Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

[รีวิว] PROEN Any Cloud คลาวด์ Infrastructure and Platform Service สัญชาติไทย สร้างเร็ว ใช้งานง่าย ทำ Hybrid Cloud ก็ได้ ส่งข้อมูลข้าม Region ก็ฟรี

เกริ่นนำ

ในช่วงยุคปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นยุคของการใช้งานคลาวด์เป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าเราจะหันไปที่หน้าจออะไรเราก็จะเจอแอปพลิเคชันสักอันอย่างน้อยที่มีการประมวลผลอยู่บนคลาวด์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครที่เป็นนักพัฒนาระบบ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ หรือผู้ดูแลระบบแล้วนั้น เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็คงจะมีการใช้งานคลาวด์กันอยู่แล้วสักที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น AWS, GCP, Azure หรือที่อื่น ๆ อีกมากมาย

ในรีวิวครั้งนี้ ทางทีม TechTalkThai จะมารีวิว Any Cloud ของทาง PROEN บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์สัญชาติไทยที่ได้รับรางวัลการันตีผลงานมากมาย รวมทั้งยังมีคลาวด์ให้บริการในหลายภูมิภาค (Region) แล้วด้วย อีกทั้งยังเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Ruk-Com Cloud ที่ทาง TechTalkThai ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว มีอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกบ้าง ไปติดตามกันในบทความนี้ได้เลยครับ

PROEN Any Cloud คืออะไร ?

สำหรับคลาวด์ที่ทาง PROEN Any Cloud ให้บริการนั้นจะมีลักษณะเป็น Cloud Infrastructure and Platform Service  ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าจะเป็นคลาวด์ที่สามารถให้บริการได้ทั้งแบบ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) และ Platform-as-a-Service (PaaS)  โดยคลาวด์ชนิดนี้จะมีการจัดเตรียมระบบและทรัพยากร (environment) ต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมใช้งานได้เลย ทำให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาระบบหรือเหล่า DevOps ได้อย่างมาก

โดยหลักการของ PROEN Any Cloud นั้นจะเป็น Public Cloud ที่มีให้ใช้งานกันผ่านอินเทอร์เน็ตเหมือนกับ Public Cloud เจ้าอื่น ๆ ที่มีให้บริการอยู่ แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการทำ Any Cloud ของ PROEN นั้นคือตามชื่อเลย โดยหากทางผู้ใช้งานต้องการคลาวด์ในลักษณะแบบ Private Cloud, Multi Cloud หรือว่าจะเป็นแบบ Hybrid Cloud ทาง PROEN ก็สามารถรองรับสนับสนุนได้หมดตามที่ต้องการนั่นเอง โดยสามารถนำเอาแพลตฟอร์มของทาง PROEN ไปต่อยอดได้ทันที 

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นบน PROEN Any Cloud 

สำหรับ PROEN Any Cloud ที่มีให้บริการอยู่บน Public Cloud นั้น เรียกได้ว่ามีฟีเจอร์สนับสนุนมากมายและตั้งค่าได้อย่างสะดวก ซึ่งในบทความนี้จะขอยกเฉพาะฟีเจอร์เด่น ๆ ภายใน PROEN Any Cloud มาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ครับ

สร้างทรัพยากรอย่างรวดเร็วด้วยหน้าจอ New Environment

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างแรกที่อยากจะพูดถึงมาก ๆ คือการสร้างทรัพยากร (New Environment) ขึ้นมาได้อย่างสะดวก โดยบนเว็บไซต์มีหน้าจอ UI ที่สนับสนุนให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกกำหนดทรัพยากรต่าง ๆ ที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็วในแต่ละส่วนที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Load Balancer, Application Server, Cache, SQL Database, NoSQL Database, Storage และ VPS ที่เลือกได้ว่าจะต้องการวางสถาปัตยกรรม (Architecture) ใช้งานอย่างไร 

ตัวอย่างการเลือกทรัพยากรที่มี NGINX, Apache Server และ MongoDB สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว

