
องค์กรยังคงมองหาคลาวด์สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันอยู่เสมอ ด้วยคุณสมบัติที่คล่องตัวยืดหยุ่นทั้งด้านการปฏิบัติการและเชิงธุรกิจ โดย Akamai Connected Cloud คืออีกหนึ่งผู้ให้บริการที่จะตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างครบวงจร ด้วยคอนเซปต์ Scale, Build, Secure
คลาวด์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับปี 2025 ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผู้ให้บริการเกิดขึ้นมากมาย โดย Akamai เองได้ขยายธุรกิจชูโรงจาก CDN สู่การเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อย่างเต็มตัวในชื่อว่า ‘Akamai Connected Cloud’ โดยเน้นย้ำ 3 คอนเซปต์สำคัญคือ Scale, Build, Secure ซึ่งมีความหมายดังนี้

1. Scale
การเพิ่มขึ้นของโหลดการใช้งานเป็นสิ่งคาดเดาได้ยากในปัจจุบัน สาเหตุมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ภาวะการแข่งขันหรือสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน แม้กระทั่งการถูกโจมตีทางไซเบอร์ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องใคร่ครวญวางแผนเอาไว้แต่เนิ่นๆ หากเป็นในอดีตองค์กรมักเริ่มต้นจากการเตรียมฮาร์ดแวร์สำหรับอนาคต รวมถึงเจรจากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไว้ล่วงหน้า แม้กระทั่งการวางระบบป้องกันที่จำเป็น ทั้งนี้การลงทุนเพื่ออนาคตอาจไม่คุ้มค่าในกรณีที่ธุรกิจไม่สามารถมั่นใจรายได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็ก
ด้วยเหตุนี้เองบริการคลาวด์ที่เน้นเรื่องของการจ่ายตามจริงและพร้อมสำหรับการขยายตัวจึงถือเป็นหัวข้อพื้นฐานที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจเลือกคลาวด์ได้ไม่ยาก ในมุมของ Akamai Connected Cloud ได้นำเสนอบริการที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่ากับผู้ดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้งาน CPU แบบจองใช้ หรือ แชร์ใช้ ที่เลือกได้ตามลักษณะของแอปพลิเคชัน การเน้นใช้งานด้าน GPU สำหรับงาน AI หรือประมวลผลวีดีโอ แม้กระทั่งงานประเภทที่ต้องใช้หน่วยความจำสูง
นอกจากนี้ด้วยคอนเซปต์แอปพลิเคชันสมัยใหม่ด้าน microservices ซึ่งมักมีการออกแบบการทำงานเป็นส่วนๆ บนเทคโนโลยี container ก็สามารถเลือกใช้บริการ Kubernetes Engine ได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงมุมมองเดียวของการรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันด้วยคุณสมบัติของคลาวด์เท่านั้น
Akamai ยังเป็นผู้เล่นที่ทำตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองที่มีโครงข่ายอยู่ทั่วโลก นั่นหมายความว่าผู้ที่ต้องการให้บริการแอปพลิเคชันในระดับ Worldwide สามารถอาศัยประโยชน์ได้จากส่วนนี้ รวมไปถึงการให้บริการในลักษณะของ Edge Computing สำหรับแอปพลิเคชันที่มองหาความรวดเร็วเพื่อประมวลผลข้อมูลได้ใกล้กับผู้ใช้ โดยเฉพาะงานแอปพลิเคชัน AI ที่กำลังขยายตัวออกไปใกล้กับข้อมูลเพื่อทำให้ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วที่สุด
ในมุมของการโจมตีทางไซเบอร์ท่านต้องสามารถแยกแยะทราฟฟิคที่มาจากผู้ใช้และบอทให้ได้เสียก่อน ผนวกกับความสามารถด้านการป้องกัน DDoS ซึ่ง Akamai มีบริการที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ Akamai เองยังมีโครงสร้างเครือข่ายที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่รับมือกับปริมาณทราฟฟิคมหาศาลได้

2. Build
การสร้างแอปพลิเคชันบนคลาวด์ควรมีทางเลือกได้อย่างครบเครื่อง โดยในช่วงที่แล้วเราได้กล่าวถึงส่วนประมวลผล CPU, GPU, Container และ การประมวลผลที่เน้นเรื่องหน่วยความจำสูงไปแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญและทุกองค์กรต้องมองหาเมื่อต้องการให้บริการแอปพลิเคชัน สิ่งนั่นก็คือ เครื่องมือและบริการด้าน ‘ข้อมูล’
Akamai Connected Cloud ได้นำเสนอทางเลือกด้านการจัดการข้อมูลอย่างครอบคุลม นำโดย Block Storage ที่เหมาะสำหรับงานจัดเก็บข้อมูลไฟล์ มีเดีย หรือฐานข้อมูลแบบทั่วไป ซึ่งการเพิ่มหรือถอดกับเครื่องประมวลผลไม่ต้องถูกรีบูต รวมไปถึงรองรับการขยายขนาดและทนทานต่อการสูญเสีย ในขณะที่ Object Storage ที่รองรับข้อมูลแบบ Unstructured และโปรโตคอล S3 ก็เป็นทางเลือกที่ยอดนิยมสำหรับแอปพลิเคชันสมัยใหม่ นอกจากนี้ผู้ใช้งาน Akamai ยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นให้ข้อมูลได้ด้วยบริการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ หรือลดงานจัดการฐานข้อมูลด้วยบริการ Managed MySQL และ PostgreSQL
ในการด้านการจัดการเครือข่าย Akamai Connected Cloud ก็มีเครื่องมือสำหรับจัดการเครือข่ายมาให้อย่างเหมาะสม เช่น การจัดแบ่งทราฟฟิคการใช้งานด้วยบริการ Private Networking(VPC), ปกป้องทราฟฟิคเครือข่ายด้วย Cloud Firewall รวมถึงมีเครื่อมือจัดการ DNS ให้แอปพลิเคชัน และ Load Balancer เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแอปพลิเคชันขององค์กร
นอกจากมุมด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีแล้ว การที่ Akamai Connected Cloud สามารถนำเสนอเครื่องมือที่นักพัฒนาต้องการก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะโดยพื้นฐานแล้วนักพัฒนามักต้องการสิ่งที่ทำให้งานของพวกเขาลดลง รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติ โดยนักพัฒนาแอปพลิเคชันบน Akamai Connected Cloud สามารถใช้เครื่องมือยอดนิยมได้ เช่น Terraform, Ansible, Rancher, Pulumi รวมถึงเปิด API และจัดการเครื่องได้ผ่าน CLI ตลอดจนยังมีระบบจัดการ image และเครื่องมือติดตามประสิทธิภาพการทำงานของบริการที่ตนเป็นเจ้าของอีกด้วย
กรณีที่ท่านวางแผนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มองหาการประมวลผลที่ใกล้กับผู้ใช้ Akamai ยังได้มีบริการสำหรับ Edge Application ไว้หลายตัว เช่น EdgeWorker ที่ช่วยประมวลผล JavaScript, EdgeKV ที่เป็น Key-Value Database, Cloudlets แอปเฉพาะที่เน้นการทำงานระดับ Edge, Image & Video Manager, Cloud Wrapper และ Global Traffic Management ซึ่งทั้งหมดนี้คือการต่อยอดรากฐานโครงสร้างที่ Akamai สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานในธุรกิจ CDN

