Canonical ได้ประกาศออก Ubuntu เวอร์ชัน 20.04 LTS แล้ว โดยมีโค้ดว่า ‘Focal Fossa’ อย่างไรก็ดีมีการอัปเดตทั้งในส่วนของ Desktop, Cloud และ Server หลายด้าน

Focal Fossa ต่อยอดบน Linux Kernel 5.4 ทำให้มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจติดมาเช่น Kernel lockdown mode (LSM ที่ช่วยป้องกันบัญชี Root ที่ถูกแทรกแซงเข้ามาโจมตีระบบได้ยากขึ้น) รวมถึงการรองรับ ExFat Filesystem ด้วย
โดยสำหรับ Ubuntu 20.04 เองก็ได้มุ่งเน้นฟีเจอร์ด้าน Security อย่างจริงจังเช่น
- Kernel Self Protection – ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันเรื่อง Security สำหรับ Kernel โดยเฉพาะ
- Secure Boot – ป้องกันการโจมตีในเลเยอร์ระดับต่ำและพวก Rootkit หรือกลุ่มคนร้าย APT (เน้นอยู่นานคงทน ตรวจหาไม่เจอ)
- Fast ID Online (FIDO) – รองรับ Universal Multi-factors Authentication และ Passwordless
- WireGuard – มี VPN จาก WireGuard ติดตมาให้รองรับการเชื่อมต่ออย่างมั่นใจ
- รองรับเทคโนโลยี AMD Secure Encrypted Virtualization เพื่อเข้ารหัสข้อมูล
ฝั่งผู้ใช้งาน Desktop
- GNOME 3.36
- PulseAudio 14.0, Firefox 75, Libre Office 6.4 รวมถึงรองรับ G Suite และ Microsoft Exchange
- สำหรับคอเกมมี Feral Interactive’s GameMode หรือเครื่องมือที่ทำให้เกมสามารถร้องขอทรัพยากรหรือการปรับแต่งเพิ่มได้ ทำให้ใช้มีประสิทธิภาพได้สูงขึ้น
- Snap Store เข้ามาแทน Ubuntu Software ไว้ใช้ค้นหาและติดตั้ง Package และ Snap เช่น Slack, Plex, Spotify, JetBrains เป็นต้น
- สำหรับนักพัฒนามี Python 3.8 มาโดยพื้นฐาน (ไม่มี 2.7 เพราะตกรุ่นไปแล้ว) รวมถึง glibc 2.31, OpenJDK 11, rustc 1.41, GCC 9.3, Python 3.8.2, ruby 2.7.0, php 7.4, perl 5.30 และ golang 1.13
- งาน AI/ML รองรับ KubeFlow ทำให้งานพัฒนาโมเดลบน Kubernetes ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งยังต่อยอดกับ Framework อื่นได้ เช่น PyTorch หรือ MXNet
- ผู้ใช้งาน Windows Subsystem on Linux (WSL) ตอนนี้ก็รองรับ 20.04 แล้ว
ฝั่ง Server และ Cloud
- กระบวนการเข้ารหัสง่ายมากขึ้น
- รองรับการติดตั้ง Multipath Disk
- รายงานความผิดพลาดได้ดีขึ้น
- รองรับ Openstack Cloud Release
นอกจากนี้ Canonical ยังคุยว่า Ubuntu คือ Linux Distro ที่ได้รับความนิยมอย่างมากบน Public Cloud อย่าง AWS. Azure, IBM LinuxONE/ Z รวมถึงก่อนหน้านี้ยังมีปล่อย Ubunto Pro ออกมาบน public Cloud ซึ่งจุดเด่นคือรองรับการดูแลได้ถึง 10 ปีและยังรองรับ Requirement ของ HIPAA, PCI, FedRAMP และ ISO ได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น Canonical ยังคุยถึงการ่วมมือกับ ARM เพื่อรองรับงานด้าน High-performance รวมถึง NVidia และพันธมิตรอื่นเพื่อตอบโจทย์ด้าน AI/ML ด้วย
ที่มา : https://ubuntu.com/blog/ubuntu-20-04-lts-arrives และ https://www.zdnet.com/article/ubuntu-20-04-arrives-with-linux-5-4-kernel-and-wireguard-vpn/