โดยผู้ใช้สามารถเลือกใช้และตั้งค่าในแต่ละส่วนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Application Server มีรองรับภาษา Java, PHP, Ruby, .NET, Node.js, Python, Golang ที่จะสนับสนุนให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเลือก Application Server ตามภาษาที่ต้องการพัฒนาได้อย่างสะดวก โดยแต่ละส่วนที่มีให้บริการบน PROEN นี้ได้ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยโดยทีมวิศวกรของทาง PROEN แล้วด้วย ดังนั้น กดคลิกเลือกไม่กี่ทีก็สามารถสร้างทรัพยากรต่าง ๆ ขึ้นมาพร้อมใช้งานได้ทันที แถมสบายใจเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย

อีกส่วนหนึ่งที่จะประโยชน์สำหรับนักพัฒนาในยุคปัจจุบันอย่างมากอย่างแน่นอน นั่นคือบน PROEN Any Cloud นั้นสามารถรองรับการใช้งาน Container หรือ Kubernetes ได้เลย โดยสามารถเลือกสร้าง Container จาก Image บน Docker Hub ได้โดยกดเพียงหนึ่งคลิกเท่านั้น และหลังจากที่ผู้ใช้เลือกทรัพยากรต่าง ๆ ที่ต้องการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้พัฒนาต่อยอดหรือว่านำผลิตภัณฑ์ที่มีเข้าไปติดตั้งแล้วก็เริ่มให้บริการลูกค้าได้ทันที

การเลือกใช้ Container Image หรือสร้าง Kubernetes Cluster ได้เพียงไม่กี่คลิก

PROEN Any Cloud กับการเลือกใช้ Container จาก Docker Hub ได้ทันที
PROEN Any Cloud มี NGINX Plus ให้ใช้งานด้วย รวมค่าใช้จ่าย License ไว้ให้แล้วเรียบร้อย

Import ไฟล์ที่เป็น IaC หรือเลือกจาก Marketplace มาสร้างทรัพยากรก็ได้

หากคุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ถนัดการเขียนสถาปัตยกรรมเป็นโค้ดหรือ Infrastructure as Code (IaC) ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ .yaml .yml .json แล้วนั้น บน PROEN Any Cloud มีรองรับวิธีการนี้ด้วยเช่นกัน โดยไฟล์จะอยู่บนเครื่องตัวเองหรือวางไว้อยู่บน GitHub หรือ Gitlab แล้วก็สามารถนำเข้ามาที่ PROEN Any Cloud ได้เลย

หน้าจอสำหรับการ Import นำเอาไฟล์ที่เป็น IaC เข้า PROEN Any Cloud

นอกจากนี้ PROEN Any Cloud ยังมี Marketplace ให้เข้าไปเลือกใช้ทรัพยากรตามประเภทของ Application Server ที่ต้องการใช้ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย อย่างระบบยอดนิยมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ELK, Grafana, WordPress, Moodle, Magento นั้นมีให้บริการอยู่ครบถ้วน หรือว่าจะสร้างเป็น Cluster อย่าง Kubernetes, Jenkins, Docker Swarm ก็ทำได้เพียงแค่หนึ่งคลิกเช่นกัน (มี Microservices ของ IOTA Node ด้วยนะ เผื่อใครสนใจ) 

หน้า Marketplace ให้ผู้ใช้สามารถเลือกสร้าง Application Server ได้อย่างรวดเร็ว

Scale ได้แบบ Vertical Scaling และ Horizontal Scaling

ส่วนการ Scale บน PROEN Any Cloud นั้นถือได้ว่าสามารถตั้งค่าได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเข้าใจง่าย โดยสามารถตั้งค่า Vertical Scaling ที่ต้องการได้โดยกำหนดจำนวน Cloudlet ที่จองใช้งานและจำกัดการขยาย Cloudlet ให้ไปได้ถึงเท่าใดผ่านหน้าจอได้เลย และถ้าหากใช้งานไปจนถึงระดับที่จำกัดไว้บน Vertical Scaling แล้ว ก็ยังสามารถทำ Horizontal Scaling เพื่อเพิ่ม Node ขยายออกมาได้ทันที 

