IBM Flashsystem

5 เหตุผลที่หลายองค์กรยังคงเลือกใช้ VMware ต่อ ไม่ย้ายออกไปใช้ Hypervisor หรือ Cloud อื่น

แม้ว่าที่ผ่านมา VMware by Broadcom จะปรับนโยบายและราคาจนหลายองค์กรเริ่มมองหาทางเลือกอื่น เช่น Hypervisor หรือ Cloud แต่หลายธุรกิจก็ยังคงเลือกใช้ VMware ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ

ทีมงาน TechTalkThai รวบรวมประเด็นสำคัญที่ทำให้องค์กรจำนวนมากยังคงเลือกใช้ VMware แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ License ซึ่งส่งผลต่อแผนการลงทุนด้าน IT ขององค์กร ทั้งจากบทวิเคราะห์และการสอบถามจากผู้คนในแวดวง IT Infrastructure ในไทย และได้ข้อสรุปถึงประเด็นที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำแนวทางปรับกลยุทธ์ IT เพื่อให้การใช้งานคุ้มค่าและตอบโจทย์ในระยะยาว

1. การวางแผนและทดสอบย้ายระบบจาก VMware นั้นใช้เวลานาน และมีความท้าทายหลายประการ

แม้จะมีตัวเลือกอื่นที่เปรียบเทียบไม่ว่าจะโซลูชั่น Virtualization, HCI หรือ Cloud จากผู้ให้บริการอื่น ในเรื่องราคาและค่าใช้จ่าย แต่หลายองค์กรก็เลือกไม่ย้าย เพราะขั้นตอนการวางแผนและทดสอบย้ายระบบแล้วพบว่ามีความซับซ้อน และใช้เวลานาน โดยเฉพาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มี VM จำนวนมาก เช่น

  • VM บางระบบอาจไม่สามารถย้ายข้าม Hypervisor ได้ทันที หรือมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ
  • การทดสอบระบบต้องใช้ทรัพยากรสูง รวมถึงต้องมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (เช่น SI หรือทีม ITภายในองค์กร) ซึ่งในหลายกรณี SI หรือผู้ให้บริการก็ไม่มีความพร้อมที่เพียงพอต่อตลาดอย่างครบถ้วน
  • มีความเสี่ยงเรื่อง Downtime หรือระบบล่มทำให้ผู้บริหารลังเล
  • การวางแผนย้ายระบบต้องพิจารณาหลายจุด ทั้งเรื่อง License, HCI, Storage, Server และ Hardware ใหม่

ซึ่ง Gartner ได้สำรวจและออกรายงานมาในหัวข้อ Quick Answer: Estimating a Large-Scale VMware Migration ซึ่งในรายงานดังกล่าวก้ได้ระบุว่า สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เพียงแค่ขั้นตอนของการวางแผนและทดสองย้ายระบบนี้ ก็อาจะใช้เวลานาน 7-10 เดือนแล้ว โดยต้องมีเจ้าหน้าในการดำเนินการมากในแบบ Full-Time ซึ่งยังไม่รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องใช้ในการย้ายระบบจริง

2. การย้ายระบบจาก VMware มีต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก

แม้องค์กรอาจมองว่าการย้ายออกจาก VMware จะช่วยลดต้นทุนระยะยาว แต่ความเป็นจริงแล้วต้นทุนแฝงจากการย้ายระบบ เช่น ค่าใช้จ่ายในการลงทุนจัดหา Hardware, Software, Cloud หรือ Services ใหม่ รวมถึงค่าแรงและเวลาที่ใช้กลับสูงกว่าที่คาดไว้มาก

จากข้อมูลของ Gartner การย้ายระบบ VM ขนาด 100 Host อาจใช้เวลากว่า 11–41 เดือน และมีต้นทุนรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 9,800–98,000 บาทต่อ VM

3. จุดเด่นสำคัญของโซลูชั่น Virtualization ที่ดีคือการรองรับระบบ Legacy, Traditional และ Cloud-ได้อย่างครอบคลุม แต่เทคโนโลยี Hypervisor บางระบบยังไม่อาจตอบโจทย์นี้ได้ดี

