แม้ว่าการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายขององค์กรผ่านทาง Wi-Fi จะกลายเป็นแนวทางหลักสำหรับผู้ใช้งานไปแล้ว แต่ในฐานะของผู้ดูแลระบบเครือข่ายขององค์กร การเลือกใช้ Ethernet Switch ที่ดีนั้นก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ระบบเครือข่ายมีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว
ในบทความนี้ เราจะสรุปถึง 5 แนวทางในการพิจารณาเลือกโซลูชัน Ethernet Switch ให้ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจองค์กรในอนาคต ดังนี้
1. เลือก Ethernet Switch ที่สามารถบริหารจัดการร่วมกับอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ ผ่าน Cloud ได้
ในธุรกิจองค์กรแต่ละแห่งนั้นต่างก็มีอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Switch, Wireless Access Point, SD-WAN หรืออุปกรณ์สำหรับรองรับการเชื่อมต่อในรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งด้วยจำนวนของอุปกรณ์ที่จะนำมาเชื่อมต่อเครือข่ายจะยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งส่งผลให้อุปกรณ์เครือข่ายต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับต่อการใช้งานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยเหตุนี้ การเลือก Ethernet Switch ที่สามารถบริหารจัดการร่วมกับอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ ได้จึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้การดูแลรักษาระบบเครือข่ายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ การเลือกโซลูชันที่สามารถบริหารจัดการผ่าน Cloud ได้นั้นก็จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว ทั้งในแง่ของการที่ผู้ดูแลระบบไม่ต้องทำการดูแลรักษาระบบ Management เหล่านี้ด้วยตนเอง ไปจนถึงการรองรับต่อกรณีที่ธุรกิจเติบโต และต้องมีอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้น หรือมีสาขาขององค์กรหลายแห่งเพิ่มขึ้น ระบบบริหารจัดการผ่าน Cloud แบบ Unified Cloud Management ก็จะช่วยลดภาระการทำงานของฝ่าย IT ลงได้อย่างมหาศาล
2. เลือก Ethernet Switch ที่รองรับการทำ Network Segmentation ได้อย่างยืดหยุ่น
ประเด็นด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยนั้นย่อมเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ อีกทั้งระบบเครือข่ายในปัจจุบันเองก็มีการออกแบบที่ซับซ้อน และไม่ยึดติดกับตำแหน่งของอุปกรณ์เครือข่ายในอดีตอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นความสามารถอย่าง Network Segmentation จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการใช้เพียง VLAN, ACL และการตั้งค่าอื่นๆ เพื่อแบ่งส่วนระบบเครือข่ายนั้นมีความซับซ้อนสูง ไม่ยืดหยุ่น อีกทั้งยังอาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
แนวทางหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในการทำ Network Segmentation นั้นก็คือการทำ Dynamic Segmentation จากการที่ Ethernet Switch และ Access Point สามารถทำการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเครือข่ายและนโยบายรักษาความมั่นคงปลอดภัยได้ตามการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานและประเภทของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้การจัดการเครือข่ายง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ การรองรับ EPVN-VXLAN เองก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะในการออกแบบระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อนสูงนั้น การสร้าง Network Overlay ขึ้นมาอีกชั้นจะทำให้การออกแบบเครือข่ายมีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ไม่มีข้อจำกัดจาก Physical Network อย่างในอดีตอีกต่อไป
3. เลือก Ethernet Switch ที่มีความมั่นคงทนทานสูง มี Downtime ที่ต่ำ
เนื่องจาก Ethernet Switch นั้นคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ระบบเครือข่ายแต่ละส่วนสามารถใช้งานได้ การเลือกโซลูชันที่มีความมั่นคงทนทานสูงจึงเป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา
นอกจากการเลือก Ethernet Switch ที่มี Redundancy ที่ดี และเชื่อมต่ออย่างมั่นคงโดยมีเส้นทางสำรองเสมอในกรณีที่จำเป็นแล้ว การเลือกโซลูชันที่มีความสามารถอย่างเช่นการทำ Live Upgrade เองก็จะช่วยลด Downtime ของระบบในระหว่างการทำ Maintenance หรือ Upgrade Firmware ให้กับระบบได้ ซึ่งก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้งานของ Network Engineer นั้นง่ายดายยิ่งขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือในกรณีที่มีการใช้ PoE Switch การเลือกอุปกรณ์ที่สามารถทำ Redundant PoE ได้ ก็จะช่วยให้อุปกรณ์ที่ต้องรับไฟจาก PoE อย่างเช่น Access Point, กล้องวงจรปิด หรือระบบอื่นๆ นั้นมี Downtime ที่ต่ำลงไปด้วย