ที่สำคัญในส่วนนี้ คือผู้ใช้สามารถเลือกตั้งค่าการ Scale แยกแต่ละส่วนได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องเลือก Scale  ทั้งหมดทุกอัน จึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างมาก

ตัวอย่างการ Scale เฉพาะ Python Application Server ให้จองไว้ 28 Cloudlets และ Limit ไว้ที่ 256 (เต็มสุด)

จ่ายตามจริงตามที่ใช้งาน แถมส่งข้อมูลข้าม Region ได้ฟรี

อีกส่วนหนึ่งที่ลืมพูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่งตามภาพที่แสดงก่อนหน้าจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่าย ทาง PROEN จะคิดแยกในแต่ละส่วนตามที่ตั้งค่าไว้ทั้งหมดโดยจะคิดตามจริงที่ใช้งานเท่านั้น แถมยังมี SLA อยู่ที่ 99.9% อีกด้วย และที่สำคัญ PROEN ปัจจุบันได้เป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการอีกหลายแห่งในโลก (รวมทั้ง Ruk-Com Cloud ด้วย) จึงทำให้การใช้งาน PROEN Any Cloud สามารถเลือกสร้างทรัพยากรในที่อื่นอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น ได้ด้วย และถ้าหากมีการส่งข้อมูล (transfer) ข้ามภูมิภาค (Region)กันแล้ว ทาง PROEN จะไม่ได้คิดค่าบริการส่วน Bandwidth ตรงนั้นแต่อย่างใดอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นอีกข้อได้เปรียบหากใช้บริการของทาง PROEN Any Cloud จริง ๆ 

เชื่อม Git หรือจะต่อ CI/CD ได้ผ่าน UI ไม่กี่คลิก

ภายใน PROEN Any Cloud นี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถ Clone เอา Git มาใส่ไว้ได้เลยอีกด้วย โดยสามารถ Add Repository เข้ามาเก็บไว้ได้ทันทีผ่านหน้าจอ UI และเลือกที่จะ Deploy เข้าไปใส่ไว้ในทรัพยากรที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทุกอย่างทำผ่านหน้าจอ UI ได้ทั้งหมด

ใช้เป็น Private Cloud, Multi Cloud หรือ Hybrid Cloud ก็ทำได้หมด

สำหรับผู้ที่ใช้งานคลาวด์อยู่แล้วอยากจะได้เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล อยากจะเก็บข้อมูลไว้ภายในออฟฟิศเท่านั้น ไม่อยากเอาข้อมูลขึ้น Public Cloud ก็สามารถใช้ PROEN Any Cloud ในลักษณะของ Private Cloud ได้ด้วยเช่นกัน โดยสามารถนำเอาซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มของทาง PROEN Any Cloud ไปติดตั้งและขึ้น Private Cloud ได้อย่างรวดเร็ว  และถ้าหากว่าต้องการทำ Multi Cloud หรือ Hybrid Cloud ก็สามารถใช้บริการของทาง PROEN Any Cloud ได้เช่นกัน โดยจะมีซอฟต์แวร์ของทาง PROEN ไป build ต่อยอดใช้งานได้อย่างสะดวก ดังนั้น PROEN Any Cloud จึงสามารถสนับสนุนได้ทุกรูปแบบตามที่ต้องการใช้งานคลาวด์ได้เลย

PROEN Any Cloud Platform

ทดลองใช้ PROEN Any Cloud

การสร้างทรัพยากรผ่านหน้าจอ New Environment เรียกได้ว่าสะดวกและรวดเร็วมาก ตัวอย่างเช่น หากต้องการสร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมาโดยวางสถาปัตยกรรมที่ต้องการว่าอยากให้มี Load Balancer เป็น NGINX พร้อมกับใช้ Apache Web Server เวอร์ชัน 2.4.50 ด้วย PHP 8.0.11 พร้อมกับเลือกใช้ MemCache 1.6.12 และฐานข้อมูล Percona 8.0.23 กดไม่กี่คลิกตามที่ต้องการแล้วกด Create จากนั้น รออีกสักพักหนึ่ง (ประมาณ 10 นาที) ทรัพยากรเหล่านั้นก็จะขึ้นมาให้พร้อมใช้งานได้ทันที 

