สกสว. ร่วมมือกับธนาคารโลก ในการพัฒนานวัตกรรมในประเทศไทย [Guest Post]

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมมือกับธนาคารโลกเพื่อส่งเสริมนโยบายการพัฒนานวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภาพการเติบโตของประเทศไทย โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ ธนาคารโลกและ สกสว. จะจัดทำรายงาน Policy Effectiveness Review (PER) เกี่ยวกับนโยบายการพัฒนานวัตกรรมผ่านการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของภาคเอกชน โดยรายงานฯ จะพิจารณาแนวทางการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศไทย เพื่อประเมินความสอดคล้องของนโยบายปัจจุบันกับความท้าทายและจำเป็นของประเทศไทยในด้านนี้

รายงานของธนาคารโลกเกี่ยวกับนวัตกรรมในการพัฒนาเอเชียตะวันออกเน้นย้ำถึงย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมในการขับเคลื่อนการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี หลายประเทศในภูมิภาคนี้ รวมถึงประเทศไทย ยังไม่สามารถพัฒนาให้เท่าทันกับประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมได้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน โดยประเทศไทยนั้นจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรองลงมาร่วมกับมาเลเซีย เวียดนาม และมองโกเลีย โดยมาเลเซียมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ใกล้กับประเทศผู้นำฯ มากที่สุด

“ความร่วมมือกับธนาคารโลกครั้งนี้ จะเป็นการทำงานแบบเป็นหุ้นส่วน รวมถึงการถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนแนวคิดต่างๆ ในการดำเนินโครงการทบทวนนโยบายประสิทธิผล (PER) ของนโยบายนวัตกรรมของประเทศไทย” รศ.ดร. ปัทมาวดี โพขนุกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าว “ผลสัมฤทธิ์ของโครงการนี้คาดว่าจะช่วยให้รัฐไทยสามารถออกแบบกลไกมาตรการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของไทย ที่เหมาะสมกับการสร้างศักยภาพของภาคเอกชนไทยในวงกว้าง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเศรษฐกิจไทย” 

จากการวิจัยระบบนวัตกรรมของประเทศที่มีอยู่ การพัฒนาด้านนวัตกรรมของไทยมีข้อจำกัดในหลายด้านที่ควรพัฒนาให้เพียงพอเพื่อผลักดันให้งานด้านวิทยาศาสตร์และวิจัยก้าวหน้าทัดเทียมประเทศผู้นำฯในระดับนานาชาติ  ซึ่งรวมถึงช่องว่างด้านทักษะสำคัญอันจากการขาดแคลนบุคลากรด้านเทคนิค ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับศูนย์วิจัยต่าง ๆ นอกจากนี้ กฎระเบียบในการนำเข้าปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม (Science, Technology, and Innovation – STI) และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ SME ก็เป็นข้อจำกัดสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจ

ในการผลักดันการพัฒนาด้านนวัตกรรมนั้น ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องจัดลำดับความเร่งด่วนของนโยบายที่สำคัญต่อการพัฒนาระดับความสามารถทางเทคโนโลยีของภาคเอกชนของประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างบริษัทที่เกี่ยวโยงกับบริษัทข้ามชาติและธุรกิจขนาดเล็กในประเทศ

คุณเซซิล เนียง ผู้จัดการสายงานการเงิน ความสามารถในการแข่งขัน และ นวัตกรรม ธนาคารโลกประจำภาคพื้นเอเซียและแปซิฟิค กล่าว “นวัตกรรมมีศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้สามารถพัฒนาเป็นประเทศรายได้สูงได้ และเราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้สามารถออกแบบนโยบายผลักดันนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของผลิตภาพทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านส่งผลให้การพัฒนาด้านนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดและประหยัดพลังงานจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”

โครงการความร่วมมือทางเทคนิคนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก สกสว. ภายใต้กรอบสัญญาการให้บริการที่ปรึกษา (Reimbursable Advisory Services: RAS) ของธนาคารโลก โดยธนาคารโลกทำงานร่วมกับประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้สูงภายใต้โครงการนี้ตามคำขอของประเทศสมาชิก โดยให้บริการด้านการให้คำปรึกษา การวิเคราะห์ และสนับสนุนการดำเนินการโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับความท้าทายในการพัฒนาที่สำคัญในอนาคตได้ดีขึ้น


About chanphen

Check Also

เชื่อมต่อทุกอุปกรณ์การประชุมเข้าได้กับทุกแพลตฟอร์มด้วยโซลูชัน Enterprise Room Connector จาก Pexip

ปัจจุบันหลายองค์กรกำลังเผชิญปัญหาของความหลากหลายที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มประชุมต่างค่าย อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ห้องประชุมที่เคยลงทุนไว้แบบเดิมอาจไม่รองรับแพลตฟอร์มเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เององค์กรอาจต้องแก้ปัญหาด้วยการลงทุนเพิ่มในโซลูชันเสริมในรูปแบบของฮาร์ดแวร์เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ 3rd Party เหล่านั้นทำงานได้กับแพลตฟอร์มต่างๆ โดย Pexip เองเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำที่นำเสนอโซลูชันนี้ผ่านรูปแบบ SaaS ที่พร้อมใช้ภายใต้ชื่อ Enterprise Room Connector ในบทความนี้เราจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับโซลูชันนี้ให้มากขึ้นตั้งแต่แนวคิดการทำงาน พร้อมภาพประกอบที่ทีมงานได้มีโอกาสเข้าไปติดตามการใช้งานจริงครับ

AIS Business เดินหน้าปี 2023 พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัลของทุกองค์กรไทย พลิกโฉมธุรกิจให้ “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน”

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอาจถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากสำหรับทุกองค์กรธุรกิจ มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ความไม่แน่นอนในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ จนกระทบมาถึงเรื่องเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้ ทุกองค์กรธุรกิจจึงจำเป็นจะต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปในอนาคตอันใกล้ AIS Business ในฐานะ Digital Service …