การย้ายระบบสู่คลาวด์ทำให้อำนาจการควบคุมเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัย แทบจะหลุดลอยออกจากทีมงาน infrastructure เดิมขององค์กร ไปสู่ทีม Cloud หรือ DevOps แทน ในบทความนี้จะพูดถึงแนวทางที่อาจทำให้ทุกฝ่ายกลับมาทำงานร่วมกันได้ และไม่ลดทอนประสิทธิภาพความรวดเร็วในการทำงาน
ความน่าสนใจที่ Networkworld ได้นำเสนอเกี่ยวกับขอบเขตหน้าที่ระหว่างโลกเก่าและใหม่คือ เครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยที่อยู่ในคลาวด์ไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยทีมเดิม โดยผู้เขียนยกตัวอย่างว่า DevOps ที่ดูแลระบบอีคอมเมิร์ซบนคลาวด์ละเลยที่จะฟังคำแนะนำของทีม Network เกี่ยวกับการทำ PCI DSS แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากที่ ผู้ปฏิบัติงานในคลาวด์มองว่าตนต้องการความรวดเร็ว เน้นล้มให้เร็วลุกให้ไว ตามคอนเซปต์ที่พวกเขายึดถือ แต่ทีมงาน Network และ Security คือผู้ที่ขัดขวางเส้นทางนวัตกรรมอันของพวกเขา
ในที่สุดทีมงานด้าน Network และ Security ก็มาพร้อมกับแนวทางใหม่ที่จะดึงการควบคุมกลับมา ซึ่งพวกเขาได้นำโซลูชันที่รองรับกับการทำงานบน Multi-cloud โดยเปิดกว้างให้ทำการโปรแกรมได้ (Programmatic) เพื่อตอบโจทย์ให้ทีม Cloud และ DevOps สามารถบริการตนเองด้านเครือข่ายได้ (Self-service) เช่น การร้องขอ IP Address, สร้าง DNS, แก้ไข Firewall Policy และ แก้ไข Routing
แน่นอนว่าหากทุกฝ่ายเจอกันตรงกลางได้อย่างน่าพอใจ ฝั่งทีมสมัยใหม่ยังทำงานได้อย่างคล่องตัว การปกป้องจากทีม Network และ Security จะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบเกิดปัญหา โดยยังมีผลสำรวจที่สนับสนุนถึงการพบกันกึ่งกลาง ที่พวกเขามองระบบ API เป็นแกนกลางสำคัญ ทั้งการเชื่อมต่อกับระบบ ITSM หรือใช้สร้างช่องทางบริการต้นเองอย่างที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่องค์กรมองเห็นความสำคัญในการทำงานรวมกันของทุกฝ่ายมากขึ้น
โดยยังมี 3 ความท้าทายในการประยุกต์ใช้โซลูชันเครือข่ายที่รองรับ Multi-cloud รออยู่คือ 1.) ความซับซ้อนของเครือข่าย 2.) งบประมาณ 3.) Silo ของแต่ละหน่วยปฏิบัติการที่ต้องมาตัดสินใจร่วมกัน