เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมา ทาง Veeam ได้จัดงาน VeeamON Forum Thailand ประจำปี 2018 เพื่ออัปเดตเทคโนโลยีของ Veeam และ Partner รายต่างๆ ในไทย ให้เหล่าลูกค้าของ Veeam ได้มีทางเลือกใหม่ๆ ในการออกแบบระบบ Backup และ Disaster Recovery ได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอสรุปเนื้อหาเอาไว้สำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้เข้าร่วมงานดังนี้
Veeam มีอะไรใหม่บ้างในปี 2018
Hyper-Availability คือคำหนึ่งที่ Veeam เริ่มใช้สื่อสารกับเหล่าลูกค้าองค์กรและ Partner มาตลอดปี 2018 และก็ถูกเน้นย้ำในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย โดย Veeam นั้นเชื่อว่าเหล่าธุรกิจองค์กรในปัจจุบันได้เริ่มมีการใช้งานข้อมูลกันมากขึ้น โดยวัตถุประสงค์และรูปแบบการนำข้อมูลไปใช้งานเองนั้นก็มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้ระบบ IT Infrastructure เบื้องหลังของระบบต่างๆ นั้นก็มีความหลากหลายตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เทคโนโลยีสำหรับการทำ Backup และ Disaster Recovery (DR) ก็ต้องปรับตัวตามกระแสไป

Veeam นั้นได้ตอบรับต่อกระแสนี้ด้วยการเปิดตัว Veeam Hyper-Availability Platform ที่เปิดศักราชใหม่ของการบริหารจัดการการทำ Backup และ Replication ด้วยการยกระดับจากเดิมที่เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะทำงานแบบ Policy-based มาสู่การผสานเทคโนโลยีด้าน Behavior-based เข้าไปด้วย ทำให้การสำรองและการกู้คืนข้อมูลหรือระบบต่างๆ นั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยภายในโซลูชันที่ครอบคลุมทั้งการจัดการกับ Physical, Virtual, Cloud และ Application ในหนึ่งเดียวนี้ ก็ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีหลากหลายจาก Veeam
นอกจากนี้ Veeam เองก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาตั้งแต่ปลายปี 2017 เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ในระดับองค์กรให้มากขึ้น เช่น
- เปิดตัว Veeam Agent for IBM AIX และ Oracle Solaris ใน version Beta ให้ใช้งานฟรี เพื่อสำรองข้อมูลแลระบบในฝั่ง Unix ได้
-
เปิดตัว Veeam Backup for Microsoft Office 365 2.0 ที่เพิ่มความสามารถในการสำรองข้อมูลให้กับ SharePoint Online และ OneDrive for Business
-
เตรียมเปิดตัว Veeam Availability for Nutanix AHV ในเร็วๆ นี้
-
ทำการเปิดตัวการสำรองข้อมูลแบบ Agentless บน Cloud ของ AWS โดยสามารถทำการสำรองข้อมูล บน IaaS และ PaaS เพื่อตอบสนองการทำ Backup และ Disaster Recovery ข้าม Region บน AWS
จะเห็นได้ว่า Veeam นั้นยังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีไปอย่างต่อเนื่อง ตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในฝั่ง IT Infrastructure ได้เป็นอย่างดี
3 โซลูชันเด่นของ Veeam ในงาน
ในงานสัมมนาครั้งนี้ Veeam ได้มี Session เฉพาะสำหรับอัปเดตผลิตภัณฑ์หลักๆ ของตนเองด้วยกัน 3 รายการ ได้แก่
1. Veeam Availability Orchestrator

