กรุงเทพฯ 23 ธันวาคม 2558 – ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ประกาศเสริมทัพองค์กรไทย แนะนำ Office 365 Enterprise E5 ที่มาพร้อม Office 2016 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมความปลอดภัยสูงสุด ทันสมัย และครอบคลุมการใช้งานในหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การทำงานร่วมกัน เสริมด้วยการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากที่สุดในการทำงานบนคลาวด์ จากทุกเวอร์ชั่นที่เคยมีมา นับเป็นครั้งแรกที่การเข้าสู่ข้อมูลกำหนดได้จากมือลูกค้าเท่านั้น ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลแม้แต่ผู้ดูแลระบบ หากไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าก่อน จึงสามารถเพิ่มความมั่นใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรในยุคโมบายและคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ ยังได้เผยผลสำรวจเทรนด์การทำงานในโลกยุคใหม่จากพนักงานองค์กรในประเทศไทยจำนวน 200 คน จัดทำขึ้นโดยไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิก ( Microsoft’s New World of Work Study for Enterprises ) โดยพบว่า พนักงานองค์กรในประเทศไทย มีความคาดหวังจากองค์กรของตนในการมอบ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ที่สามารถทำงานแบบโมบิลิตี้ เพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแบ่งปันไอเดียเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ภายในองค์กร
นายสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายภาครัฐและการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ ( ประเทศไทย ) จำกัด กล่าวว่า “การให้บริการคลาวด์ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และกลุ่มองค์กรถือเป็นกลุ่มหลักที่มองเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาเสริมศักยภาพในการทำงาน เราเชื่อมั่นว่าคลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญจะเข้ามาเปลี่ยนโฉมการทำงานในกลุ่มธุรกิจองค์กรได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจ และช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและไอเดียใหม่ ๆ ให้องค์กร ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานให้กับพนักงานได้อย่างเป็นเลิศ ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้งานแพลตฟอร์มที่สาม เช่น คลาวด์ โมบิลิตี้ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มการเงินการธนาคารที่จะเพิ่มการลงทุนอย่างมาก ทั้งในเทคโนโลยีสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ หรือโครงการเวอร์ชวลไลซ์เซชั่นต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2016 ”
“แต่การก้าวเข้าสู่โลกของคลาวด์และโมบาย นับเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับกลุ่มธุรกิจองค์กรเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากกรณีศึกษาหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับองค์กรชั้นนำระดับโลกรวมถึงในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรมข้อมูล การเรียกค่าไถ่ ซึ่งได้ทวีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นและมีการจู่โจมที่รวดเร็วขึ้น จากรายงานของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย ( ไทยเซิร์ต ) ระบุประเทศไทยติดอันดับ 3 ของโลก ในแง่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไมโครซอฟท์ ในฐานะองค์กรด้านไอทีชั้นนำของโลก ที่มีการลงทุนมหาศาล มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐในทุกปี เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาด้านความปลอดภัยในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ของเรา เพื่อที่จะให้ลูกค้าของเรามั่นใจในการเข้าสู่ยุคโมบายและคลาวด์ ปัจจุบันไมโครซอฟท์ให้บริการเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานการใช้งานบนคลาวด์กับลูกค้ามากกว่า 1 พันล้านราย ( ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไป ) ใน 140 ประเทศ โดยกว่า 85% ของบริษัทในฟอร์ทูน 500 ต่างไว้วางใจใช้คลาวด์ของไมโครซอฟท์”
โดยเทรนด์การทำงานในยุคโมบายและคลาวด์ในกลุ่มธุรกิจองค์กร ได้ตอกย้ำผ่านผลสำรวจ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ซึ่งจัดทำขึ้นโดยไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิก ( Microsoft’s New World of Work Study for Enterprises ) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้สำรวจความคิดเห็นของพนักงานกลุ่มองค์กร ที่มีจำนวนพนักงานมากกว่า 250 คน ใน 13 ประเทศทั่วเอเชีย แปซิฟิค โดยผลสำรวจในประเทศไทย มาจากพนักงานจำนวน 200 คน โดยประเด็นในการสำรวจเทรนด์ New World of Work ได้ให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง 1) พนักงาน การทำงานอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ และการได้รับความสนับสนุนจากองค์กรในการทำงานในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแบ่งปันไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ 2) สถานที่ทำงาน พนักงานสามารถทำงานที่ไหนและเวลาใดก็ได้ 3) เทคโนโลยี เทคโนโลยีและบริการที่จะช่วยให้ทำงานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับผลสำรวจของประเทศไทย พบว่าพนักงานองค์กรในประเทศไทย มีความคาดหวังจากองค์กรของตนในการมอบ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ที่สามารถทำงานแบบโมบิลิตี้ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแบ่งปันไอเดียเพื่อนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ นอกจากนี้ ร้อยละ 62 ของพนักงานองค์กรในประเทศไทย ได้ใช้เวลามากกว่าร้อยละ 20 ในการทำงานนอกออฟฟิศ และร้อยละ 82 ทำงานในออฟฟิศที่ไม่มีนโยบายสนับสนุนการทำงานจากที่อื่น ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ร้อยละ 67 ของพนักงานได้ใช้เวลามากกว่าร้อยละ 20 ทำงานนอกออฟฟิศ และร้อยละ 67 ทำงานในออฟฟิศที่ไม่มีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่อื่น