จุดสำคัญที่ทำให้ VMware เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Virtualization มาโดยตลอดก็คือการรองรับเทคโนโลยีได้อย่างหลากหลายครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นระบบ Legacy ที่ใช้งานต่อเนื่อง, ระบบ Traditional Infrastructure และระบบ Cloud-Native ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีในอนาคตอย่างเช่น Container หรือ Microservices

การพิจารณาย้ายระบบ นั้นอาจไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างครอบคลุมนัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ของระบบปฏิบัติการเก่าหรือระบบปฏิบัติการที่ไม่แพร่หลายกับ Hypervisor หรือ Cloud ใหม่ปลายทาง ซึ่งจะเป็นประเด็นเฉพาะทางมากสำหรับองค์กรที่ยังมี Legacy System ที่ยังมีความสำคัญต่อธุรกิจอยู่

ในสภาวะแวดล้อมที่องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปสู่การบริหารจัดการ Container และ Microservices ที่อาจย้ายไปใช้ Hypervisor หรือ Cloud อื่นนั้นอาจต้องเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการ หรือเปลี่ยนรูปของระบบ Kubernetes ซึ่งก็ไม่ใช่งานที่ง่ายนัก และต้องอาศัยเวลาเพื่อเรียนรู้จากบุคลากรเทคนิคเฉพาะทางระดับสูง ซึ่งหลายส่วนอาจทำให้งานยากขึ้นเมื่อเทียบกับการทดสอบหรือการย้ายระบบได้

4. การออกแบบด้าน Integration และ Automation ให้กับ Virtualization ใหม่ที่จะย้ายมาใช้งานนั้นอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด

ในธุรกิจองค์กรหลายแห่งที่มีการใช้งาน VMware มาอย่างต่อเนื่องยาวนานนั้นก็มักจะมีการ Integrate ระบบหรือออกแบบ Automation Workflow เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการหรือเสริมความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยและการสำรองข้อมูลให้กับระบบด้วย

ซึ่งการย้ายระบบ ใหม่มักก็ทำให้องค์กรต้องพิจารณาในประเด็นนี้ ทำให้ธุรกิจองค์กรหลายแห่งจึงยังไม่อาจย้ายระบบได้ทันทีด้วยประเด็นด้าน Compliance, Availability หรือประเด็นแวดล้อมต่างๆ

5. Availability และ Cybersecurity ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่องค์กรหลายแห่งต้องให้ความสำคัญ

หลายองค์กรยังคงเลือกใช้ VMware เพราะสามารถตอบโจทย์ด้าน Availability และ Cybersecurity ได้ดี ระบบมีความเสถียร ปลอดภัย และพร้อมใช้งานสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับระบบที่ต้องการ Uptime และ Response Time ที่ต่ำ เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดหรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน

แม้จะมีตัวเลือกใหม่ๆ แต่ VMware ยังตอบโจทย์องค์กรที่ใช้ระบบ On-Premises ได้อย่างครบถ้วน ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความต่อเนื่อง และการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์

ในประเทศไทย องค์กรขนาดใหญ่ที่มีการใช้งาน VM จำนวนมากยังคงเลือกใช้ VMware เพราะการย้ายระบบทั้งหมดอาจเพิ่มความซับซ้อน เสี่ยงต่อการหยุดชะงัก และใช้เวลาเปลี่ยนผ่านนาน ทำให้ VMware ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือในระยะยาว

คุ้มค่าจริงหรือไม่? เมื่อองค์กรตัดสินใจไปต่อกับ VMware ในยุค Hybrid Cloud และจะต้องวางกลยุทธ์อย่างไรให้คุ้มค่ามากกว่าเดิม?

