IBM Flashsystem

ต่ออายุ Microsoft Windows Server และ SQL Server 2008 ง่ายๆ เพียงแค่ย้ายขึ้น Azure หรือ Azure Stack

สำหรับหลายๆ องค์กรที่กำลังร้อนใจกันอยู่ เนื่องจาก Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 และ Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 นั้นกำลังจะเข้าสู่ช่วง End of Support (EOS) ภายในปี 2019 – 2020 ที่จะถึงนี้แล้ว การแก้ไขระบบเพื่อให้ใช้งานกับ Windows Server หรือ SQL Server รุ่นใหม่กว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทาง Microsoft จึงได้เสนอทางออกใหม่ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเหล่านั้นต่อไปง่ายๆ เพียงแค่ย้ายมาใช้ Microsoft Azure หรือ Microsoft Azure Stack แทนเท่านั้น

Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 เข้าสู่ EOS ในปี 2019 ส่วน Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 เข้าสู่ EOS ในปี 2020

การเข้าสู่สถานะ EOS นี้ หมายถึงการที่ทาง Microsoft จะไม่มีการออกอัปเดตทั้ง Security และ Feature ใหม่ๆ รวมถึงไม่มีทีมงานสนับสนุนและไม่มีการเผยแพร่เนื้อหาการแก้ไขปัญหาใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้อีกต่อไป โดยกำหนดการของทาง Microsoft ในการประกาศ EOS ให้กับผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีดังนี้

  • Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 จะมีระยะ Extended Support จนถึงเพียงแค่วันที่ 9 กรกฎาคม 2019 เท่านั้น
  • Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 จะมีระยะ Extended Support จนถึงวันที่ 14 มกราคม 2020

ถึงแม้การใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่อไปโดยไม่มีการอัปเดตหรือดูแลรักษาใดๆ ต่อนั้นจะสามารถทำได้ในทางปฏิบัติ แต่ก็ไม่เป็นที่แนะนำ เพราะในระยะยาวแล้วจะเกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจในหลากหลายแง่มุม ทั้งในแง่ของการเกิดโอกาสที่จะถูกโจมตีระบบผ่านช่องโหว่ที่ถูกค้นพบใหม่ๆ และทำให้ข้อมูลสูญหาย การไม่ตอบโจทย์ต่อการทำ Compliance ต่างๆ อีกทั้งการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการอื่นๆ นั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

แน่นอนว่าทาง Microsoft เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจสำหรับเหล่าลูกค้าที่ยังคงใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้คือผลิตภัณฑ์เรือธงของ Microsoft ในอดีตที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในภาคธุรกิจทั่วโลก ทาง Microsoft จึงได้เพิ่มทางเลือกเพื่อให้ผู้ใช้งานยังคงใช้งานระบบดังกล่าวต่อไปได้และยังคงได้รับการสนับสนุนจากทาง Microsoft ต่อไป ดังนี้

1. ย้ายระบบขึ้น Microsoft Azure VM หรือ Microsoft Azure Stack พร้อมรับ Extended Security Update ฟรี 3 ปี

ทางเลือกแรกนั้นคือการย้าย Microsoft SQL Server 2008/2008 R2 หรือ Microsoft Windows Server 2008/2008 R2 ขึ้นไปยัง Microsoft Azure VM หรือ Microsoft Azure Stack โดยใช้ Technology Stack เดิมที่ใช้งานได้เลย ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบใดๆ ภายในระบบ เพื่อรับ Extended Security Update ต่ออีก 3 ปีฟรีๆ จาก Microsoft

ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ยังไม่พร้อมจะแก้ไข Application แต่มีแนวทางที่จะมุ่งไปใช้บริการ Cloud อยู่แล้ว โดยสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งาน Public Cloud ก็สามารถใช้ Microsoft Azure VM ได้เลย ส่วนสำหรับองค์กรที่มีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดว่าจะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลเอาไว้ภายใน Data Center ของตนเองหรือภายในประเทศไทย ก็อาจพิจารณาใช้ Microsoft Azure Stack เพื่อสร้าง Private Cloud ไว้ใช้งานภายในองค์กรเอง และรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไปฟรีๆ สำหรับ SQL Server 2008/2008 R2 และ Windows Server 2008/2008 R2 ทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมการแก้ไขอัปเกรด Application ให้รองรับ SQL Server 2017 และ Windows Server 2019 ต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีการใช้งาน Software Assurance (SA) บนผลิตภัณฑ์ทั้งสองนั้น ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มในการใช้บริการ VM บน Microsoft Azure ด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมนั้นถูกลงกว่าการใช้บริการจากผู้ให้บริการ Cloud รายอื่นๆ ถึง 5 เท่า

ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นทดลองใช้งาน Microsoft Azure ได้ฟรีๆ ที่ https://azure.microsoft.com/th-th/free/

2. ย้ายฐานข้อมูลขึ้น Azure SQL Database Managed Instance (MI) และไม่ต้องอัปเกรดอีกต่อไป

Microsoft SQL Database Managed Instance นี้ก็คือบริการ Platform-as-a-Service (PaaS) จาก Microsoft ที่มีการนำเทคโนโลยี Machine Learning มาช่วยปรับปรุงทั้งประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมเสริมความทนทานของระบบให้สูงถึง 99.99% ตาม Service Level Agreement (SLA) และยังมีการปกป้องระบบฐานข้อมูลให้มีความมั่นคงด้วย Advanced Threat Protection (ATP) หลากหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็น Data Discovery, Data Classification, Vulnerability Assessment และการทำ Advanced Threat Detection

สำหรับ SQL Server 2008/2008 R2 นี้ก็สามารถทำการแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ด้วยการย้ายฐานข้อมูลไปอยู่บน Microsoft Azure SQL Database Managed Instance ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลแบบ Versionless ซึ่งหมายถึงการที่จะไม่ต้องมีการอัปเกรดใดๆ อีกในอนาคต เพียงแค่ย้ายฐานข้อมูลขึ้นไปและทำการเชื่อมต่อฐานข้อมูลนั้นๆ ไปยัง Application Server ก็ใช้งานต่อได้ทันที

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microsoft SQL Database Managed Instance ได้ที่ https://docs.microsoft.com/en-us/azure/sql-database/sql-database-managed-instance

3. อัปเกรดระบบเป็น Microsoft SQL Server 2017 หรือ Windows Server 2019 และใช้งานต่อได้ทั้งบน Cloud และ On-Premises

สำหรับแนวทางสุดท้ายนี้ก็ถือเป็นแนวทางมาตรฐานสำหรับทุกๆ การ EOS ก็คือการอัปเกรดระบบที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นระบบที่ยังมีการอัปเดตและการสนับสนุนอยู่ ซึ่งทาง Microsoft ก็แนะนำให้อัปเกรดระบบไปเป็น Microsoft SQL Server 2017 หรือ Windows Server 2019 แทนนั่นเอง

สำหรับ Microsoft SQL Server 2017 นี้ก็มีความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งการเพิ่มความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลด้วยเทคโนโลยีแบบ In-Memory, การเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับ Microsoft PowerBI ได้บนทั้ง Desktop และ Mobile, การเข้ารหัสข้อมูล, การทำงานร่วมกันอย่างทนทาน และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นการอัปเกรดระบบเองนั้นก็อาจทำให้องค์กรสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้จากประสิทธิภาพ, ความทนทาน และความง่ายดายในการใช้งานที่เพิ่มขึ้นมานี้

ติดต่อ Microsoft ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อทางทีมงาน Microsoft ได้โดยตรงที่ Call Center: 1800 012 705 หรือทักแชตมาได้ที่ SME Facebook chat: https://aka.ms/ContactMicrosoftTH

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google Workspace เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI มัลติโมดอลใหม่ ช่วยทำงานให้โดยอัตโนมัติ

Google กำลังเพิ่มฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ใหม่ให้กับ Google Workspace เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนอีเมล แปลงสไลด์โชว์เป็นวิดีโอ และทำงานอื่น ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

Google เปิดตัว Google AI Ultra แพ็คเกจสมาชิก AI ระดับสูงสุดในราคา $249.99 ต่อเดือน

Google ประกาศเปิดตัว Google AI Ultra แพ็คเกจสมาชิกใหม่ล่าสุดที่มอบสิทธิการเข้าถึงโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดและฟีเจอร์พรีเมียมในราคา $249.99 ต่อเดือน พร้อมโปรโมชั่นลด 50% สำหรับผู้ใช้งานใหม่ในช่วง 3 เดือนแรก