นอกจากนี้ เมื่อสำรวจถึงการทำงานแบบโมบาย ร้อยละ 66.5 ของพนักงานองค์กรในประเทศไทย ระบุว่าพวกเขายังต้องทำงานหรือเข้าออฟฟิศ เพื่อที่จะเข้าถึงอุปกรณ์หรือเครื่องมือซึ่งเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อทำงานในออฟฟิศ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานในเอเชีย-แปซิฟิก อยู่ที่ร้อยละ 61.1
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนของประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เห็นประโยชน์และโอกาสที่องค์กรจะได้รับจากการนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปใช้ นายกำพล ศรธนะรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า “ก.ล.ต. มีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนให้ยั่งยืน พร้อมกับทำหน้าที่คุ้มครองผู้ลงทุน เราตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ รวมถึงเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติที่อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ในขณะเดียวกันเราก็ต้องการเตรียมพร้อมรับสภาวะการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยให้พนักงานสามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลจากที่ใดก็ได้ เพื่อตอบสนองความท้าทายนี้ เราจึงเลือกใช้งานคลาวด์ โดยตัดสินใจย้ายระบบอีเมลสู่ Microsoft Office 365 พร้อมกับติดตั้งใช้งาน Microsoft Enterprise Mobility Suite ( EMS ) ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ช่วยในการบริหารจัดการ และปกป้องผู้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา และข้อมูลแบบครบวงจร ได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โจทย์สำคัญของเรา คือ การดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ( Business Continuity ) ซึ่งทั้ง Office 365 และ EMS เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เรายังเริ่มอบรมและใช้งาน Skype for Business สำหรับศูนย์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นเรายังสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจภาคการเงินให้ลงทุนในเครื่องมือด้านไอที เพื่อช่วยตรวจสอบป้องกันภัยคุกคามและปกป้องข้อมูลสำคัญ ซึ่งคลาวด์ คอมพิวติ้งสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี”
ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มวังขนาย ผู้ผลิตน้ำตาลทรายรายใหญ่ของประเทศไทย ได้มีการตื่นตัวและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เสริมศักยภาพให้กับองค์กร นายสาริน ณ วังขนาย ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กร กลุ่มวังขนาย กล่าวว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนสำคัญมากในการทำให้การทำงานร่วมกันในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้พนักงานทุกคนต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพื่อใช้ทำงาน ซึ่งต้องมาพร้อมแพลตฟอร์มและบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย เราจึงเลือก Microsoft Office 2016 ที่เราคุ้นเคย เข้ามาช่วยองค์กรในการทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์ในการทำงานสายการผลิต ที่ต้องการทำงานในเวลาอันสั้น แต่ได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น โดยOffice 2016 ช่วยให้เราทำงานเป็นทีมได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ด้วยฟีเจอร์ Co-Authoring และเข้าถึงข้อมูลอย่างปลอดภัยด้วย Personal Certificate Authentication ที่จะช่วยยืนยันตัวตนด้วยการเข้ารหัสก่อนเข้าถึงอีเมลหรือใช้งานเอกสาร และเร็ว ๆ นี้ ทาง กลุ่มวังขนาย มีแผนที่จะนำบริการคลาวด์อย่าง Office 365 มาใช้ในองค์กรเพื่อช่วยให้แผนกไอทีประหยัดเวลาในการดูแลระบบมากยิ่งขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ การประชุมผ่าน Skype for Business จะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปประชุมทางไกลได้เป็นอย่างมาก”
อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ กล่าวว่า “ประเทศไทยควรจะได้รับการให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี เพื่อพร้อมตั้งรับกับภัยคุกคามได้อย่างเพียงพอ ผู้ใช้งานยังขาดความรู้และอุปกรณ์ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ เทคโนโลยีคลาวด์จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์การทำงานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่น องค์กรจะสามารถบริหารจัดการระบบได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมดูแลการเข้าถึงข้อมูล และปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขององค์กร อย่างไรก็ตามองค์กรที่ใช้คลาวด์ต้องเลือกใช้คลาวด์ที่ไว้วางใจได้ คือ ต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย เก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เป็นระบบที่ถูกต้องตามมาตรฐานและกฏระเบียบ และสามารถตรวจสอบการทำงานได้ทุกขั้นตอน การที่องค์กรนำคลาวด์มาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหลายรูปแบบ ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาในการทำงาน และช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย”