การตัดสินใจใช้งาน VMware ต่อไปนั้นอาจทำให้ธุรกิจองค์กรบางแห่งต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่บางแห่งก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงเดิม แต่สิ่งที่จะได้มาจากการเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้ง License ของ VMware ในครั้งนี้ ก็มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยน Data Center ของตนเองให้กลายเป็น Private Cloud ได้ง่ายขึ้น และพร้อมจะก้าวไปสู่ทางของ Hybrid Multicloud ได้อย่างคล่องตัวในอนาคต

จากการสำรวจและวิเคราะห์ของ TechTalkThai ข้อแนะนำสำหรับธุรกิจที่ตัดสินใจใช้งาน VMware ต่อ เพื่อปรับปรุงสถาปัตยกรรมและการใช้งานของระบบให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น จึงมีดังนี้

1. วางกลยุทธ์ด้านระบบ Data Center Storage ใหม่ ใช้งาน VSAN ควบคู่กับ Enterprise Storage

ด้วยรูปแบบของ License ใหม่ที่ทำให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้งาน VSAN สำหรับโปรเจกต์ที่มีลักษณะการผสานกับสถาปัตยกรรม HCI ได้ในตัว การพิจารณาแยกการลงทุนระหว่างระบบ Virtualization และ SAN Storage ที่เคยมีอยู่นั้นก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะทำให้ธุรกิจมีทางเลือกและยืดหยุ่นมากขึ้นในการวางแผนการลงทุนด้าน Data Center และมี Storage ที่เลือกสรรตามลักษณะของ Workload ที่แตกต่างกันได้อย่างคุ้มค่า ยิ่งกว่าก่อน

ตัวอย่างเช่น หากเดิมธุรกิจมีการใช้งาน SAN Storage เป็นหลัก การเสริม HCI ก็จะทำให้ธุรกิจสามารถเลือกพื้นที่เพิ่มเติม เช่น การเสริม SSD ลงไปยัง Host ของระบบ Virtualization เพื่อสร้าง SSD Storage Tier เพิ่มเติมสำหรับ Workload ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล หรือการเพิ่ม HDD ลงไปยัง Host สำหรับสร้าง Storage Tier ที่เน้นความจุในการจัดเก็บข้อมูล หรือจะใช้งานในแบบ Hybrid ที่ผสมผสานระหว่าง SSD และ HDD แทนก็ได้

แนวทางนี้ยังเหมาะสำหรับธุรกิจในไทยที่มีการแยกการเลือกใช้งานระหว่างระบบ Storage ในขนาดกลาง หรือระบบที่เพิ่มพื้นที่สำหรับระบบ Backup ภายใน ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลที่สูงขึ้นไปด้วย ในขณะที่การเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ HCI นี้ ธุรกิจจะสามารถเลือกใช้งานระหว่าง SSD และ HDD ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน SAN Storage

ในหลายๆ กรณี ธุรกิจที่สามารถวางกลยุทธ์ได้ดีในการใช้งาน VMware ในแง่ HCI ทั้งหมด หรือการใช้งานคู่กับ SAN Storage ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า และช่วยยืดอายุการใช้งาน Hardware โดยรวมให้ยาวนานยิ่งขึ้น ลดต้นทุนในการจัดซื้อระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ต่อยอดจาก Virtualization สู่ Container และ Hybrid Multicloud

การปรับ License ของ VMware ในรอบนี้ได้เปิดให้ธุรกิจสามารถใช้งาน Virtualization ควบคู่กับ Container ได้ง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้องค์กรสามารถเดินกลยุทธ์ด้าน Cloud-Native หรือ Container ได้อย่างสะดวก และก้าวไปสู่ภาพของ Hybrid Multicloud ได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

ด้วยคุณสมบัตินี้ แนวทางหนึ่งที่แนะนำจึงเป็นการวางระบบ Private Cloud ภายในองค์กร ด้วยการต่อยอดจากระบบ Virtualization ของ VMware ให้สามารถรองรับ Container ได้ และปรับปรุง Workflow ในการ Migrate ระบบระหว่าง VMware ไปยังผู้ให้บริการ Public Cloud หรือ VMware Cloud ในประเทศได้ ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นด้านระบบ IT Infrastructure ที่สูงขึ้นในระยะยาว

