Atlassian ประกาศเปิดให้ใช้งาน Rovo AI โซลูชัน AI ระดับองค์กรแก่ลูกค้าทุกราย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยฟีเจอร์ค้นหาอัจฉริยะ, แชทอัตโนมัติ และเอเจนต์ AI เฉพาะทาง

หลังจากให้บริการมานานกว่า 20 ปี Atlassian ยืนยันว่าอนาคตของการทำงานเป็นทีมคือการผสานการทำงานระหว่างมนุษย์และ AI จึงตัดสินใจเปิดให้ผู้ใช้งาน Jira, Confluence และ Jira Service Management สามารถใช้งาน Rovo ได้ภายในการสมัครสมาชิกที่มีอยู่แล้ว โดยเริ่มจากแพ็กเกจ Premium และ Enterprise ก่อน แล้วตามด้วย Standard ในช่วงเดือนต่อๆ ไป จากผลสำรวจล่าสุดของบริษัทพบว่าพนักงานองค์กรใช้เวลาถึง 25% ในการค้นหาข้อมูล คิดเป็นเวลาสูญเสียกว่า 2.4 พันล้านชั่วโมงต่อปี
Rovo มาพร้อมฟีเจอร์หลักที่น่าสนใจ ได้แก่:
- Rovo Search: ระบบค้นหาระดับองค์กรที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันภายนอกกว่า 50 รายการ เช่น Gmail, OneDrive และ Notion ทำให้หมดปัญหาการค้นหาข้อมูลที่กระจัดกระจาย
- Rovo Chat: ผู้ช่วยพร้อมให้คำตอบและคำแนะนำตลอดเวลา สามารถดำเนินการแทนผู้ใช้งานได้ เช่น ส่งข้อความใน Slack, สร้างเอกสาร Google และนัดหมายใน Outlook
- Rovo Agents: เอเจนต์ AI ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพร้อมทำงานร่วมกับทีม มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบที่สามารถสร้างเองได้ตามความต้องการ
- Rovo Studio: แอปใหม่ล่าสุดสำหรับสร้างเอเจนต์ AI, ระบบอัตโนมัติ และฟังก์ชันอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด
เอเจนต์ของ Rovo มีหลากหลายประเภทที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของทีม อาทิ Teamwork Collection Agents ที่ออกแบบมาสำหรับทีมทุกประเภท, Dev AI Agents สำหรับนักพัฒนาเพื่อลดเวลาที่ไม่ได้ใช้ในการเขียนโค้ด และเอเจนต์สำหรับปรับปรุงการให้บริการทั่วทั้งองค์กร เช่น Root Cause Analyzer ที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ Atlassian ได้ออกแบบโควต้าการใช้งานให้ผู้ใช้งานทุกรายสามารถใช้ประโยชน์จาก Rovo ได้อย่างเต็มที่ผ่านระบบ AI Credits และ Indexed Objects โดยพื้นฐานของ Rovo คือ Teamwork Graph เทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดจาก Atlassian และแอปพลิเคชันภายนอก ช่วยให้ระบบเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างงาน, ความรู้, ทีม และเป้าหมายขององค์กร
ที่มา: https://www.atlassian.com/blog/announcements/team25-rovo-for-all