FortiGuard Labs ทีม Threat Intelligence ของ Fortinet ได้ออกรายงาน Fortinet Threat Landscape ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2019 โดยเก็บข้อมูล Threat Events หลายพันล้านรายการจาก Network Sensor ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งสามารถสรุปประเด็นที่น่าสนใจได้ 5 ข้อ ดังนี้
1. แฮ็กเกอร์มุ่งโจมตี Edge Services
มากกว่า 90% ของมัลแวร์มาทางอีเมล ส่งผลให้องค์กรอบรมพนักงานให้มีความรู้ด้าน Email Phishing และใช้โซลูชัน Email Security มากขึ้น ทำให้แฮ็กเกอร์เริ่มหันไปโฟกัสการโจมตีที่จุดอื่นที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจแทน หน่ึงในที่นิยมคือ Edge Services เพื่อใช้เป็นช่องทางส่งมัลแวร์เข้าระบบเครือข่ายต่อไป
2. Adblocker ถูกใช้เพื่อบายพาสสู่เว็บไซต์ของแฮ็กเกอร์
Adblocker เป็น Browser Extension สำหรับทำ Content Filtering และบล็อกโฆษณาต่างๆ ซึ่งสามารถใส่ Whitelists สำหรับเว็บโฆษณาที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม พบว่าแฮ็กเกอร์ได้เจาะระบบ Adblocker เหล่านี้เพื่อใส่เว็บของตนลงไปใน Whitelists ส่งผลให้สามารถลอบส่งโฆษณาที่แฝงมัลแวร์หรือส่งผู้ใช้ไปยัง Phishing Web ได้
3. Ransomware as a Service ใหม่ๆ พบบน Dark Web มากขึ้น
ปีที่ผ่านมา GrandCrap Ransomware และบริการ Ransomware as a Service (RaaS) ได้ทำเงินไปกว่า $2,000 ล้านแก่แฮ็กเกอร์ ส่งผลให้ Ransomware หลายตัว เช่น Sodinokibi และ Nemty ถูกปรับมาให้บริการแบบ RaaS มากขึ้น
4. Emotet Banking Trojan เริ่มให้บริการแบบ Malware as a Service
เช่นเดียวกับ Ransomware มัลแวร์ Emotet ซึ่งเป็น Banking Trojan ชื่อดังก็ถูกปรับไปใช้โมเดล Malware as a Service พร้อมเพิ่มความสามารถในการส่ง Malicioud Payload เข้าไปในระบบเครือข่าย เช่น Trickbot Trojan, Ryuk Ransomware และอื่นๆ นอกจากนี้ Emotet ยังถููกแพร่กระจายผ่านทางการโจมตีแบบ Phishing อีกด้วย
5. การโจมตีเก่าๆ ยังเป็นที่นิยม
ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมานี้ FortiGuard Labs พบความพยายามในการโจมตีช่องโหว่เก่าๆ เช่น ปี 2007 มากการโจมตีผ่านช่องโหว่ใหม่ในปี 2018 และ 2019 รวมกัน แสดงให้เห็นว่ายังคงมีหลายองค์กรที่ไม่เคยแพตช์ช่องโหว่เลย แม้ว่าช่องโหว่เหล่านั้นจะมีอายุนานมากแล้วก็ตาม
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.fortinet.com/blog/threat-research/fortinet-q3-threat-landscape-report.html
ที่มา: Fortinet Thailand User Group