CDIC 2023

Amazon จับมือ Microsoft และ Facebook ผลักดัน Open Source AI Exchange ร่วมกัน

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Microsoft และ Facebook ได้ประกาศความร่วมมือกันในโครงการ Open Neural Network Exchange (ONNX) ซึ่งเป็นโครงการ Open Source สำหรับเปิดให้ทำการแลกเปลี่ยน AI Model ระหว่าง Framework ต่างๆ ได้โดยง่าย ตอนนี้ทาง Amazon เองก็ได้เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วยอีกรายแล้ว

Credit: ONNX

 

Amazon Web Services (AWS) นั้นจะเข้ามาร่วมเพื่่อทำให้ Apache MXNet ซึ่งเป็น Deep Learning Framework หลักของ AWS เองนั้นสนับสนุน ONNX ด้วยอีกราย ทำให้เหล่านักพัฒนาสามารถทำการใช้ PyTorch, Microsoft Cognitive Toolkit หรือ Caffe2 เพื่อสร้างและฝึก Model ขึ้นมาให้เรียบร้อย ก่อนจะ Import เข้ามาใช้งานจริงๆ บน MXNet ได้

ONNX นี้ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากเหล่าผู้พัฒนา Framework หลากหลายราย และเหล่าผู้ผลิต Hardware อย่าง AMD, ARM, Huawei, IBM, Intel และ Qualcomm โดยทาง Microsoft นั้นมองว่า ONNX นั้นจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ Artificial Intelligence (AI) กลายเป็นเทคโนโลยีที่เปิดมากขึ้นและยึดติดกับเครื่องมือที่ใช้งานน้อยลง และทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง AI เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ONNX สามารถศึกษาได้ที่ https://onnx.ai/ และ https://github.com/onnx ครับ

 

ที่มา: https://www.onmsft.com/news/amazon-joins-microsoft-and-facebook-in-onnx-open-source-ai-initiative


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Intel เผยชิปประมวลผล 14th กำลังจะมาในธันวาคมนี้

Intel ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชิปรุ่นถัดไปหรือ 14th ที่ใช้ชื่อโค้ดว่า ‘Meteor Lake’ โดยคาดว่าจะปล่อยออกมาราวเดือนธันวาคมนี้ เพื่อกรุยทางต้อนรับงาน CES ต้นปีถัดไป ครั้งนี้มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมทั้งแนวคิดการออกแบบที่เป็น Chiplet และส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงแนวคิดการทำงานของ E-core …

“หัวเว่ย” เผย 3 เทรนด์สำคัญของคลาวด์สำหรับภาคองค์กรไทย [Guest Post]

ปัจจุบันเทคโนโลยีคลาวด์ กลายเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่แทบทุกองค์กรในประเทศไทยหันมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานของตนเองกันอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะคลาวด์ถือเป็นตัวแปรหลักที่สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน พัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานในองค์กร และที่สำคัญคือสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจจากการลดต้นทุนและส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า จุดแข็งที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้องค์กรต่างๆ ในบ้านเรา ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่มาจนถึงขนาดเล็กอย่างเอสเอ็มอี ต่างปรับตัวมาใช้งานคลาวด์กันอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมที่ต่างกันก็มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป และการเกิดขึ้นของรูปแบบธุรกิจหรือบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้ภาคองค์กรไทยมีความต้องการที่จะติดตั้งและใช้บริการคลาวด์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นตามไปด้วย …