IBM Flashsystem

ปรับมายด์เซ็ต Solution to the Cloud เหตุผลที่ทำให้การเข้าถึง Cloud ต้องรวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด

ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต บริษัทห้างร้านและธุรกิจต่างๆ ต่างก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการมาอยู่บนโลกออนไลน์ องค์กรภาครัฐ และภาคธุรกิจ ต่างนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงาน และ Buzzword อย่าง Cloud (คลาวด์) ก็กลายเป็นคำติดหูที่ใช้กันทั่วไป เทคโนโลยีคลาวด์นั้นเข้ามาแทรกซึมในชีวิตประจำวันของทั้งผู้ค้าและผู้ขาย ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรมต่างๆ เพิ่มความคล่องตัวในการเข้าถึงข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ คลาวด์แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันต่างๆ บนระบบคลาวด์เข้ามาเกี่ยวพันกับการดำเนินงานภายในองค์กรอย่างแนบแน่นและเป็นรากฐานโครงสร้างการให้บริการของธุรกิจในยุคนี้อย่างขาดไม่ได้

องค์กรต่างๆ เริ่มเปลี่ยนจากการลงทุนสร้างฐานข้อมูลในองค์กรแบบ Private Cloud มาใช้บริการ Public Cloud ที่ผู้ให้บริการระดับโลกสร้างไว้แล้ว จึงมีข้อดีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและสามารถจ่ายค่าใช้บริการรายการใช้งานจริงได้ ทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ให้

เมื่อ Cloud ไม่ได้อยู่แค่บนฟ้า การเข้าถึงคลาวด์จึงต้องมีประสิทธิภาพที่สุด

การส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าโดยเร็วที่สุดเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทำให้ผู้ให้บริการได้เปรียบในการแข่งขัน ในยุคที่การออกแคมเปญ โปรโมชันต่างๆ การจองตั๋ว ค้นหาข้อมูล กลายเป็นการแข่งขันบนโลกดิจิทัล ผู้ให้บริการทั้งหลายจึงต้องหาทางนำส่งสินค้าในรูปแบบข้อมูลให้ถึงลูกค้าโดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับผู้ให้บริการ Public Cloud ที่ขยายจุดเชื่อมต่อ (Cloud Edge) และศูนย์ข้อมูล (Server) มาใกล้ลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ

แต่การเชื่อมต่อ Public Cloud ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั้น ผู้ใช้บริการไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตนเชื่อมต่อกับ Cloud ที่จุดใด ทั้งไม่อาจติดตามปริมาณทราฟฟิกในแต่ละแอปพลิเคชัน การตั้งค่าต่างๆ ที่ผ่านบุคลากรหลายส่วน มีความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ และความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวได้

National Telecommunication (NT) เล็งเห็นปัญหาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าถึง Public Cloud จึงพัฒนาโซลูชัน Direct Connect หรือการเชื่อมต่อคลาวด์โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านอินเทอร์เน็ต ที่เปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Public Cloud ผ่านโครงข่ายส่วนบุคคลความเร็วสูง (Private Network) ทำให้การเข้าถึงคลาวด์มีความปลอดภัย รวดเร็ว ไม่ต้องแชร์เส้นทางกับแอปพลิเคชันอื่น เพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการรับส่งข้อมูล ต่างจากการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตแบบเดิม

ทำไม NT Direct Cloud Connect จึงกลายเป็น Business Solution?

ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายรายที่ให้บริการทั้งอินเทอร์เน็ต และโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูง แต่มีเพียง NT เท่านั้นที่เป็นเจ้าของระบบเคเบิลใต้น้ำที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศมากที่สุด ซึ่งจะรับประกันได้ว่าเส้นทางที่นำผู้ใช้บริการไปถึงคลาวด์นั้นจะไม่ซ้ำซ้อน มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัยจากเหตุไม่คาดฝันต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางภาคพื้นดิน โครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศของ NT ยังเป็นการรับประกันว่าสามารถเชื่อมต่อลูกค้าได้จากทุกสถานที่ในประเทศไทย และนำพาธุรกิจของท่านไปถึงจุดเชื่อมต่อระบบคลาวด์ที่ท่านใช้บริการ ไม่ว่าจะในไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือประเทศอื่นๆ ได้อย่างมีเสถียรภาพ ด้วยมาตรฐานการให้บริการ SLA 99.8% ด้วยมาตรฐานโครงข่ายระดับสากล Metro Ethernet Forum (MEF) และระบบ Network Management System อัจฉริยะ ที่จะเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดให้ Traffic การใช้งานของลูกค้า และมีเส้นทางสำรองรองรับเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความรวดเร็วในการใช้งาน ด้วยมาตรฐานการให้บริการ พร้อมดูแลช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง

NT ยังเป็นพันธมิตรกับ Public Cloud ชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft Azure และ AWS ซึ่งสามารถนำเสนอ Total Solution บริการโทรคมนาคมทุกรูปแบบ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

องค์กรภาคธุรกิจที่สนใจบริการ NT Direct Cloud Connect หรือบริการโทรคมนาคมอื่นๆของ NT สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

Website: www.ntplc.co.th

Facebook: @NTNetworkSolutions

Contact Center: 1888

 

About Maylada

Check Also

Amazon เตรียมทุ่มงบลงทุน 13,000 ล้านเหรียญในโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ที่ออสเตรเลีย

Amazon ได้ประกาศลงในบล็อกโพสในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าจะมีการลงทุนราว 20,000 ล้านดออลาร์ออสเตรเลีย (ราว 12.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในช่วงปี 2025 – 2029 เพื่อขยายการดำเนินการและการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ในออสเตรเลีย …

AuthZed เปิดตัวเครื่องมือใหม่ บังคับใช้นโยบายการเข้าถึงในระบบ RAG และ AI เชิงตัวแทน

สตาร์ทอัพด้านการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง AuthZed ประกาศสนับสนุนการใช้งานระบบ retrieval-augmented generation (RAG) และปัญญาประดิษฐ์เชิงตัวแทน (agentic AI) เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการให้สิทธิ์ใช้งานของตน โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาความท้าทายด้านความมั่นคงปลอดภัยในระบบ AI สำหรับองค์กร