คู่มือการติดตั้งระบบ Wi-Fi สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

ระบบเครือข่ายไร้สายกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำเนินชีวิตของคนในยุค #GenMobile การมีบริการ Wi-Fi สำหรับพนักงานและลูกค้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สำหรับบริษัทขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดย่อมมีคำถามตามมาว่า “Access Point ตามบ้านทั่วๆ ไป เพียงพอไหมที่จะนำมาใช้ในบริษัท หรือจำเป็นต้องลงทุนไปใช้ Access Point ระดับองค์กร?”

Credit: ShutterStock.com

เว็บไซต์ NetworkWorld ได้ออกคู่มือแนะนำสำหรับการเลือกใช้ Access Point สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก รวมไปถึงวิธีการติดตั้งระบบ Wi-Fi เบื้องต้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปใช้เป็นไอเดียในการวางระบบเครือข่ายไร้สาย ดังนี้

คุณสมบัติพื้นฐานที่ Access Point ควรมี

รองรับหลาย SSID – AP ที่เลือกใช้ควรรองรับการแยกวง WLAN ออกจากกัน และสามารถกำหนด Policy สำหรับแต่ละ WLAN ได้ เช่น VLAN, วิธีการพิสูจน์ตัวตน และวิธีการเข้ารหัสข้อมูล เป็นต้น ข้อดีของการมีหลาย SSID คือการแยกวงของผู้ใช้ชั่วคราว (Guest) ออกจากวงของพนักงาน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับระบบเครือข่ายภายในของบริษัท นอกจากนี้อาจจะแยกวงของอุปกรณ์ IoT ออกมา เช่น IP Camera, Wireless Speaker หรือ IoT Sensor เพื่อให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เป็นต้น

บริหารจัดการง่าย – ระบบ Wi-Fi ที่ดีควรบริหารจัดการ AP ทั้งหมดในบริษัทได้โดยง่าย เช่น สามารถปรับแต่งช่องสัญญาณเพื่อเลี่ยงสัญญาณรบกวนได้โดยอัตโนมัติ สามารถทำ Roaming หรือก็คือการสับเปลี่ยนการเชื่อมต่อจาก AP หนึ่งไปอีก AP หนึ่งได้อย่างเรียบเนียน รวมไปถึงสามารถตั้งชื่อ SSID เดียวกันได้โดยไม่ชนกัน สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ง่ายโดยใช้ระบบ Wi-Fi ที่บริหารจัดการผ่าน Controller ซึ่งปัจจุบันนี้โซลูชันแบบ Controller-based ไม่ได้มีราคาสูงเหมือนสมัยก่อน เนื่องจากมีระบบ Cloud-based Controller (เช่น Cisco Meraki) หรือ Virtual Controller ที่เพียงแค่ตั้งค่า AP เพียงเครื่องเดียว AP เครื่องอื่นๆ ก็จะดึงการตั้งค่าไปปรับใช้ได้โดยอัตโนมัติ (เช่น Cisco Mobility Express และ Aruba Instant AP) ให้เลือกใช้ เป็นต้น

รองรับ PoE – การใช้ Power over Ethernet (PoE) ช่วยตัดปัญหาเรื่องการเดินสายไฟสำหรับจ่ายไฟให้ AP การจ่ายไฟผ่านสาย LAN สามารถทำได้ง่ายกว่าผ่าน PoE Switch หรือ PoE Injector นอกจากนี้ยังง่ายต่อการบำรุงรักษาและตรวจสอบปัญหาเมื่อ AP ทำงานผิดปกติ อย่างไรก็ตาม พึงระวังไว้ว่ามาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ส่วนใหญ่จำเป็นต้องจ่ายไฟแบบ PoE+ (802.3at) ถ้าจ่ายไฟแบบ PoE อาจทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือสัญญาณไม่เสถียร

ทำงานแบบ Dual-band – รองรับการทำงานทั้งบนย่านความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ซึ่งย่านความถี่ 5 GHz เป็นย่านที่มีสัญญาณรบกวนน้อยกว่า และสามารถเลือกใช้ช่องสัญญาณได้หลากหลายกว่า ส่งผลให้ AP สามารถแสดงการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันนี้มาตรฐานที่รองรับการใช้งานบนย่านความถี่ 5 GHz คือ 802.11n และ 802.11ac

Credit: cherezoff/ShutterStock

เพิ่มประสิทธิภาพระบบ Wi-Fi ได้อย่างไร

นอกจากการเลือกใช้ฮาร์ดแวร์แล้ว ปัญหาใหญ่ของระบบ Wi-Fi คือประสิทธิภาพการใช้งาน ถึงแม้ว่ามาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุดจะมีความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนช่องสัญญาณยังคงมีจำกัด นอกจากนี้ยังมีการกวนกันของสัญญาณภายนอก และปัญหาการแชร์การใช้งานระหว่างแต่ละอุปกรณ์บนระบบเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ Wi-Fi ให้ถึงขีดสุดควรพิจารณประเด็นดังต่อไปนี้

เลือกฮาร์ดแวร์ให้เหมาะสม – เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กมีงบประมาณที่จำกัด จึงควรเลือกฮาร์ดแวร์อย่างถี่ถ้วน ซึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย

