Silver Peak® ผู้นำระดับโลกด้าน SD-WAN ที่มุ่งมั่นพลิกโฉมการทำงานของระบบคลาวด์ด้วยระบบเครือข่ายบริเวณกว้างที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง (self-driving wide area network) ได้ประกาศวันนี้ถึงสถานะการเป็นผู้นำในรายงาน 2018 Gartner Magic Quadrant for WAN Edge Infrastructure ฉบับเผยแพร่ล่าสุด
Gartner ระบุว่า “ตลาดสำหรับฟังก์ชันการทำงานของข่ายงานบริเวณกว้างในสำนักงานสาขามีการเปลี่ยนแปลงจากการกำหนดเส้นทางที่เจาะจง การรักษาความปลอดภัย และ WAN Optimization ไปเป็นแพลตฟอร์ม SD-WAN และ vCPE ที่มีคุณสมบัติหลากหลายยิ่งขึ้น ปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge ประกอบด้วยชุดฟังก์ชันการทำงานของเครือข่ายที่กว้างขึ้น ซึ่งรวมถึงเราเตอร์ที่ปลอดภัย, ไฟร์วอลล์, SD-WAN, การควบคุมเส้นทาง WAN และการเพิ่มประสิทธิภาพ WAN รวมถึงฟังก์ชันการกำหนดเส้นทางแบบเดิม”
David Hughes ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของซิลเวอร์ พีค กล่าวว่า “เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำในรายงาน Magic Quadrant ฉบับใหม่ และเชื่อว่านี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าองค์กรกว่า 1,000 รายของซิลเวอร์ พีคในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่เราได้นำแพลตฟอร์ม Unity EdgeConnect™ SD-WAN Edge มาใช้ในตลาด” “วิสัยทัศน์สูงสุดของเราคือการทำให้องค์กรเป็นอิสระจากช่องโหว่ของรูปแบบการทำงานของ WAN แบบเดิมด้วยแพลตฟอร์มข่ายงานบริเวณกว้างที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง (self-driving wide area network) ซึ่งออกแบบมาเพื่อพลิกโฉมการทำงานของระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ”
ความสำคัญ: เปลี่ยนเป็นรูปแบบเครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจเป็นหลัก
การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้ว่าแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จะย้ายขึ้นไปอยู่ในระบบคลาวด์แล้ว แต่องค์กรที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ยังคงไม่ตระหนักถึงประโยชน์ที่แท้จริงของระบบคลาวด์ เนื่องจากพวกเขาต้องขับเคี่ยวกับการหยุดชะงักของแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข้อจำกัดของข่ายงานบริเวณกว้าง (WAN) ที่เน้นการใช้เราเตอร์เป็นหลัก ในทางตรงกันข้าม ซิลเวอร์ พีคช่วยให้องค์กรต่างๆเปลี่ยนไปสู่รูปแบบเครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจเป็นหลัก โดยเครือข่ายจะช่วยให้ธุรกิจและแอปพลิเคชันทั้งหมดได้รับทรัพยากรที่ต้องการอย่างแท้จริง รูปแบบใหม่นี้ทำงานบนแพลตฟอร์มข่ายงานบริเวณกว้างที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง (self-driving wide area network) ของซิลเวอร์พีคซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีการควบคุมดูแลจากส่วนกลางและใช้ระบบแมชชีนเลิร์นนิง (machine learning) รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) เพื่อให้ทำงานได้อย่างชาญฉลาดขึ้นในทุกๆ วัน มีเพียงซิลเวอร์ พีคเท่านั้นที่มอบคุณสมบัติสำคัญที่แตกต่าง 4 ประการในตลาด ซึ่งต่างจากแนวทางที่เน้นการใช้เราเตอร์หรือบริการ SD-WAN ทั่วไปในตลาดปัจจุบัน
การขับเคลื่อนธุรกิจ: ด้วย EdgeConnect ลำดับความสำคัญของธุรกิจจะสะท้อนให้เห็นจากลักษณะการทำงานของเครือข่าย ประสิทธิภาพ การรักษาความปลอดภัย และการกำหนดเส้นทางจะได้รับการกำหนดโดยนโยบายทางธุรกิจที่มีการควบคุมดูแลจากส่วนกลางแบบบนลงล่าง ไม่ใช่ข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจากล่างขึ้นบน
ประสบการณ์คุณภาพสูงสุด: EdgeConnect ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้ปลายทางและฝ่ายไอทีจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณภาพสูงสุด ผู้ใช้ปลายทางจะได้รับประสบการณ์ด้านประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันที่มีความสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ตลอดเวลา ฝ่ายไอทีจะได้พักผ่อนในช่วงกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยความพร้อมใช้งานและความทนทานสูงที่ช่วยให้ WAN ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ต้องพบกับการหยุดชะงักหรือการขัดข้องด้านการรับส่งข้อมูล
การปรับใช้งานอย่างต่อเนื่อง: ด้วยความก้าวหน้าของระบบแมชชีนเลิร์นนิงและปัญญาประดิษฐ์ EdgeConnect จะใช้ระบบอัตโนมัติและเทมเพลต SD-WAN ขั้นสูงในการขับเคลื่อนข่ายงานบริเวณกว้างที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองเพื่อมอบการตอบสนองแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการหยุดชะงักหรือการขัดข้องของเครือข่าย การส่งต่อข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบปรับอัตโนมัติและความอัจฉริยะของระบบคลาวด์จะอัปเดตการเปลี่ยนแปลงไปยังแอปพลิเคชันในระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้ทุกเมื่อ
แพลตฟอร์มแบบครบวงจร: EdgeConnect ได้รับการออกแบบมาให้ผสานรวม SD-WAN, ไฟร์วอลล์, การจัดแบ่งเซกเมนต์, การกำหนดเส้นทาง, การเพิ่มประสิทธิภาพ WAN รวมถึงการมองเห็นและการควบคุมแอปพลิเคชันในแพลตฟอร์มเดียวตั้งแต่ต้น การควบคุมดูแลจากส่วนกลางผ่าน Unity Orchestrator™ ช่วยให้ EdgeConnect มอบความสามารถในการสังเกต WAN ทั้งระบบได้จากหน้าจอเดียว
ผู้เขียน Gartner Magic Quadrant for WAN Edge Infrastructure: Joe Skorupa, Andrew Lerner, Christian Canales, Mike Toussaint เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2018