Intel ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท eASIC หรือ บริษัท Fabless Semiconductor ที่มุ่งเน้นประยุกต์ใช้ชิป (Application-specific Integrated Circuit) เพื่องานเฉพาะด้าน Wireless และ Cloud อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าแต่จากบันทึกของ PitchBook ในปลายปี 2017 บริษัท eASIC น่าจะมีมูลค่ากว่า $117 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

eASIC จะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม Programmable Solution Group (PSG) ที่ Intel เคยเข้าซื้อกิจการของ Altera (ผู้ผลิต FPGA) มาในปี 2015 โดยนาย Dan McNamara ผู้ช่วยผู้อำนวยการและ GM ของแผนก PSG กล่าวว่า “เรากำลังจะได้เห็นการพัฒนาครั้งใหญ่ที่สุดของ FPGA เนื่องจากการเติบโตของบริการ Cloud และข้อมูล นอกจากนี้การซื้อขายครั้งนี้จะช่วยเสริมความแตกต่างให้เราสามารถสู้กับคู่แข่งใหญ่ด้าน FPGA อย่าง Xilinx ได้” ข้อดีของ FPGA คือมันเปิดโอกาสให้ลูกค้าปรับแต่งโครงสร้างของชิปได้ด้วยการโปรแกรมแต่ข้อเสียคือมันใช้พลังงานสูง ในขณะที่ eASIC มีประสิทธิภาพมากกว่ากับงานเฉพาะทางเพราะมาพร้อมกับฟังก์ชันด้าน Signal และ Digital กินไฟน้อยกว่าแต่แก้ไขไม่ได้ (สามารถศึกษาเพิ่มเติม FPGA vs ASIC)
ดังนั้นทาง Intel น่าจะไปโฆษณาลูกค้าที่ใช้ FPGA อยู่แล้วแต่อยากเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่น โดยแอปพลิเคชันที่ได้ประโยชน์จาก eASIC เช่น Baseband และหัวคลื่นวิทยุในเครือข่าย 4G และ 5G เป็นต้น อีกทั้งมันยังเหมาะกับแอปพลิเคชันบน Cloud ที่ต้องการประมวลผลข้อมูลอย่างหนักหน่วง เช่น AI หรือ บริการวีดีโอ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม eASIC เคยพยายามประกาศตัวต่อสาธารณะมาแล้วด้วยความพยายามในการเข้าสู่ตลาดขาย IPO แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงหันเหไปที่ความร่วมมือกับ Intel ตั้งแต่ปี 2015 และทำงานร่วมกันเสมอมา
อันที่จริงแล้วลูกค้าของ eASIC ก็มีหลายราย เช่น Huawei, NEC, Violin Memory, Seagate, Microsoft, Flir Systems และ ARM แล้วก็มีข่าวลือว่า Apple ก็เคยสนใจซื้อบริษัทอยู่บ้าง ซึ่งดูเหมือนว่า Intel จัดการได้ถูกเวลามากเพราะธุรกิจเก่าๆ เริ่มมีการชะลอตัวลง ประกอบกับเพิ่งเสีย CEO อย่างนาย Brian Krzanich ที่ประกาศลาออกจากกรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและ Robert Swan เพิ่งเข้ามารับหน้าแทน อย่างไรก็ตามทาง McNamara กล่าวว่าตอนนี้บริษัทพร้อมกลับมาลุยอย่างจริงจังแล้ว