Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

M.Tech กลับมาขาย Citrix อีกครั้ง เตรียมดัน NetScaler ตอบโจทย์ Multi-Cloud สำหรับองค์กร

เมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง M.Tech และ Citrix ได้ประกาศความเป็นพันธมิตรร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ให้ M.Tech ได้กลับมาเป็น Distributor ให้กับ Citrix และผลักดันตลาดของ Citrix ให้เติบโตยิ่งขึ้นในฐานะเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยให้ภาพ Multi-Cloud ขององค์กรเป็นจริงขึ้นมาได้

 

M.Tech กลับมาเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ Citrix อีกครั้ง

 

 

ก่อนหน้านี้เราคงจะคุ้นเคยกันดีว่า M.Tech นั้นเป็น Distributor ให้กับ Citrix มาตั้งแต่ปี 2007 และช่วยผลักดันโซลูชันด้าน Application Delivery Controller (ADC) หรือที่สมัยก่อนยังคงเรียกกันว่า Load Balancer (LB) อย่าง Citrix NetScaler ที่ทาง Citrix เข้าซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2005 และค่อยๆ ขยับขยายมาผลักดันโซลูชันอื่นๆ ของ Citrix จนครบทุกผลิตภัณฑ์ในช่วงปี 2012 ก่อนที่ M.Tech จะยุติการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ Citrix ไปเมื่อปี 2016 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านธุรกิจของทาง Citrix เอง

ในแต่ปี 2018 นี้ ทาง Citrix ก็ได้กลับมาแต่งตั้ง M.Tech ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ Citrix อีกครั้งหนึ่ง ด้วยความที่ทีมงานของ M.Tech นั้นมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านโซลูชันและเทคโนโลยีต่างๆ ของ Citrix เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีประสบการณ์ด้านการ Integrate ระบบต่างๆ ของ Citrix เข้ากับเทคโนโลยีของผู้ผลิตรายอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการนำเสนอโซลูชันของ Citrix

การกลับมาจับมือกันในครั้งนี้ของ M.Tech และ Citrix ก็ถือว่าเป็นช่วงที่ได้จังหวะพอดี เพราะจังหวะนี้แนวโน้มของ Multi-Cloud กำลังมาแรงในตลาดองค์กรพอดี และการนำเสนอโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ Multi-Cloud นี้ก็ถือเป็นโซลูชันที่ต้องอาศัยความรู้ทางด้านเทคนิคในเชิงลึกทั้งจากฝั่งของผลิตภัณฑ์ Citrix และความรู้ทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้โซลูชันเหล่านี้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัย ซึ่ง M.Tech ก็ถือเป็นพาร์ทเนอร์รายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขยายตลาดของ Citrix ในยามนี้แล้ว

 

Secure Digital Workspace: ตลาดหลักที่ M.Tech และ Citrix จะร่วมกันจับมือผลักดันในปี 2018

 

 

ที่ผ่านมา Cloud ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเหล่าองค์กร ทั้งในแง่ของการเติมเต็มความต้องการในฝั่ง Data Center และการเข้ามาทดแทน Application แบบเดิมๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกมากขึ้น แต่ความนิยมเหล่านี้เองก็ได้สร้างปัญหาทางอ้อมให้กับองค์กรเอง เนื่องจากทำให้เหล่าองค์กรมี Application และ Data ที่กระจัดกระจายอยู่บนบริการ Cloud ที่หลากหลาย ยากต่อการควบคุม ไม่ว่าจะเป็น Application สำเร็จรูปบน Software-as-a-Service (SaaS) หรือ Application ที่องค์กรพัฒนาขึ้นมาเองและติดตั้งใช้งานอยู่ภายใน Data Center ขององค์กรหรือบริการ Cloud ในกลุ่ม Infrastructure-as-a-Service (IaaS) ของผู้ให้บริการชั้นนนำอย่าง AWS, Microsoft Azure หรือ Google Cloud Platform (GCP) ก็ตาม

ในปี 2018 นี้ แนวโน้มของการที่เหล่าองค์กรจะต้องเริ่มมองหาหนทางเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้ Cloud ที่หลากหลายจนยากต่อการบริหารจัดการ ทาง Citrix จึงได้พัฒนาโซลูชันทางด้าน Multi-Cloud Management เพื่อรับมือกับปัญหาการใช้งาน Application, การเข้าถึง Data ในการทำงาน และการใช้บริการ SaaS ที่หลากหลายของผู้ใช้งานและยากต่อการควบคุมนี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถมีพื้นที่ทำงานบนโลก Digital กลางเพียงพื้นที่เดียว เข้าถึงได้ด้วยการใช้งาน Username และ Password เดียว และควบคุมสิทธิ์การใช้งานและติดตามตรวจสอบพฤติกรรมอันอาจเป็นภัยคุกคามได้จากศูนย์กลาง ซึ่งโดยรวมแล้วโซลูชันนี้ก็มีชื่อเรียกว่า Secure Digital Workspace นั่นเอง

หากจะกล่าวโดยสรุปแล้ว ภายในโซลูชันของ Secure Digital Workspace จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  • Application Portal พร้อม Single Sign-On (SSO) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application, PC/Notebook, File Sharing, SaaS ได้จากศูนย์กลางในหน้าเดียวด้วย Username และ Password เดียว อาจมีการเพิ่ม Two-factor Authentication เพื่อเสริมความมั่นคงปลอดภัยได้
  • ระบบ Bring Your Own Device (BYOD) ช่วยตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในการทำงาน และสามารถบริหารจัดการหรือควบคุมได้จากระยะไกลเพื่อให้ง่ายต่อการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาโดยผู้ดูแลระบบ
  • ระบบ Application ด้าน Productivity ซึ่งรวมถึงระบบ Contact, Email, Chat และอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
  • มีการทำ Compliance ตรวจสอบด้านความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าใช้งาน Application และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ อยู่เสมอ
  • มีระบบ IT Infrastructure ที่รองรับการให้บริการ Secure Digital Workspace สำหรับผู้ใช้งานจำนวนมากได้เป็นอย่างดี เช่น Virtualization, Desktop Virtualization, Application Virtualization, SD-WAN, Web Application Firewall และอื่นๆ เพิื่อเสริมทั้งประสิทธิภาพ, ความทนทาน, ความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงยังสามารถติดตั้งใช้งานบนผู้ให้บริการ IaaS ชั้นนำทั่วโลกได้หลากหลายราย

ปัจจุบันเทคโนโลยีของ Citrix สามารถตอบโจทย์ Secure Digital Workspace ได้อย่างครบถ้วนในหนึ่งเดียว อีกทั้งองค์กรเองก็ยังมีทางเลือกที่จะนำโซลูชันจากผู้ผลิตรายอื่นๆ มาผสานรวมใช้งานในบางส่วน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไปของแต่ละองค์กรหรือแต่ละแผนกได้ และในอนาคตหากองค์กรต้องการย้ายผู้ให้บริการ Cloud ไปใช้งานกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ก็สามารถย้ายไปใช้งานผู้ให้บริการรายนั้นๆ ได้ทันทีตามต้องการ ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานยังคงเหมือนเดิมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการ Cloud รายใดก็ตาม

 

มีอิสระในการเลือกใช้ Cloud: ปลายทางของการตอบโจทย์ Multi-Cloud อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวโน้มหนึ่งที่ Citrix มองเห็นว่าเป็นโอกาสนั้นก็คือการเติบโตของการใช้บริการ Cloud ในระดับองค์กรทั้งในฝั่งของ IT Infrastructure และฝั่งของผู้ใช้งานที่หันไปใช้บริการ SaaS ที่นับวันจะยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สุดท้ายแล้วทุกองค์กรก็ต้องก้าวไปสู่กลยุทธ์ Multi-Cloud อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ผ่านมา Citrix จึงพยายามทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้องค์กรสามารถเปิดรับต่อแนวโน้ม Multi-Cloud นี้ให้ได้อย่างง่ายดายที่สุดนั่นเอง

คำว่า Multi-Cloud ในที่นี้จะครอบคลุมทั้งในส่วนของ Application, IT Infrastructure และ Data ที่องค์กรสามารถเลือกใช้บริการแต่ละส่วนจากผู้ให้บริการแต่ละรายแตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น บางกรณีอาจมีการจัดเก็บข้อมูลไว้บนบริการ Cloud แห่งหนึ่ง ในขณะที่ตัว Application ที่ผู้ใช้งานต้องใช้งานนั้นอาจอยู่บน Cloud อีกแห่งหนึ่ง ส่วนระบบ IT Infrastructure สำหรับรองรับ Application ที่องค์กรพัฒนาขึ้นมาเองก็อาจอยู่บน Cloud อีกแห่งหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งภาพเหล่านี้ในปัจจุบันเองก็เริ่มมีให้เห็นในบางองค์กรแล้ว และในอนาคตเราจะเห็นภาพลักษณะนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เหล่าองค์กรซึ่งเริ่มมีประสบการณ์ในการเช่าใช้บริการ Cloud แล้ว อาจต้องการใช้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม หรือต้องการย้ายบริการบางส่วนออกจากผู้ให้บริการเดิม ไปใช้งานกับผู้ให้บริการรายอื่นแทน หรือบางกรณีก็อาจมีประเด็นด้านกฎหมายที่ทำให้ไม่สามารถย้าย Application ออกไปจากบางประเทศหรือบางภูมิภาคได้ เป็นต้น

แน่นอนว่าในกรณีนี้ โซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆ องค์กรก็คือ การที่เหล่าองค์กรมีอิสระในการเลือกใช้บริการ Cloud ในแต่ละส่วนที่ตอบโจทย์ต่อธุรกิจมากที่สุด โดยที่ประสิทธิภาพการทำงาน, ประสบการณ์การเข้าใช้งาน, ความมั่นคงปลอดภัยของผู้ใช้งาน ระบบ และข้อมูล ไปจนถึงความทนทานของระบบและข้อมูลยังคงอยู่ในระดับที่องค์กรรับได้