  • รองรับการทำงานแบบ MIMO – Muitiple-input, Multiple-output (MIMO) เป็นตัวกำหนดว่า AP สามารถรับส่งสัญญาณได้สูงสุดพร้อมกันกี่สตรีม เช่น 2×2 คือ ส่ง 2 รับ 2 ซึ่งปัจจุบันนี้สูงสุดคือ 4×4 (พร้อมกัน 4 สตรีม)
  • SU-MIMO หรือ MU-MIMO – โดยปกติแล้ว AP สามารถรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ได้แค่ครั้งละ 1 เครื่อง (Single-user MIMO: SU-MIMO) แต่มาตรฐานล่าสุดอย่าง 802.11ac ช่วยให้ AP สามารถรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 3 เครื่องพร้อมกัน (Multi-user MIMO: MU-MIMO) ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ Wi-Fi สูงขึ้น
  • อุปกรณ์ที่รองรับ – ข้อควรระวังเรื่อง MIMO คือ อุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่วนใหญ่จะรองรับเพียงแค่ 1×1 เท่านั้น ในขณะที่โน๊ตบุ๊คจะรองรับ 2×2 หรือ 3×3 ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกซื้อฮาร์ดแวร์ที่ “ดีจนเกินไป”

ติดตั้ง AP หลายจุด – ถ้าบริษัทไม่ได้มีจำนวนคนน้อยมากหรือทำงานรวมกันในห้องขนาดเล็ก บริษัทควรติดตั้ง AP มากกว่า 1 เครื่อง เนื่องจากสัญญาณ Wi-Fi จะถูกลดทอนตามสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะคอนกรีตและกระจก นอกจากนี้ต้องพิจารณาถึงช่องสัญญาณที่ใช้งาน กล่าวคือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ช่องสัญญาณเดียวกัน ทั้ง AP ภายในบริษัทเองหรือกับ AP ภายนอก ในกรณีที่ AP รองรับการบริหารจัดการคลื่นสัญญาณโดยอัตโนมัติ (Adaptive Radio Management) แนะนำให้เลือกใช้การตั้งค่าช่องสัญญาณโดยตัว AP เอง เนื่องจาก AP จะตรวจจับสัญญาณรบกวนและเลือกช่องสัญญาณที่ดีที่สุดให้

วางตำแหน่ง AP ให้ดี – หลักการวางตำแหน่ง AP ที่ดีคือ หลีกเลี่ยงการวาง AP ติดกับกำแพงหรือสิ่งกีดขวาง เนื่องจากสัญญาณจะถูกลดทอนลง แนะนำให้ติด AP ไว้กับเพดานหรือเสาสูง ซอฟต์แวร์ RF Visualization และซอฟต์แวร์สำหรับวัดความแรงของสัญญาณช่วยให้ทราบได้ว่าตำแหน่งไหนในบริษัทที่ยังเป็นจุดบอด ควรติดตั้ง AP เพิ่ม นอกจากนี้ การให้ผู้เชี่ยวชาญมาทำ Site Survey ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ต้องติดตั้ง AP หลายจุด (แต่ถ้าน้อยกว่า 10 จุดก็ไม่จำเป็นแต่อย่างใด)

การเดินสายเคเบิล – สาย LAN เป็นอีกประเด็นสำคัญของระบบ Wi-Fi เนื่องจากเป็นตัวเชื่อมต่อ AP กับ Switch และจ่ายไฟในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผู้ใช้และอุปกรณ์ที่จำเป็นใช้ประสิทธิภาพของระบบ Wi-Fi ได้อย่างเต็มที่ อุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น Printer, IP Camera และ Network Storage ควรเชื่อมต่อผ่านสาย LAN ซึ่งปัจจุบันนี้ สายเคเบิลมาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันในบริษัท คือ CAT6 และ CAT7

Credit: ShutterStock.com

ความมั่นคงปลอดภัย

ความมั่นคงปลอดภัยเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายบริษัทมักมองข้าม เนื่องจากคิดว่าบริษัทของตนมีขนาดเล็ก คงไม่เป็นที่น่าสนใจของแฮ็คเกอร์ กลับกัน เพียงแค่บริษัทเก็บข้อมูลของลูกค้า หรือมีข้อมูลสำคัญอื่นๆ เท่านี้ก็เพียงพอต่อการเป็นเป้าหมายของแฮ็คเกอร์แล้ว การใช้ Passphrase หรือ Mac Filtering อาจจะไม่เพียงพอต่อความมั่นคงปลอดภัยเนื่องจากถูกแฮ็คได้ง่าย บริษัทควรพิจารณาการพิสูจน์ตัวตนแบบ 802.1x สำหรับพนักงานและเครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งบัญชีผู้ใช้อาจเก็บในฐานข้อมูล RADIUS หรือซิงค์กับ Domain Controller ก็ได้

นอกจากนี้ ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ บริษัทควรมีระบบ Air Monitoring สำหรับตรวจจับ Rogue AP หรือ AP แปลกปลอม เพื่อป้องกันนำ AP ภายนอกมาใช้งานเพื่อบายพาสระบบความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท รวมไปถึงป้องกันการโจมตีแบบ Honey Pot เป็นต้น

Credit: seekeaw rimthong/ShutterStock

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.networkworld.com/article/3142135/wi-fi/ultimate-guide-to-setting-up-a-small-business-wi-fi-network.html

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google Chrome Enhanced Protection ปกป้องผู้ใช้จากภัยคุกคามออนไลน์ได้กว่า 1 พันล้านรายแล้ว

Google ฉลองก้าวสำคัญ โดยประกาศว่าโหมด Enhanced Protection ใน Chrome ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อตรวจจับและบล็อกภัยคุกคามออนไลน์แบบเรียลไทม์ ขณะนี้สามารถปกป้องผู้ใช้ได้กว่า 1 พันล้านรายจากฟิชชิงและการหลอกลวงออนไลน์แล้ว

Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 แก้ไขช่องโหว่ Zero-day 4 รายการและช่องโหว่อื่นอีก 55 รายการ

Microsoft ออกอัปเดตความปลอดภัยประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 แก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 55 รายการ รวมถึงช่องโหว่ Zero-day 4 รายการ โดยมี 2 รายการที่ถูกนำไปใช้โจมตีแล้ว