4. เลือก Ethernet Switch ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่าย เพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขปัญหา
การแก้ไขปัญหาระบบเครือข่ายนั้นถือเป็นสิ่งที่ Network Engineer ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ไม่ว่าจะเลือกใช้โซลูชันระบบเครือข่ายที่ดีขนาดไหนก็ตาม ดังนั้นการเลือกโซลูชันที่มีตัวช่วยในการแก้ไขปัญหาให้ง่ายดายที่สุดนั้นก็เป็นอีกสิ่งที่ควรพิจารณา
ในอดีตการแก้ไขปัญหาระบบเครือข่ายนั้นคือการที่ผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะต้อง Log In เข้าไปยัง Ethernet Switch แต่ละชุด และเรียกใช้คำสั่ง Command Line เพื่อตรวจสอบข้อมูลและวิเคราะห์ด้วยตนเอง
แต่ในทุกวันนี้ Ethernet Switch ที่ดีนั้นมักจะมาพร้อมกับระบบรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ประมวลผลแก้ไขปัญหาได้แบบ Real-Time ในตัว ทำให้การตรวจสอบแก้ไขปัญหาผ่านระบบบริหารจัดการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วง่ายดายยิ่งขึ้น และแนวทางนี้ก็เป็นแนวทางที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับระบบเครือข่ายขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่อาจมีความซับซ้อนสูง
5. เลือก Ethernet Switch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาในระยะยาว
แนวโน้มหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกนั้นก็คือจำนวนของ Network Engineer กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในประเทศไทยด้วย ดังนั้นการวางระบบเครือข่ายให้มีความซับซ้อนน้อยที่สุดจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ในปัจจุบันนี้
นอกจากการเลือกใช้อุปกรณ์ Network จากผู้ผลิตรายเดียวกันทั้งหมดแล้ว การเลือกใช้ Ethernet Switch ที่มีระบบปฏิบัติการเดียวกันทั้งหมดตั้งแต่ Core, Aggregate ไปจนถึง Access นั้นก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การดูแลรักษาระบบเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เพื่อที่ผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้คำสั่งหรือวิธีการในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสำหรับแต่ละอุปกรณ์ที่อาจแตกต่างกัน และมั่นใจในความเข้ากันได้ของระบบทั้งหมดโดยรวม
Aruba CX Series Switch ตอบโจทย์การบริหารจัดการเครือข่ายแห่งอนาคตได้อย่างครบวงจร
Aruba CX Series Switch คือโซลูชัน Ethernet Switch ที่ออกแบบมาให้มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาระบบเครือข่ายที่ดีต่อเหล่า Network Engineer โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายประการ เช่น
- มีระบบปฏิบัติการเดียวกันทั้งหมดใน Switch ทุกรุ่น ทั้ง Core, Aggregate, Access หรือแม้แต่ IoT Switch ก็ตาม รวมถึง Data Center Switch และ Campus Switch ก็มีการใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกันอีกด้วย
- มี Aruba Network Analytics Engine (NAE) ในตัวทุกรุ่น ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นในเครือข่ายทั้งหมดได้แบบ Real-Time เพื่อส่งข้อมูลไปวิเคราะห์ผ่าน Cloud ได้ตลอดเวลา
- รองรับการทำ Dynamic Segmentation ร่วมกับ Wireless Access Point ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้การบังคับใช้นโยบายรักษาความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรเป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วยประสบการณ์เดียวกัน ไม่ว่าผู้ใช้งานจะเชื่อมต่อผ่านช่องทางใดก็ตาม
- มั่นคงทนทานสูง ด้วยเทคโนโลยี Aruba Virtual Switching Extension (VSX) ที่ช่วยให้สามารถทำ HA ระหว่าง Switch หลายชุดเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และรองรับการทำ Live Upgrade ไม่เกิด Downtime ในระหว่าง Upgrade Firmware
- รองรับการบริหารจัดการผ่าน Cloud ร่วมกับ Access Point และ SD-WAN ได้ด้วย Aruba Central ซึ่งจะมาพร้อมกับการทำ AIOps และ Automation ช่วยให้การดูแลรักษาระบบเครือข่ายง่ายดายยิ่งกว่าที่เคย
ด้วยเหตุนี้เอง โซลูชัน Aruba CX Series Switch จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเหล่า Network Engineer รุ่นใหม่ ที่ต้องการอุปกรณ์เครือข่ายซึ่งมั่นคงทนทาน, มั่นคงปลอดภัย, บริหารจัดการได้ง่าย และตอบโจทย์การทำ Automation ร่วมกับ AI ได้นั่นเอง
สนใจโซลูชันของ HPE Aruba ติดต่อ SiS Distribution ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันใดๆ ของ HPE Aruba สามารถติดต่อทีมงาน SiS ได้ทันทีที่
บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
Add Line ID: @sisaruba
Email: HPEAruba@sisthai.com
สมัครตัวแทนจำหน่าย 0-2020-3003
directmarketing@sisthai.com