CDIC 2023

Google จะนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้งาน 100% ในปี 2017

Credit: ShutterStock.com

ในปี 2017 ที่จะถึงนี้ Google จะบรรลุเป้าหมายในการนำพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เข้ามาใช้งานใน Data Center และสำนักงาน ในสัดส่วน 100% ของพลังงานทั้งหมด

พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เป็นพลังงานสะอาดที่ได้มาจากแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมดไป เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ซึ่งไม่ทำให้เกิดมลภาวะและผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ย้อนกลับไปในปี 2010 ทาง Google เริ่มนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้งานเป็นครั้งแรก ด้วยการเซ็นต์สัญญาซึ้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลมมาใช้งาน เป็นจำนวน 114 เมกะวัตต์ จนมาถึงวันนี้ Google ได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในโลกที่ซื้อไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมาใช้ โดยคิดเป็นจำนวน 2.6 กิกะวัตต์ นับรวมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

ในช่วงหกปีที่ผ่านมานั้น ราคาของพลังงานหมุนเวียนได้ปรับตัวลง 60% ถึง 80% ทำให้พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นทางเลือกที่สำคัญของ Google เพื่อใช้ภายใน Data Center ของตัวเอง เนื่องจากในระยะยาวนั้นการใช้พลังงานหมุนเวียนมีความคุ้มค่ากว่ามาก และช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานแบบเดิมได้อีกด้วย ทำให้ Google มีโครงการพลังงานหมุนเวียนถึง 20 โครงการ ใช้งบประมาณในการลงทุนไปแล้วกว่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโครงการเหล่านี้ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆได้อีกด้วย

ที่มา : https://blog.google/topics/environment/100-percent-renewable-energy/


About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนมือใหม่ผู้หลงใหลใน Enterprise IT และซูชิ

Check Also

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Incident Response’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

Incident Response เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของแผนการที่ทุกองค์กรควรมือ คำถามคือทุกวันนี้องค์กรหรือบริษัทที่ท่านมีส่วนรวมมีแผนรับมือเหล่านี้ได้ดีเพียงใด ครอบคลุมความเสี่ยงและเคยผ่านสถานการณ์จริงมาได้ดีแค่ไหน ซึ่งหากปฏิบัติตามแผนได้ดีก็อาจจะช่วยลดผลกระทบของความเสียหายได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้เองจึงอยากขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านมาเพิ่มพูนความรู้ในคอร์สสุดพิเศษจาก Sosecure โดยเนื้อหาจะกล่าวถึง Framework, Incident Response และ Incident Handling …

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Threat Hunting’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

การต่อกรกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น และหากทำได้ดีเราก็สามารถลงมือตอบสนองก่อนเกิดเหตุได้เช่นกัน ยิ่งทำได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งทีม Threat Hunting มีบทบาทอย่างมากในการทำงานร่วมกับระบบ SoC ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลภัยคุกคามจากทั่วทุกมุมโลกมาช่วยตรวจจับการโจมตีที่เกิดขึ้นได้  คำถามคือแล้วในงานเหล่านี้ควรมีทักษะเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง Sosecure ขอชวนผู้สนใจในสายงานด้าน Cybersecurity ที่ต้องการรู้ลึก ทำได้จริง …