AMD ได้เผยรายละเอียดแผนการพัฒนา GPU ใน 2-3 ปีจากนี้เพื่อรุกตลาดระดับดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ
AMD ได้เผยถึง GPU CDNA หรือ Architecture ใหม่เพื่อรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าปัจจุบันตลาดดาต้าเซ็นเตอร์มีการพึ่งพา GPU เพื่องานที่ต้องคำนวณสูง เช่น HPC, AI, Analytics โดยแนวทางใหม่ของ AMD คือการยอมรับว่าการใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ด้านกราฟฟิคมากนักเทียบกับการ์ดจอสำหรับเล่นเกมอย่าง AMD RDNA (Radeon) ตัว CDNA จึงเป็นการตัดฟีเจอร์ด้านการแสดงผลกราฟฟิคที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วมุ่งไปที่การพัฒนาเรื่องการคำนวณแทน โดยจะเริ่มจากการแตกกิ่งที่ Vega 20
ถัดมาคือการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อภายในระหว่างชิปเซ็ต GPU-to-GPU และ CPU-to-CPU ด้วยเทคโนโลยี Infinity Fabric (ภาพประกอบด้านบน) โดยเทคโนโลยีนี้รู้จักกันครั้งแรกพร้อมกับการออกของ Zen ซึ่งตอนนั้น EPYC ยังคุยกับ GPU ผ่าน PCIe 3.0 แต่ AMD วางแผนว่า CDNA รุ่นแรกของตนจะใช้พัฒนาการของ Infinity Fabric ที่กลายเป็น Infinity Architecture ซึ่งจากรูปจะเห็นได้ว่าการคุยกันระหว่าง GPU-to-GPU 4 ตัวจะเป็น Ring แล้วแต่ยังคงคุยกับ CPU ด้วย PCIe อยู่
ในขณะที่ CDNA 2 มีแผนที่จะใช้ Infinity Architecture ที่พัฒนามากยิ่งขึ้นที่ GPU คุยกันเองได้มากขึ้นและ CPU รองรับการคุยกับ GPU ได้มากและเร็วขึ้นด้วย (ตามรูปประกอบด้านล่างที่ Gen 3 Infinity EPYC เชื่อมต่อกับ GPU ได้ถึง 4 ตัว) นอกจากนี้เทคโนโลยี Infinity ที่พัฒนามากขึ้นยังช่วยให้เกิด Unified Memory ซึ่งจะช่วยให้การโปรแกรมมิ่งง่ายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง AMD ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคมากนักแต่ก็พอจะเห็นภาพถึงความตั้งใจเพื่อสู้ศึก GPU ในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ได้ชัดเจนครับ
ที่มาและเครดิตรุปภาพ : https://www.zdnet.com/article/amd-unveils-new-gpu-architecture-for-data-center-compute-workloads/ และ https://www.anandtech.com/show/15593/amd-unveils-cdna-gpu-architecture-a-dedicated-gpu-architecture-for-data-centers และ https://www.anandtech.com/show/15596/amd-moves-from-infinity-fabric-to-infinity-architecture-connecting-everything-to-everything