ตัวอย่างการกำหนดสถาปัตยกรรมที่ต้องการผ่านหน้า New Environment
รอไม่ถึง 10 นาที ทรัพยากรที่กำหนดไว้ก็พร้อมให้เข้าไปใช้งานต่อได้เลย

ส่วนที่อำนวยความสะดวกภายใน PROEN Any Cloud ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือในแต่ละส่วนนั้นสามารถเพิ่ม Add-Ons เข้าไปได้ด้วย แถมกดเลือกผ่านหน้าจอ UI ที่ PROEN Any Cloud บริการให้ได้ทันที

เพิ่ม Add-Ons เข้าไปผ่านหน้า UI ของ PROEN Any Cloud ได้

สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ดูแลระบบที่ต้องการจะแก้ไขไฟล์บนนั้น ก็ดำเนินการผ่านหน้าเว็บได้เลย อย่างเช่น อยากจะแก้ไขการตั้งค่า NGINX หรือว่า Cron เป็นต้น ก็กดเข้าไปผ่าน UI บนเว็บแล้วแก้ไขได้เลย หรือถ้ารู้สึกไม่ถนัด อยากจะเข้า SSH ไปแก้ไขด้วย vi หรือ vim ถนัดกว่า PROEN Any Cloud ก็มี Terminal บริการโดยสามารถเข้าผ่าน Web SSH ได้ทันที

แก้ไขไฟล์ผ่าน PROEN Any Cloud ได้ทันที
ใช้ Web SSH ผ่าน PROEN Any Cloud ได้เลย

นอกจากนี้ PROEN Any Cloud จะมี Statistics ที่แสดงการสถิติใช้งานของแต่ละส่วนให้บริการอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องไปใช้คำสั่งอื่น ๆ หรือหาซอฟต์แวร์มาติดตั้งเพื่อดูรายละเอียดต่าง ๆ แล้ว มีพร้อมให้ใช้ได้เลย

ดู Statistics ผ่าน PROEN Any Cloud ได้เลย

หากใครถนัด Docker อาจจะมีเขียน Docker Compose ไว้อยู่แล้ว ก็สามารถสร้างทรัพยากรผ่านทาง Docker Engine แล้วก็ Clone Repository จาก Git ที่พัฒนาไว้แล้วก็รันขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โดย PROEN Any Cloud จะมีให้ Public IP มาใช้งานก่อน 1 IP Address ที่สามารถ Attach เพื่อเข้าผ่านอินเทอร์เน็ตได้ในตอนเริ่มต้น ซึ่งตัวอย่างตามภาพ เพียงไม่กี่คลิกและพิมพ์ไม่กี่ที ซอฟต์แวร์ ElasticSearch, Kibana และ Logstash ก็ขึ้นมาให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

การสร้างทรัพยากรบน Docker Engine บน PROEN Any Cloud
Kibana ที่ขึ้นพร้อมใช้งานจาก PROEN Any Cloud ผ่านพอร์ต 5601
ElasticSearch ที่ขึ้นพร้อมใช้งานจาก PROEN Any Cloud โดยตอบกลับมาพอร์ต 9200

PROEN Any Cloud เหมาะกับใคร ?

เห็นได้ชัดเจนว่า PROEN Any Cloud นี้เหมาะกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ดูแลระบบ หรือว่าเหล่า DevOps อย่างมากในการใช้งาน ที่จะสามารถตั้งสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์และทรัพยากรต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วยตนเอง ซึ่งเหมาะกับองค์ธุรกิจในทุกขนาดที่มีความต้องการใช้งานคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็น Freelance ธุรกิจระดับ SMB หรือองค์กร Enterprise ธุรกิจขนาดใหญ่ก็สามารถใช้งาน PROEN Any Cloud เพื่อใช้เป็นทรัพยากรสำหรับพัฒนาหรือทดสอบ (Dev/Test) หรือว่าจะให้บริการในระดับ Production ในระดับ Scale ใหญ่ก็สามารถรองรับได้อย่างแน่นอน 