Veeam Availability Orchestrator นี้เป็นโซลูชันที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับ Veeam Backup & Replication เพื่อช่วยให้การทำ Disaster Recovery เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติตั้งแต่การสร้างแผนการทำ DR, การสร้างเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการทดสอบการทำ DR เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบที่สำรองเอาไว้จะสามารถกู้คืนได้จริงๆ
จุดเด่นหนึ่งที่ถูกชูมากเป็นพิเศษของ Veeam Availability Orchestrator นี้ก็คือความสามารถในการสร้างเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเอกสารดังกล่าวนี้เป็นเอกสารที่ถูกออกแบบมาให้ตรงต่อการทำ Compliance ตามมาตรฐานต่างๆ ซึ่งสำหรับในไทยก็รองรับ ISO27001 ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการทดสอบและการเตรียมเอกสารเพื่อการ Audit ได้เป็นอย่างมาก
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.veeam.com/availability-orchestrator.html
2. Veeam ONE

Veeam ONE คือระบบ IT Monitoring ที่สามารถติดตามการทำงานของระบบทั้งแบบ Physical, Virtual และ Cloud ได้ในหนึ่งเดียว โดยมีจุดเด่นที่สามารถผสานการติดตามการทำงานของระบบต่างๆ ได้พร้อมทั้งตรวจสอบสถานะการ Backup และ Replicate ที่ถูกจัดการโดยเทคโนโลยีของ Veeam ได้ไปพร้อมๆ กัน โดยสามารถทำการ Integrate เชิงลึกร่วมกับ VMware vSphere และ Microsoft Hyper-V ได้
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจมากนั้นก็คือระบบ Report ที่มีมาให้พร้อมใช้งานมากกว่า 100 รูปแบบ และ Alarm ที่พร้อมใช้งานได้ทันทีมากกว่า 200 รูปแบบ อีกทั้งยังสามารถสร้าง Visio Report ที่เป็น Diagram การทำงานของระบบต่างๆ ให้ใช้งานได้ ทำให้งานในเชิงการบริหารจัดการและการดูแลรักษาระบบสามารถเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ในขณะเดียวกัน หากองค์กรมีแผนที่จะเปิดให้บริการ Private Cloud ภายในองค์กร หรือต้องการติดตามดูปริมาณการใช้งานทรัพยากรด้าน IT ของแต่ละแผนก Veeam ONE เองก็มีระบบ Chargeback และ Billing เพื่อคำนวนค่าใช้จ่ายในการใช้งานระบบ Compute, Storage และ Backup ได้ อีกทั้งยังมีระบบ Capacity Planning & Forecasting ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวางแผนได้อย่างแม่นยำว่าควรจะลงทุนเพิ่มเติมในทรัพยากรส่วนใดเมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้ Data Center ต้องเกิด Downtime
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.veeam.com/virtualization-management-one-solution.html
3. Veeam Backup for Microsoft Office 365 2.0

ในงานสัมมนาครั้งนี้ได้มีการเปิดตัว Veeam Backup for Microsoft Office 365 2.0 ด้วย ซึ่งก็ทำให้มีความสามารถในการสำรองข้อมูลครอบคลุมทั้ง Microsoft Office 365, Microsoft Exchange Online/On-premises, Microsoft OneDrive for Business และ Microsoft SharePoint Online/On-premises ด้วย เรียกได้ว่าครอบคลุมการสำรองข้อมูลแทบทุกอย่างของ Microsoft Office 365 แล้ว
ในขณะเดียวกัน Veeam เองก็ได้เปิดตัว Veeam Backup for Microsoft Office 365 Free Edition ให้ใช้งานด้วยความสามารถระดับที่เทียบเท่ากับรุ่น Commercial ด้วย แต่จะมีข้อจำกัดด้านจำนวนผู้ใช้งานและพื้นที่ในการสำรองข้อมูลที่รงอรับ และไม่มีการรับประกัน SLA ใดๆ ให้ แต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้งานเทคโนโลยี หรือใช้ปกป้องข้อมูลส่วนตัวครับ