3. Secure
ความรับผิดชอบด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและระบบยังคงเป็นของตัวท่านเองเสมอ เพราะบริการคลาวด์ได้ตระเตรียมการส่วนหนึ่งตามที่พวกเขาเองสามารถทำได้เท่านั้น ซึ่ง Akamai ได้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัยของลูกค้าอย่างสูงสุด จึงได้นำเสนอบริการการป้องกันให้แอปพลิเคชันได้ในหลากหลายมุมมอง ดังนี้
- APP และ API – เครื่องมือสำหรับการปกป้องแอปพลิชันสมัยใหม่มักพูดถึงเรื่อง API เสมอ โดยในมุมนี้ Akamai ได้นำเสนอบริการ WAF และ API ซึ่งระยะหลัง API ได้กลายเป็นส่วนในการเชื่อมต่อของบริการแทบทุกอย่าง ทั้งนี้ Akamai สามารถตรวจจับการโจมตีได้ตาม OWASP Top 10 และที่โดดเด่นคือการที่สามารถสอดแทรกการพัฒนา API เข้าสู่กระบวนการ CI/CD ของนักพัฒนาได้ก่อนที่จะนำมาใช้จริง นอกจากนี้เอง Akamai ยังได้นำเสนอเครื่องมือการป้องกันที่เข้ามาจากฝั่งผู้ใช้ได้ด้วยการติดตามพฤติกรรมให้ไม่ละเมิดข้อกำหนด และยังช่วยตอบโจทย์มาตรฐานด้าน PCI DSS 4.0 อีกด้วย
- Zero Trust – คอนเซปต์การทำ Zero Trust ต้องอาศัยการผสมผสานเครื่องมือต่างๆเพื่อป้องกันแต่ละองค์ประกอบอย่างเหมาะสม ซึ่ง Akamai ได้นำเสนอกลไก MFA และ ZTNA (Enterprise Application Access) และ DNS Firewall (Secure Internet Access) ควบคู่กับกลยุทธ์การทำ segmentation(Guardicore) เพื่อป้องกันการ Lateral Movement และจะยิ่งได้ผลดีขึ้นเมื่อจับคู่กับบริการไล่ล่าภัยคุกคาม Akamai Hunt
- Bot และ การใช้งานโดยมิชอบ – การให้บริการเว็บแอปพลิเคชันมักเผชิญกับบอททั้งดีและร้าย นอกจากนี้ยังมีภัยจากการขโมยบัญชี ขโมยเนื้อหาและสร้างเว็บไซต์ปลอมแอบอ้างแบรนด์เพื่อหลอกผู้คน ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก โดยทั้งหมดนี้ Akamai ได้นำเสนอบริการอย่างครอบคลุม เช่น Account Protector, Content Protector, Brand Protector, Bot Manager และ Identity Cloud
- Infrastructure Security – ในมุมนี้ Akamai ได้นำเสนอการป้องกันในมุมของ DNS, IP และ DDoS ซึ่งนอกจากจะให้ความมั่นใจในเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย ในส่วนของ DNS และ IP ยังช่วยส่งเสริมด้านประสิทธิภาพของการทำงานให้แอปพลิเคชันด้วย

บทส่งท้าย
จะเห็นได้ว่า Akamai Connected Cloud ได้นำเสนอบริการคลาวด์สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่องค์กรและนักพัฒนาต้องการ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจ แต่ยังครอบคลุมไปถึงกระบวนการทำงานที่ง่ายขึ้นจากความสามารถในการให้บริการทั้ง Cloud และ Edge รวมถึงการมีเครื่องมือที่นักพัฒนาต้องการ ตลอดจนการมีบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้คือบริการที่ทาง Akamai ได้เน้นย้ำถึงแนวทาง Scale, Build และ Secure
สนใจติดต่อทีมงาน Akamai ได้ที่ https://www.akamai.com/why-akamai/contact-us/contact-sales
หรือติดต่อทีมงาน Akamai ประเทศไทย – Perasak Eingprasert (Nueng) อีเมล peingpra@akamai.com หรือ Lalisa Weturai (Amii) อีเมล lweturai@akamai.com