โครงการ PROEN håi

สำหรับใครที่เป็นผู้ประกอบการที่อยู่ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลหรือการแพทย์สาธารณสุข กลุ่มการศึกษา และกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ ตอนนี้ทาง PROEN มีโครงการ “PROEN håi” ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับ 3 กลุ่มธุรกิจดังกล่าวให้ใช้งานคลาวด์ของทาง PROEN ได้ฟรี! โดย PROEN håi เป็นโครงการที่ทาง PROEN อยากจะส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมไทยผ่านทาง 3 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ หากใครเข้าข่ายตามเงื่อนไขที่ PROEN กำหนดแล้วสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ลิงก์นี้

ทดลองใช้งาน PROEN Any Cloud ได้ฟรี 14 วัน

หากใครสนใจอยากทดลองใช้งาน PROEN Any Cloud สามารถทดลองใช้งานเบื้องต้นก่อนได้ฟรี โดยสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://app.manage.proen.cloud/ ซึ่งสามารถสมัคร Signup ได้ง่าย ๆ เพื่อเริ่มต้นทดลองใช้งานได้เลย 14 วัน ซึ่งหลังจากนั้นระบบจะแจ้งให้ทำการอัปเกรดให้เป็นแบบเสียเงินหากต้องการใช้งานต่อไป

บทสรุป

จากการทดลองใช้งาน PROEN Any Cloud แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าการจะสร้างทรัพยากรบน PROEN Any Cloud นั้นสามารถดำเนินการได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ด้วยหน้าจอ UI ต่าง ๆ ที่สามารถกดเลือกทรัพยากรต่าง ๆ ตามที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และ PROEN Any Cloud ก็จะสร้างทรัพยากรเหล่านั้นขึ้นมาด้วยเวลาที่ไม่นานมากนัก ทรัพยากรเหล่านั้นก็พร้อมใช้ให้สามารถเข้าไปตั้งค่าพัฒนาต่อยอดหรือเอาผลิตภัณฑ์ขึ้นไปติดตั้งเพื่อให้บริการลูกค้าต่อไปได้อย่างทันท่วงที หรือว่าใครที่เป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงเทคนิคมาก ๆ อยากจะปรับแต่งเองก็สามารถเลือกสร้างทรัพยากรผ่านโค้ดไฟล์แบบ IaC หรือจะพัฒนาแบบ Container หรือ Kubernetes ก็มีรองรับไว้หมดแล้ว อีกทั้งถ้าหากว่าต้องการ Private Cloud, Multi Cloud หรือ Hybrid Cloud ทาง PROEN Any Cloud ก็สามารถรองรับได้ในทุกรูปแบบได้ตามที่ต้องการใช้งานอย่างสะดวกและรวดเร็ว

สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้คลาวด์ไม่ว่าจะเป็นการใช้พัฒนาซอฟต์แวร์ของระดับ SMB, Enterprise หรือเพื่อให้บริการในระดับ Scale ใหญ่ก็ตาม ทาง PROEN Any Cloud นั้นสามารถรองรับตามความต้องการได้หมด ด้วยค่าใช้จ่ายที่คิดตามจริงตามที่เลือกใช้งาน พร้อมกับค่า Bandwidth ที่มีการส่งข้อมูลข้ามภูมิภาคกันก็ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม แถมยังมี SLA ให้ในระดับ 99.9% อีกด้วย และถ้าหากว่ามีปัญหาการใช้งานก็ยังสามารถติดต่อทีมวิศวกรและทีม Support ของทาง PROEN ที่เป็นคนไทยคอยให้บริการแนะนำและช่วยแก้ไขปัญหาได้ จึงถือได้ว่า PROEN Any Cloud นี้เหมาะกับองค์กรธุรกิจในทุก ๆ ระดับที่ต้องการใช้งานคลาวด์จริง ๆ

ติดต่อ PROEN ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจอยากใช้งาน PROEN Any Cloud หรือมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมงาน PROEN ได้ทันทีผ่านทางอีเมล sales@proen.co.th หรือโทร 02-690-3888 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ proen.cloud ได้เลย

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย