โลกกำลังก้าวผ่านยุค Cloud Transformation ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงบริษัท Startup ต่างใช้ Cloud ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การใช้ Cloud ในปัจจุบันไม่จำกัดอยู่เพียงผู้ให้บริการรายเดียวอีกต่อไป การมาถึงของสถาปัตยกรรมแบบ Multi-cloud ช่วยให้องค์กรสามารถดึงความสามารถของ Cloud ออกมาได้ถึงเต็มที่มากยิ่งขึ้น ยกระดับการดำเนินธุรกิจไปอีกขั้น True IDC ในฐานะผู้นำในการให้บริการ Cloud และ Data Center ยังเป็นพาร์ตเนอร์ของผู้ให้บริการ Cloud ชั้นนำอย่าง Amazon Web Services, Alibaba Cloud, Google Cloud, HUAWEI CLOUD, Microsoft Azure, Tencent Cloud และ True IDC Cloud เป็นผู้ช่วยหลักให้องค์กรเริ่มต้นการเดินทางแบบ Multi-cloud ได้อย่างมั่นใจ
ธุรกิจต่างๆ เข้าสู่ยุค Hybrid Multi-cloud ในฐานะ Cloud as a Business Disruptor
ในช่วงแรกของการทำ Cloud Transformation องค์กรเริ่มใช้ Cloud ไม่ว่าจะเป็น IaaS, PaaS หรือ SaaS เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Cloud ที่มีความยืดหยุ่น ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีนวัตกรรมอย่าง Data Analytics ที่พร้อมใช้งานได้ทันที เรียกว่าเป็นการใช้ Cloud แบบ Cloud as a Technology Disruptor แต่ในอนาคตอันใกล้ Gartner คาดการณ์ว่า 50% ขององค์กรจะใช้ cloud เพื่อผลักดันแนวคิดริเริ่มทางธุรกิจแทน เรียกว่าเป็นการใช้ Cloud แบบ Cloud as a Business Disruptor เนื่องจาก Cloud ยุคปัจจุบันสามารถรองรับนวัตกรรมใหม่อย่าง AI ซึ่งจะเข้ามาช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ผสมผสานกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน Gartner ก็ยังได้คาดการณ์ว่า ปี 2024 นี้ องค์กรจะปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรม Cloud ของตนไปสู่การเป็น Hybrid Multi-cloud มากถึง 85% เนื่องจากองค์กรส่วนใหญ่เริ่มต้องการผสานรวมจุดแข็งของแต่ละผู้ให้บริการ Cloud เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการทางธุรกิจมากที่สุด ในขณะที่ยังคงสามารถทำงานร่วมกับระบบดั้งเดิมบน On-premises ของตนเองได้ สถาปัตยกรรม Hybrid Multi-cloud นี้นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่อง Data Governance ที่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลสำคัญภายนอกองค์กรหรือนอกประเทศได้แล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย
Multi-cloud ต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงกว่าและการจัดการที่ดีกว่า
Multi-cloud ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกใช้จุดเด่นของผู้ให้บริการ Cloud แต่ละราย มาผสมผสานการทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้โซลูชันที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพ ความเร็ว บริการที่รองรับความต้องการของธุรกิจในแต่ละรูปแบบ รวมถึงเรื่องของการช่วยลดค่าใช้จ่าย และหากธุรกิจต้องขยายบริการไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ก็ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกใช้ Cloud ที่อยู่ใกล้กับลูกค้ามากที่สุด เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ การมีตัวเลือกจากผู้ให้บริการ Cloud หลากหลายราย ทำให้องค์กรมีทางเลือกในการใช้ Cloud ที่สอดคล้องกับกฎระเบียบและข้อบังคับด้านความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรได้มากขึ้น และมีทางเลือกสำรองกรณีที่บริการ Cloud ที่ใช้งานอยู่มีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่างอีกด้วย
แม้ Multi-cloud จะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจขององค์กรไปอีกขั้น แต่ก็สร้างความท้าทายมากมายให้แก่องค์กรด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลากรที่ต้องมีจำนวนมากขึ้น และยังต้องมีความเชี่ยวชาญในแต่ละ Cloud มากกว่าเดิม เนื่องจากต้องจัดการกับระบบ Cloud ที่หลากหลาย และต้องให้แต่ละ Cloud ทำงานร่วมกันได้ นอกจากนี้เครื่องมืออย่าง Centralized Cloud Management Platform ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่องค์กรต้องจัดหาเพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบบ Cloud ทั้งหมดได้จากที่เดียว เพราะสิ่งที่น่าปวดหัวที่สุด คือการจัดการกับผู้ให้บริการ Cloud แต่ละราย ทั้งเรื่องปริมาณการใช้งาน การชำระค่าบริการ หรือการซัพพอร์ต ยิ่งองค์กรใช้ Cloud จากหลายผู้ให้บริการมากเท่าไร ก็เป็นเรื่องยุ่งยากมากเท่านั้น
True IDC ให้บริการ Multi-cloud แบบ One-stop-service
True IDC เป็นผู้ให้บริการ Data Center และ Cloud ชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน และเป็นพาร์ตเนอร์ที่ได้รับการรับรองจากผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลก จึงให้บริการ Multi-cloud แบบครบวงจร ครอบคลุมการใช้งานของ Cloud ชั้นนำ ได้แก่ Amazon Web Services, Alibaba Cloud, Google Cloud, HUAWEI CLOUD, Microsoft Azure, Tencent Cloud และ True IDC Cloud เพื่อให้องค์กรธุรกิจไทยสามารถบริหารจัดการ Multi-cloud ได้อย่างง่ายดาย ผ่านบริการและทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ True IDC เพียงที่เดียว
บริการ Multi-cloud ของ True IDC ที่น่าสนใจมีดังนี้
- Billing Service: บริการชำระเงินผู้ให้บริการ Cloud ทุกรายผ่านทาง True IDC ได้ในที่เดียว พร้อมออกใบกำกับภาษี และสามารถดูรายงานค่าใช้จ่ายของทุก Cloud ที่ใช้ในระบบเดียว
- Anomaly Detection & Alert Notification: บริการตรวจสอบและแจ้งเตือนการใช้งานที่ผิดปกติหรือเกินขอบเขตที่ลูกค้ากำหนด
- Technical Advisory Support: บริการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- Consulting & Professional Service: บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ปรับแต่ง และสนับสนุนการใช้ Multi-cloud ไม่ว่าจะเป็นการทำ Cloud Migration, Application Modernization, CI/CD Pipeline รวมถึงการต่อยอดไปใช้บริการอื่น เช่น AI, Data Analytics, ERP, CRM โดยทีมวิศวกรที่ผ่านการอบรมและได้ใบรับรองจากผู้ให้บริการ Cloud ต่างๆ
- Managed Cloud Services: บริการดูแลระบบ Cloud ทั้งหมดที่ใช้งานอยู่แบบครบวงจร เช่น Incident Response, Service Request, Proactive Monitoring และ Reporting
- Technical Account Manager: บริการเสริมสำหรับวิเคราะห์การใช้ระบบ Cloud ของลูกค้า ค้นหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำในการแก้ไขเพื่อไม่ให้ปัญหานั้นๆ เกิดซ้ำอีกในอนาคต รวมถึงการทำ performance tuning และ cost optimization
- Total Cost of Ownership: บริการช่วยคำนวณต้นทุนทั้งหมด และวางแผนค่าใช้จ่ายบน Cloud ก่อนการใช้งาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณที่วางไว้
True IDC มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการให้บริการ Cloud มากว่า 10 ปี ผ่านการอบรมและได้รับใบรับรองจากผู้ให้บริการ Cloud มากมาย ทั้งทางด้าน Solution Provider, Well-architected, Public Sector, Migration Competency, Digital Workplace Competency, Reseller และอื่นๆ อีกมากมายรวมกว่า 70 ประเภท ทำให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ได้มาตรฐาน ตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ Cloud แต่ละเจ้า ทั้งทางด้าน Operation, Security, Reliability, Optimization และ Sustainability
“True IDC พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยลูกค้าเลือกใช้ Cloud ที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรมากที่สุด ทั้งทางด้านความเสถียร การขยายระบบในอนาคต นโยบายและข้อบังคับด้านความมั่นคงปลอดภัย หรือความคุ้มค่า ที่สำคัญคือต้องสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรภายในองค์กรด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะสร้าง Multi-cloud Journey ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” – คุณณัฐพัชญ์ นราพิมพ์สกุล Head of Cloud Consulting & Professional Services จาก True IDC กล่าว
Hybrid Multi-cloud จาก True IDC ช่วยขยายความคล่องตัวให้ทุกธุรกิจ
สำหรับองค์กรที่ต้องการขยายระบบจาก On-premises ไปสู่ Multi-cloud หรือยังต้องการใช้ทั้ง 2 รูปแบบ ทาง True IDC ก็มีบริการ Hybrid Multi-cloud แบบครบวงจรเช่นกัน ตั้งแต่การให้คำปรึกษาในการสร้าง Cloud Journey, การเลือกใช้ Cloud ที่เหมาะสม การออกแบบ Landing Zone ไปจนถึงการทำ Cloud Migration และการซัพพอร์ตหลังย้ายระบบขึ้นสู่ Cloud แล้ว
นอกจากนี้ True IDC ยังให้บริการ True IDC Cloud ซึ่งเป็น Local Public Cloud ในประเทศที่มีบริการ Cloud พื้นฐานเทียบเท่า Public Cloud ระดับโลก แต่มีค่าบริการที่ถูกกว่า เนื่องจากการเชื่อมต่ออยู่ภายในประเทศ ช่วยประหยัดค่า Transfer In/Out ได้ รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ที่สำคัญคือ True IDC ให้บริการ Cloud Migration ฟรีแก่ลูกค้าที่ต้องการย้ายหรือขยายระบบมายัง True IDC Cloud และยังมีบริการ GPU สำหรับองค์กรหรือ Startup ที่ต้องการพัฒนาโมเดล AI เป็นของตัวเองอีกด้วย
“สถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Multi-cloud เข้ามาแก้ปัญหาเรื่อง Data Governance ได้เป็นอย่างดี องค์กรสามารถเลือกเก็บข้อมูลสำคัญบน On-premises หรือ Local Cloud ในประเทศ แล้วเชื่อมต่อกับบริการของ Multi-cloud นอกประเทศผ่านทาง Private Link อย่าง Direct Connect เพื่อใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ขัดกับข้อบังคับด้านความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล” — คุณณัฐพัชญ์ กล่าวถึงจุดเด่นสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Multi-cloud