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.veeam.com/backup-microsoft-office-365.html
Veeam ใช้กลยุทธ์ Open รองรับการ Integrate กับ Vendor รายต่างๆ ได้มากขึ้น
หนึ่งในสิ่งที่ Veeam ได้เร่งเครื่องเดินหน้าเป็นอย่างมากในปี 2018 นี้ก็คือความสามารถในการ Integrate ระบบเข้ากับเทคโนโลยีของเหล่า Vendor รายอื่นๆ เพื่อให้การทำ Backup, Disaster Recovery และการบริหารจัดการระบบต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นและง่ายดายยิ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่งผ่านทาง Universal API ของ Veeam ซึ่งในงานสัมมนาครั้งนี้เหล่า Sponsor รายต่างๆ ของ Veeam เองนั้นต่างก็มาจัดแสดงโซลูชันร่วมกับ Veeam มากมาย ดังนี้
-
Cisco HyperFlex ระบบ Hyper-Converged Infrastructure (HCI) ที่มีความสามารถ Mulit-Cloud/Hybrid Cloud ในตัว พร้อมมีอุปกรณ์ Data Center Networking จาก Cisco ให้ใช้งาน และสามารถ Integrate ร่วมกับ Veeam ได้ผ่านทาง API เพื่อจัดการสำรองข้อมูลและการทำ Snapshot แล้วทำการย้ายข้อมูลที่สำรองไปเก็บยังที่อื่นได้
-
HPE Nimble Storage ระบบ All-Flash/Hybrid Storage ที่มาพร้อมกับระบบ AI สำหรับตรวจสอบแก้ไขปัญหาต่างๆ และ HPE StoreOnce อุปกรณ์ Backup Appliance จาก HPE ที่สามารถ Integrate การทำงานร่วมกับ Veeam ในการสำรองข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการทำงานร่วมกันระหว่าง HPE และ Veeam ในลักษณะของ Business Partner เพื่อนำเสนอโซลูชันร่วมกันได้ โดย HPE StoreOnce ก็รองรับ Veeam Catalyst Integration ได้เพื่อให้การสำรองข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น
-
NetApp HCI ระบบ HCI ที่ใช้เทคโนโลยี Software-Defined Storage จาก NetApp โดยตรง รองรับ All Flash Storage ในตัว ทำให้มีประสิทธิภาพสูง มีจุดเด่นด้านการที่สามารถเพิ่มขยายเฉพาะ Compute หรือ Storage แยกขาดจากกันได้ ทำให้ง่ายต่อการเพิ่มขยายระบบ ซึ่งก็สามารถใช้ Veeam ช่วยสำรองข้อมูลได้เช่นกัน และเทคโนโลยี Storage อื่นๆ ของ NetApp ก็สามารถทำงานร่วมกับ Veeam ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันแบบ On-premises หรือ Cloud ก็ตาม
-
Microsoft Office 365 ก็สามารถใช้ Veeam Backup for Microsoft Office 365 ในการสำรองข้อมูลได้เลย ช่วยเสริม SLA ของ Microsoft ในส่วนของ Cloud Infrastructure ที่ทนทาน ด้วยการสำรองข้อมูลไฟล์ต่างๆ เพิ่มเติมอีกชั้น ป้องกันกรณีที่ผู้ใช้งานเกิดทำงานผิดพลาดเอง ส่วนอีกโซลูชันหนึ่งก็สามารถใช้ Veeam ช่วยทำ Backup/DR ขึ้นมายัง Microsoft Azure ได้โดยตรง
-
Nutanix ผู้นำเทคโนโลยีด้าน HCI ที่รองรับ Hypervisor ได้หลากหลายค่าย และมี Hypervisor ของตนเองอย่าง Nutanix AHV ซึ่งก็สามารถใช้ Veeam ในการช่วยสำรองข้อมูลได้ และในอนาคต Veeam เองก็จะออกโซลูชัน Veeam Backup for Nutanix AHV ในอนาคต เพื่อให้การสำรองข้อมูลเป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นและครบถ้วนยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ติดต่อ Veeam ได้ทันที
ผู้ที่สนใจในโซลูชันด้านการ Backup, DR และ Multi-Cloud สามารถติดต่อทีมงานของ Veeam ได้โดยตรงที่อีเมล์ Ploypatcha.Pokpipat@veeam.com