CDIC 2023

Palo Alto Networks เปิดตัว Medical IoT Security เพื่อความปลอดภัยสำหรับเฟรมเวิร์ก IoT ด้านการดูแลสุขภาพ

การรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับองค์กรส่วนใหญ่ในด้านการดูแลสุขภาพ โดยมีรายงานช่องโหว่จำนวนมากในพื้นที่ซึ่งยืดเยื้อมานานหลายปี
Image Credit : aihms.in
Palo Alto Networks เปิดตัว Medical IoT Security ซึ่งออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การมองเห็นที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการตรวจสอบอัตโนมัติ และอื่นๆ สำหรับเฟรมเวิร์ก IoT ด้านการดูแลสุขภาพที่มีช่องโหว่
 
Palo Alto Networks ได้นำเสนอความสามารถของผลิตภัณฑ์ใหม่ในด้านของการปฏิบัติตามข้อกำหนด ด้วยการวิเคราะห์แพตช์และการตั้งค่าความปลอดภัยโดยเฉพาะ เพื่อพิจารณาว่าเหมาะสมกับกรอบการกำกับดูแล เช่น HIPAA และ GDPR หรือไม่ นอกจากนี้ การแบ่งส่วนเครือข่าย ซึ่งเป็นวิธีการหลักอีกวิธีหนึ่งในการปกป้องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่รั่วไหลจากภัยคุกคามจากภายนอก ยังเป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Palo Alto ซึ่งนำเสนอแผนผังที่มองเห็นได้ของอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารระหว่างกันได้
 
ฟังก์ชันการมองเห็นที่กล่าวมานี้ Palo Alto นำเสนอการวิเคราะห์ซอฟต์แวร์รายการวัสดุ (SBOM) อัตโนมัติของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดบนเครือข่าย เปรียบเทียบกับช่องโหว่ที่รู้จักและแจ้งเตือนเมื่อพบ CVE (ช่องโหว่ทั่วไปและความเสี่ยง) ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการควบคุมด้วย ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่จำนวนมากมักตั้งอยู่ในหอผู้ป่วยและคลินิกของโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งนั้นหมายความว่าผู้ที่ไม่หวังดีจะมีเวลามากพอที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลให้ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนการให้บริการสุขภาพในรูปแบบทางไกลและการดูแลเสมือนจริงมากขึ้น จึงทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้คุกคามหวังในการโจมตีได้มากขึ้นเช่นกัน
 
ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย IoT ทางการแพทย์ที่ของ Palo Alto Networks จะจัดวางจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคมปี 2566 โดยจะจำหน่ายในรูปแบบของส่วนเสริมแบบชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์หลักของ Palo Alto ที่มีอยู่ในฮาร์ดแวร์ เครื่องเสมือน หรือฟอร์มแฟกเตอร์ที่จัดส่งบนคลาวด์ ในส่วนของราคาจะขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของราคาสำหรับอุปกรณ์ไฟร์วอลล์ที่กำลังใช้งานในช่วงระยะเวลาของบริการ โดยเงื่อนไขการจำหน่ายและบริการคาดว่าจะมีให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อถึงกำหนดการสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ
 

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Pure Storage ผ่านการรับรอง NIVIDA DGX BasePOD มุ่งขยายตลาด AI ภาคธุรกิจด้วย 3 โซลูชัน

NVIDIA ได้ประกาศการรับรอง NVIDIA DGX BasePOD Certification ให้กับ Pure Storage แล้ว ส่งผลให้ Pure Storage กลายเป็น Enterprise Data Storage Vendor รายแรกๆ ของโลกที่ผ่านการรับรองนี้ และสามารถนำเสนอโซลูชันด้าน AI สำหรับภาคธุรกิจได้อย่างมั่นใจ

ยอดขายกว่า 79% ของ ChatGPT ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กร มาจาก Microsoft Azure-OpenAI

Moneycontrol และ UnearthInsight ได้ออกมาเผยถึงการประมาณช่องทางการหารายได้ของ OpenAI ว่ามีลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรผ่านความร่วมมือระหว่าง Microsoft Azure และ OpenAI อยู่ที่ 70-79% โดยปัจจุบันเชื่อว่า OpenAI น่าจะมีลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรสำหรับ ChatGPT Enterprise มากแล้วราวๆ 22,000 - 25,000 องค์กรทั่วโลก