CDIC 2023

Check Point ร่วมกับ VMWare เปิดตัวการให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายคลาวด์ส่วนบุคคล

check_point_logo

Check Point® Software Technologies Ltd. (Nasdaq: CHKP) ผู้นำทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ต ได้ประกาศร่วมมือกับ VMWare เพื่อจัดหาและให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ส่วนบุคคล (Private Cloud) บนพื้นฐานของระบบโครงสร้าง VMware

เนื่องจาก Data Center ในปัจจุบันเริ่มพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปใช้งานแบบ Virtual มากขึ้น ระบบรักษาความปลอดภัยจึงต้องพัฒนาให้รองรับการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วยเช่นกัน Virtualization ช่วยเพิ่มศักยภาพในการออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจเป็นอย่างมาก ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ Virtualization ก็ต้องเพิ่มศักยภาพตามเพื่อให้สามารถบริหารจัดการและป้องกันการบุกรุกโจมตีต่อแอพพลิเคชันเหล่านั้นตามนโยบายรักษาความปลอดภัยที่กำหนดได้โดยไม่เกิดปัญหา

Check Point Virtual Edition (VE) เป็นโซลูชันสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือ ครอบคลุมการป้องกันระบบทั้งหมดและสามารถติดตั้งเพื่อรองรับโครงสร้างแบบ Virtual ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยการออกแบบให้ทำงานร่วมกับ VMWare vSphere® 5.5 แต่ละองค์กรก็จะสามารถสร้างระบบรักษาความปลอดภัยบนโครงสร้างแบบ Virtual ได้ทันที ทุก Virtual Machine ที่ทำงานอยู่บน VMWare ก็จะถูกป้องกันโดยระบบ Check Point’s Multi-Layered Security โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขโครงสร้างของระบบเครือข่ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ Check Point VE ยังทำงานร่วมกับ VMware vCloud® Suite เพื่อช่วยในการป้องกัน Virtual Application ได้อีกด้วย

checkpoint_ve

“เนื่องจากบริษัทใหญ่ๆออกแบบระบบเครือข่ายบนคลาวด์ การให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยอย่างง่ายและรวดเร็วบนโครงสร้างแบบ Virtual จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” Gabi Reish รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ Check Point ได้กล่าวไว้ “การร่วมมือกับ VMWare ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันระบบเครือข่ายในยุคที่ลูกค้าของพวกเราหันไปใช้งานโครงสร้างระบบแบบ Virtual ได้”

Check Point VE จะเริ่มให้บริการใน Q1 ปี 2014 ซึ่งโซลูชันนี้เป็นเพิ่งส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับคลาวด์และโครงสร้างแบบ Virtual ของ Check Point เท่านั้น ซึ่งต่อไปจะได้เห็นโซลูชันร่วมกับ VMWare มากขึ้นแน่นอน

“VMWare ได้ให้บริการการทำงานแบบ Virtual โดยไม่ขึ้นกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล, ระบบเครือข่าย, หรือแม้แต่การบริหารจัดการ VMWare ได้ช่วยลูกค้าในการพุ่งเป้าไปสู่ Data Center แบบไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์” Hatem Naguib รองประธานฝ่ายระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยของ VMWare ได้กล่าวไว้ “การเปิดตัวของ Check Point VE ที่รวมกับโซลูชัน vSphere รุ่นล่าสุดหรือโซลูชันใหม่ของเราอย่าง VMWare NSX™ ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบโครงสร้างแบบ Virtual และระบบคลาวด์ของลูกค้า”

ฟังก์ชันการทำงานของ Check Point VE ประกอบด้วย

  • การทำงานร่วมกับ VMware vSphere 5.1 และ 5.5, vCenter Server™, vCloud Suite และ VMware NSX™
  • บริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์สำหรับอุปกรณ์ Check Point ทั้งแบบฮาร์ดแวร์ และแบบ Virtual
  • ตรวจสอบทราฟฟิคระหว่าง VM โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขโครงสร้างของระบบเครือข่าย
  • ป้องกัน Virtual Machine ตัวใหม่โดยอัตโนมัติ
  • ออกแบบนโยบายรักษาความปลอดภัยบน Check Point บนพื้นฐานของ VMWare Object ได้
  • ป้องกันทุก Virtual Machine โดยไม่ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของหมายเลข IP
  • ติดตั้งและทำงานร่วมกับทุก Virtual Machine ได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดการทำงานของแอพพลิเคชัน

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Check Point VE และการทำงานร่วมกับ VMware: http://www.checkpoint.com/products/security-gateway-virtual-edition/

ที่มา: http://www.checkpoint.com/press/2014/check-point-collaborates-with-vmware-to-provide.html


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Sirisoft ผนึกกำลัง Red Hat และ VST ECS นำเสนอ Red Hat OpenShift Platform Plus [Guest Post]

Sirisoft (สิริซอฟต์) ผู้ให้บริการด้านการให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของไทย ผนึกกำลัง Red Hat (เร้ดแฮท (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการด้านโซลูชันโอเพ่นซอร์สระดับแนวหน้าของโลก และ VST ECS (วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) …

ความท้าทายของสายเคเบิ้ลใต้น้ำ

เชื่อหรือไม่ว่าข้อมูลอินเทอร์เน็ตกว่า 97% ต้องพึ่งพาอาศัยเคเบิ้ลที่เดินข้ามมหาสมุทรให้เราทุกคนในโลกสามารถพูดคุยกันได้ แต่รู้หรือไม่ว่าตัวสายเคเบิ้ลใต้น้ำเองก็มีเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงปลอดภัย ทั้งในแง่ของการชำรุดเสียหาย หรือความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เราอาจไม่ทราบมาก่อน