 

Citrix NetScaler: Application Delivery Controller ที่จะมอบอิสระในการเลือกใช้ Cloud ให้กับทุกองค์กร

 

 

ผลิตภัณฑ์หลักที่จะมาตอบโจทย์ด้าน Multi-Cloud จาก Citrix นี้ก็หนีไม่พ้น Citrix NetScaler โซลูชันด้าน Network และ Security จาก Citrix ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าองค์กรได้อย่างยืดหยุ่น ด้วยผลิตภัณฑ์ซึ่งมีความสามารถดังต่อไปนี้

  • Citrix NetScaler ADC ระบบ Application Delivery Controller ที่มาพร้อมกับความสามารถในการทำ Load Balancing, SSL Offloading และความสามารถด้าน Security ที่หลากหลายในตัว เป็นหัวใจสำคัญสำหรับระบบ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud ไปจนถึงการให้บริการ Application ที่มีความสำคัญสูงต่อธุรกิจ และ Application ขนาดใหญ่ในระดับ Cloud-scale
  • Citrix NetScaler Unified Gateway ระบบ Remote Access และ Single Sign-On สำหรับเป็นศูนย์กลางในการรวม Application และ Data ทั้งหมดขององค์กรเอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application และ Data ที่ตนเองมีสิทธิ์เข้าถึงได้ด้วยการยืนยันตัวตน, กำหนดสิทธิ์ และควบคุมการเชื่อมต่อใช้งานได้อย่างมั่นคงปลอดภัยสูงสุดจากทุกที่ทุกเวลา ผ่านทางทุกอุปกรณ์
  • Citrix NetScaler AppFirewall ระบบ Web Application Firewall (WAF) สำหรับเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับระบบ Website และบริการต่างๆ จากภัยคุกคามที่หลากหลาย ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความซับซ้อนและรุนแรงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Citrix NetScaler Secure Web Gateway ระบบ Gateway ที่มาพร้อมกับความสามารถในการทำ SSL Decryption เพื่อให้ผู้ใช้งานในองค์กรสามารถเข้าถึง Website, Application และบริการ SaaS ต่างๆ ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย ด้วยความสามารถในการตรวจจับและยับยั้งภัยคุกคามที่พยายามซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังการเข้ารหัสข้อมูล
  • Citrix NetScaler SD-WAN ระบบ Application-aware SD-WAN ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างสาขาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ทนทาน และปลอดภัยในหนึ่งเดียว พร้อมเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ Citrix XenApp และ Citrix XenDesktop ตอบโจทย์การทำงานจากระยะไกลได้เป็นอย่างดี
  • Citrix NetScaler Management and Analytics System ระบบบริหารจัดการโซลูชัน Citrix NetScaler ทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง พร้อมเครื่องมือในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย บริหารจัดการ SSL Certification ที่จำเป็นต่อการเชื่อมต่อเครือข่ายและ Application ทั้งหมดอย่างปลอดภัยได้จากหน้าจอเดียว

 

จับมือกับ Nutanix ตอบโจทย์ระบบ Hyper-converged Infrastructure สำเร็จรูป รองรับ Multi-Cloud ด้วยเทคโนโลยีของ Citrix

 

 

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือความร่วมมือกันระหว่าง Citrix, Nutanix และ M.Tech ในการผสานโซลูชันร่วมกัน เพื่อให้การนำเสนอระบบ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) และ Application Virtualization สามารถเป็นไปได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีฝั่ง Software จาก Citrix ติดตั้งให้ทำงานบนระบบ Virtualization และ Hyper-converged Infrastructure (HCI) จาก Nutanix ได้เลย ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มขยาย, เสริมประสิทธิภาพ และเพิ่มความทนทานให้กับเหล่าระบบงานที่มีความสำคัญเหล่านี้ได้อย่างยืดหยุ่น

ทั้งนี้ด้วยความสามารถของ Nutanix ในการเชื่อมต่อกับบริการ Cloud ต่างๆ และทำการย้าย Image ของ Virtual Machine (VM) ได้อย่างง่ายดาย ก็ทำให้ภาพของการก้าวไปสู่ระบบ Multi-Cloud อย่างเต็มตัวนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ง่ายดายยิ่งขึ้นสำหรับองค์กร

 

สนใจติดต่อ M.Tech ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ Citrix หรือโซลูชันอื่นๆ ทางด้าน Security สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการต่างๆ จาก M.Tech ได้โดยตรงที่ https://mtechpro.com/ หรือติดต่อคุณวสันต์ สุริยา Product Manager ได้ที่โทร 089-193-5865 หรืออีเมล์ wasun@mtechpro.com

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย