Google Cloud Speech API ประกาศรองรับเพิ่มอีก 30 ภาษา พร้อมเสริมฟีเจอร์ใหม่

Google Cloud Speech API ประกาศรองรับเพิ่มอีก 30 ภาษา พร้อมเสริมฟีเจอร์ใหม่

Credit: Google

Cloud Speech API เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้งาน Speech Recognition ในแอพพลิเคชันที่พัฒนาได้อย่างง่ายดาย ถูกนำไปประยุกต์ใช้งานหลายรูปแบบ เช่น ระบบ Voice-activated Command, Call Center Routing และ Speech Analytics โดยล่าสุด Google ได้ประกาศรองรับเพิ่มอีก 30 ภาษา พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

  • รองรับภาษาใหม่เพิ่มเติมอีก 30 ภาษา จากก่อนหน้านี้ที่รองรับอยู่ 89 ภาษา เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงประเทศอื่นๆได้มากขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดภาษาที่รองรับได้ที่ https://cloud.google.com/speech/docs/languages
  • รองรับ Word-level timestamps โดยเป็นฟีเจอร์ที่มีการร้องขอเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ Cloud Speech API สามารถแปลเสียงพูดเป็นคำ พร้อมกับระบุเวลาที่ออกเสียงคำนั้นๆได้
  • รองรับไฟล์เสียงแบบ Long-form ที่ยาวถึง 3 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ Cloud Speech API รองรับไฟล์ยาวแค่ 80 นาทีเท่านั้น

ปัจจุบัน Google Cloud Speech API เปิดให้ใช้ฟรีเดือนละ 60 นาที หากใช้งานมากกว่านั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 0.006 เหรียญต่อ 15 นาที ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://cloud.google.com/speech/

ที่มา : https://cloudplatform.googleblog.com/2017/08/Cloud-Speech-API-improves-longform-audio-recognition-and-adds-30-new-language-variants.html

About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนผู้มีความสนใจใน Enterprise IT ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในไทย ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่ Cupertino, CA แต่ยังคงมุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีให้กับทุกคน

Check Also

Meta เผยแผนเล็งใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพสำหรับดาต้าเซนเตอร์

เป็นที่รู้กันว่าการประมวลผลด้าน AI ต้องการพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง Meta เองเป็นหนึ่งในผู้เล่นด้าน AI ยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงต้องมองหาพลังงานทางเลือกที่ยังต้องสอดคล้องต่อเรื่องอัตราการปลดปล่อยคาร์บอน โดยล่าสุดแนวทางการใช้ความร้อนใต้พิภพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว

OpenAI เปิดตัว OpenAI o1 โมเดลซีรีส์ใหม่โค้ดเนม Strawberry เน้นให้เหตุผลในงานที่ซับซ้อนขึ้น

วันพฤหัสที่ผ่านมา OpenAI ได้เปิดตัวโมเดล OpenAI o1 ภายใต้โค้ดเนม “Strawberry” โมเดล AI ซีรีส์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้เวลาในการประมวลผลในคำตอบให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบคำถามในปัญหาที่ยากขึ้นกว่าเดิมได้ และกำลังจะเทียบชั้นกับนักศึกษาปริญญาเอก (PhD) ด้านฟิสิกส์ เคมี …