โดยล่าสุด ไมโครซอฟท์เพิ่งได้เปิดตัว Office 365 Enterprise E5 ที่มาพร้อมกับ Office 2016 ถือเป็นโปรแกรมออฟฟิศที่ปลอดภัยที่สุด และมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ( Enterprise ) โดยเฉพาะ
ประโยชน์ของ Office 365 Enterprise E5 ได้แก่
เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน
ลดความซับซ้อนของการทำงานได้ด้วยการใช้งานจากเพียงหนึ่งแพลตฟอร์มเท่านั้นด้วย Skype for Business สำหรับการโทร การประชุมทางวิดีโอ และการแชร์ เชื่อมโยงทีมทำงานเข้าด้วยกัน จากแอปพลิเคชัน Office ที่ใช้ประจำทุกวัน
- Cloud PBX สามารถโทรออกและรับสาย และโอนสายจากโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยการใช้งานผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์ของตนเอง หรือผ่านอินเทอร์เน็ต
- Skype Meeting Broadcast ทำให้สามารถจัดประชุมแบบถ่ายทอดออนไลน์ได้พร้อมกันมากถึง 10,000 คน ในเวลาเดียวกัน โดยผู้เข้าร่วมประชุมสามารถประชุมผ่านเบราส์เซอร์ได้จากทุกที่
- Co-author บน Skype for Business สามารถแก้ไขงานแบบเรียลไทม์บน Word, PowerPoint, Excel และ OneNote ในแอปพลิเคชัน Office 2016
- ด้วย Skype in-app integration คุณสามารถแชท แชร์หน้าจอหรือบทสนทนาของคุณไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบตัวอักษรหรือวิดีโอสามารถแชร์ตรงสู่เอกสารได้ทันที
- เชื่อมต่อกับทีมด้วย Office 365 Planner ที่จะสามารถแบ่งปันเอกสาร การสนทนา ข้อมูล แผนการทำงาน หรืออื่น ๆ ได้อีกมากมาย
- เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายด้วย OneDrive for Business
ให้รายงานและข้อมูลเชิงลึกสำหรับการตัดสินใจอย่างฉับไว
เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการตรวจสอบข้อมูลแบบทันทีที่ใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ ในข้อมูลของคุณด้วยรายงานที่มีความสามารถในการโต้ตอบมากขึ้น แดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย และการแสดงข้อมูลเป็นภาพที่น่าสนใจ
- สังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลในวงกว้าง ผ่านแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายแบบเรียลไทม์ และรายงานรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วย Power BI Pro.
- Excel 2016 นั้นให้ประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยมีมา ด้วยการสามารถนำมาใช้งานร่วมกับ Power BI ได้ทันที มาพร้อมทั้งกราฟและชาร์ทรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรข้อมูลของคุณออกมาได้อย่างดีที่สุด
- เข้าใจถึงการบริหารจัดการเวลา ศักยภาพทางธุรกิจ และรูปแบบการทำงานร่วมกันในองค์กรด้วย Delve Org Analytics
ปกป้องข้อมูลสำคัญจากการโจมตีทุกรูปแบบ
ไมโครซอฟท์จะจัดการดูแลความปลอดภัยให้องค์กร พร้อมมอบการควบคุมความเป็นส่วนตัวโดยลูกค้าเอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการให้บริการ ถือเป็น Office ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
- Customer Lockbox ให้ความชัดเจนและโปร่งใสแก่ลูกค้าว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม
- ป้องกันการคุกคามจากมัลแวร์ ไวรัส และ URLs ที่มุ่งร้ายแบบเรียลไทม์ด้วย Advanced Threat Protection.
- การรั่วไหลของข้อมูลในองค์กรจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย Data Loss Prevention ที่ใช้งานได้ทั้งบน Word, PowerPoint, Excel และ Outlook.
- สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยทุกที่ด้วย Multi-factor Authentication เมื่อคุณไม่ได้ทำงานผ่านเน็ตเวิร์คขององค์กร
- เพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายตรวจสอบในการคาดการณ์และค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการตรวจสอบข้อมูลที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบขององค์กร ด้วย Advanced eDiscovery
โดยลูกค้าองค์กรสามารถสมัครใช้งาน Office 365 Enterprise E5 ได้ในราคาเริ่มต้น 33 เหรียญสหรัฐฯ ต่อผู้ใช้ต่อเดือน ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ระดับองค์กรในรูปแบบใหม่ที่ให้ความปลอดภัยในระดับสูงที่มาพร้อมแอปพลิเคชัน Office 2016 นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังมี Office 365 สำหรับองค์กรให้เลือกใช้ได้อีกหลายแผน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://products.office.com/th-th/business/compare-more-office-365-for-business-plans หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-263-6888
เกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยี เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ มีความสะดวกทันสมัย และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย http://news.microsoft.com/th-th/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH