpenAI-o1 คู่แข่งคนสำคัญในหลาย ๆ Benchmark 

จุดสำคัญคือ DeepSeek ได้ปล่อยให้โมเดล DeepSeek-R1 เป็น Open Source (MIT License) พร้อมเปิดรายงานเชิงเทคนิคออกมาเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้องค์กรสามารถนำไปใช้ต่อยอดกันในเชิงพาณิชย์ได้อย่างอิสระอีกด้วย 

Credit : X.com

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้ทั้งโลกเบนเข็มไปที่ DeepSeek เพื่อทดลองใช้งาน รวมทั้งหน้าสื่อชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศล้วนพูดถึงและวิเคราะห์กันมากมาย และด้วยการเปิดให้เข้าใช้งานได้ “ฟรี” จึงทำให้มีผู้ใช้จำนวนมากเข้าไปเริ่มต้นใช้งาน DeepSeek จนกระทั่ง DeepSeek ได้ออกมาเปิดเผยว่าเว็บไซต์เผยว่าถูกโจมตี Malicious Attack จึงอาจจะทำให้การสมัครเข้าทดลองใช้งานช้าสักเล็กน้อย

ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์กลับมาปกติแล้ว หากใครสนใจอยากทดลองใช้งาน DeepSeek-R1 สามารถลองใช้ DeepThink ได้ที่ chat.deepseek.com รวมทั้งหากใครสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับ DeepSeek-R1 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่งานตีพิมพ์

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้โลก AI สั่นสะเทือนไปทั่วโลกภายในเวลาอันสั้น นอกจากเรื่องประสิทธิภาพแล้ว ยังมีเรื่องความเป็น Open Source และ “เม็ดเงินลงทุน” ที่มีรายงานว่าใช้เม็ดเงินราว 5.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการ Train โมเดล ซึ่งอาจเป็นเพียงแค่เสี้ยวเล็ก ๆ ของเงินทุนที่เจ้าอื่นใช้ 

แต่ถ้าเทียบอุปกรณ์ที่ใช้เทรนอย่าง NVIDIA GPU ซึ่ง DeepSeek ใช้เพียง 50,000 ตัว ในขณะที่ OpenAI อาจใช้ไปราว 500,000 กว่าตัว ก็ชัดเจนว่าเม็ดเงินลงทุนในการสร้าง AI อันทรงประสิทธิภาพนั้นอาจจะสามารถมีต้นทุนที่ถูกมาก ๆ ได้ ด้วยเทคโนโลยีการวิจัยพัฒนาที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด

และนั่นหมายความว่าอุตสาหกรรม AI อาจจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้หน่วยประมวลผลที่ทรงพลังจำนวนมาก ๆ อย่างที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้ราคาหุ้นในตลาด Nasdaq หลาย ๆ ตัว เช่น NVIDIA, Broadcom, Microsoft, Alphabet เป็นต้น ร่วงลงมาตาม ๆ กัน โดยเฉพาะ NVIDIA ที่ร่วงมา 14.83% ภายใน 5 วันที่ผ่านมา

Credit : Google

ที่สำคัญคือ “ราคา” ที่จะเห็นว่า DeepSeek ให้บริการด้วยราคาที่ต่ำกว่ามาก ๆ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น ๆ ในอเมริกา เช่น ค่าบริการจาก OpenAI หรือ Claude ของ Anthropic สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้นักลงทุนเกิดคำถามในอุตสาหกรรม AI ของสหรัฐจนทำให้เกิดเหตุการณ์ราคาหุ้นดิ่งลงภายในเวลาอันสั้น ก็เป็นได้

สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณของบริษัท AI ฝั่งจีนที่ดูเหมือนจะก้าวตามทันผู้นำ AI อย่างสหรัฐอเมริกามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หากแต่สิ่งที่เกิดใหม่อย่าง DeepSeek ก็อาจจะยังคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์หลังจากมีผู้ใช้งานจริงในจำนวนมาก ๆ ว่าประสิทธิภาพจะเป็นไปดังที่เคลมหรือไม่ รวมทั้งจะสามารถยืนระยะความเชื่อมั่นในเวทีโลกได้หรือไม่ต่อไป

และสุดท้ายนี้ ต้องติดตามทางฟากบริษัท AI ฝั่งสหรัฐอเมริกาด้วยว่าจะมีการปล่อยของหรือนวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ ออกมาเพื่อแข่งขันกับ DeepSeek ในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ หากแต่ก็ไม่แน่ว่า DeepSeek อาจจะมีไม้เด็ดที่รอปล่อยออกมาในเร็ว ๆ นี้อีก ก็เป็นได้

ที่มา: 

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

ก้าวสู่โลกแห่ง AI และ Cloud Native ด้วยแพลตฟอร์ม Nutanix 

องค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายที่แอปพลิเคชันต้องการความรวดเร็วและยืดหยุ่น นอกจากนี้ AI กำลังเสริมสมรรถนะให้ธุรกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งสองปัจจัยต่างต้องการโครงสร้างพื้นฐานของไอทีที่เข้มแข็งและถูกออกแบบมาเพื่ออนาคต อย่างไรก็ตามการก้าวเข้าสู่ Cloud native และ AI ก็ยังเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านข้อมูลอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง Nutanix จึงได้จัดงาน “Nutanix …

Zscaler Webinar : เชื่อมต่อการทำงานอย่างปลอดภัยได้จากทุกที่ แม้เผชิญวิกฤต น้ำท่วม แผ่นดินไหว โรคระบาด ด้วย Zscaler SSE

Fusion Advantec และ ZScaler ขอเชิญ CTO, CIO, COO, IT Manager, IT Security, IT admin, IT …