3. เสริมการทำ Integration และ Automation ปรับงานให้เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งจุดแข็งของ VMware นั้นคือการผสานระบบเข้ากับระบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นการ Integrate ระบบเข้ากับโซลูชันด้าน Enterprise IT Infrastructure ที่มีการใช้งานอยู่, การเชื่อมต่อกับบริการ Cloud หรือแม้แต่การปรับการทำงานให้เป็นอัตโนมัติด้วยการทำ Automation จากเครื่องมือที่หลากหลาย ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะทำให้การลงทุนใช้งาน VMware ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Virtualization อีกต่อไป แต่กลายเป็น Private Cloud ที่องค์กรออกแบบได้เอง พร้อมคุณสมบัติอีกด้านคือความสามารถที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่คุ้มค่ากว่าการใช้ Public Cloud ได้สำหรับ Workload หลายประเภท

แนวทางนี้จะช่วยให้องค์กรที่ได้รับความคุ้มค่าจากการประหยัดเวลาในการทำงานของฝ่าย IT ที่จะลดท้อนลงเป็นอย่างมาก และสามารถนำเวลาเหล่านั้นไปดำเนินโครงการในเชิงธุรกิจได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ทรัพยากรฝ่าย IT ไปกับการ Migrate ระบบออกไปยัง Hypervisor อื่นแล้ว แนวทางนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเร่งเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ด้าน IT ได้ตรงเป้ารวดเร็วกว่า ไม่ต้องเสียเวลาหลายเดือนหรือหลายปีไปกับการย้ายระบบโดยไม่ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ให้กับลูกค้าเอง

4. เปิดรับต่อสถาปัตยกรรม Multi-Hypervisor

อีกหนึ่งแนวโน้มใหญ่ที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยนั่นคือการขยายตัวของสถาปัตยกรรมแบบ Multi-Hypervisor ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นใน On-Premises Data Center และ Private Cloud เป็นอย่างมากในอนาคต ซึ่งธุรกิจองค์กรสามารถพิจารณาการใช้งาน VMware ควบคู่ไปกับ Hypervisor อื่นที่อาจจำเป็นต้องใช้งานในบางจุดที่จำเป็นได้

โดยสำหรับ Workload ที่มีความสำคัญในระดับ Tier-0 หรือ Tier-1 ที่องค์กรยังคงใช้งานบน VMware เป็นหลัก ในขณะที่ระบบที่มีความสำคัญรองลงไปก็อาจไปใช้บน Hypervisor อื่นที่เหมาะสมก็ได้ ทำให้เกิดสถาปัตยกรรม Virtualization และ Container ในรูปแบบ On-Premises ที่หลากหลายยืดหยุ่นขึ้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำที่สรุปได้จากข้อมูลซึ่งกำลังเกิดขึ้นจริงในอุตสาหกรรม

สนใจโซลูชันจาก VMware ติดต่อทีมงาน VST ECS ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจใช้งานโซลูชันใดๆ จาก VMware สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือขอใบเสนอราคาจากทาง VST ECS ตัวแทนจำหน่าย VMware อย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้ที่ vmwareconnect@vstecs.co.th

 

 

 

 

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Foundation EGI ระดมทุนรอบใหม่ 23 ล้านดอลลาร์ ขยายแพลตฟอร์ม AI สำหรับอุตสาหกรรม

Foundation EGI สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปด้านวิศวกรรม (engineering general intelligence) เปิดเผยว่า บริษัทได้ระดมทุนใหม่จำนวน 23 ล้านดอลลาร์ เพื่อเร่งการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนคอขวดที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตให้เจริญก้าวหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์เฉพาะทาง

AWS เตรียมเปิดตลาดเอเจนต์ AI ร่วมกับ Anthropic ในสัปดาห์หน้า

มีรายงานว่า Amazon Web Services เตรียมเดินตามรอย Microsoft และ Google Cloud ด้วยการเปิดตัวตลาดเฉพาะสำหรับเอเจนต์ปัญญาประดิษฐ์ และนักพัฒนา AI รายโปรดอย่าง Anthropic ก็จะเป็นหนึ่งในพันธมิตรร่วมเปิดตัวด้วย