Amazon เปิดตัว AWS Data Exchange for Amazon Redshift

Amazon เปิดตัว AWS Data Exchange for Amazon Redshift บริการดึงข้อมูลจาก 3rd-party เข้าสู่ระบบ Data Warehouse

AWS เปิดตัว Data Exchange เมื่อปี 2019 เป็นบริการที่ช่วยให้องค์กรสามารถ Subscribe ข้อมูลจากภายนอกองค์กรได้ ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในขั้นตอนทำสัญญาหรือพัฒนา API ในการเชื่อมต่อ ปัจจุบันมีข้อมูลมากกว่า 3,600 แหล่งให้ใช้งาน เช่น Reuters, Dun & Bradstreet, Foursquare และอื่นๆ

ล่าสุด AWS ได้เปิดตัว AWS Data Exchange for Amazon Redshift แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลเหล่านี้เข้าไปยัง Amazon Redshift ซึ่งเป็นระบบ Data Warehouse ได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดภาระในการย้ายข้อมูลเข้าระบบลงไปได้ โดยจุดเด่นคือ ข้อมูลจาก 3rd-party จะถูกอัปเดตอยู่เสมอ โดยจะเป็น Query ข้อมูลโดยตรงจาก 3rd-party ที่เก็บอยู่บน Amazon Redshift data warehouse

ปัจจุบัน AWS Data Exchange for Amazon Redshift เปิดให้ใช้งานใน Region ดังนี้ US East (N. Virginia), US East (Ohio), US West (Northern California), US West (Oregon), Asia Pacific (Seoul), Asia Pacific (Singapore), Asia Pacific (Sydney), Asia Pacific (Tokyo), Europe (Frankfurt), Europe (Ireland) และ Europe (London)

ที่มา: https://siliconangle.com/2021/10/20/amazon-previews-aws-data-exchange-amazon-redshift-data-warehouse-service/

About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนผู้มีความสนใจใน Enterprise IT ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในไทย ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่ Cupertino, CA แต่ยังคงมุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีให้กับทุกคน

Check Also

NDBS Thailand จับมือพันธมิตรชั้นนำ จัดงาน NDBS Thailand & SAP User Conference 2024 ภายใต้คอนเซปต์ Bring Out The Best วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2024 ณ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok

NDBS Thailand  บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำในการติดตั้งระบบซอฟแวร์ SAP on Cloud และ SAP Business One  ขอเรียนเชิญผู้บริหาร, ผู้นำองค์กรธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจ SMEs ร่วมงานสัมมนายกระดับการบริหารจัดการธุรกิจตามแนวคิด …

Microsoft ยกเลิกการสนับสนุนโปรโตคอล VPN แบบ PPTP และ L2TP ใน Windows Server

Microsoft ประกาศยกเลิกการสนับสนุนโปรโตคอล VPN แบบ PPTP และ L2TP ใน Windows Server แนะนำให้ใช้งานโปรโตคอล SSTP และ IKEv2 แทน