CDIC 2023

รีวิว Brother MFC-T910DW ปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชันระบบรีฟิลแท็งก์ (Refill Tank System) สำหรับธุรกิจ พร้อม Software ตอบโจทย์การทำงาน

ปริ้นเตอร์นั้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของหลายๆ แผนกในแทบทุกธุรกิจทุกวันนี้ แต่ด้วยการมาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้ธุรกิจองค์กรนั้นสามารถลดการใช้งานกระดาษลงไปได้เป็นอย่างมาก ก็ทำให้เราไม่ค่อยเห็นการลงทุนซื้อ ปริ้นเตอร์ประจำแผนกกันแล้ว แต่จะกลายเป็นการซื้อปริ้นเตอร์ดีๆ ที่มีความสามารถหลากหลาย รองรับการใช้งานของหลายแผนกร่วมกันได้ผ่านระบบเครือข่าย และยังต้องทนทาน ประหยัด ดูแลรักษาง่าย ในบทความนี้เราจะมาเล่าถึงสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อปริ้นเตอร์ไปใช้ในการทำงาน และการรีวิวปริ้นเตอร์ Brother MFC-T910DW ซึ่งเป็น Multi-Function ปริ้นเตอร์สำหรับธุรกิจที่ใช้ระบบ Refill Tank System กันดังนี้ครับ

 

ประเด็นที่ควรพิจารณาสำหรับการเลือกปริ้นเตอร์ไปใช้งานในปัจจุบัน

หลังจากที่ได้นำประสบการณ์ของตนเองมารวมเข้ากับการศึกษาเทคโนโลยีปริ้นเตอร์ในปัจจุบัน และการพูดคุยกับผู้มีประสบการณ์หลายๆ ท่านแล้ว เราก็ขอสรุปปัจจัยที่ธุรกิจควรพิจารณาในการเลือกซื้อปริ้นเตอร์ไปใช้งานประจำออฟฟิศกันดังนี้ครับ

 

1. สามารถรองรับงานพิมพ์ความละเอียดได้สูง สีคมชัด ไม่เพี้ยน

เนื่องจากแนวโน้มของการยุบรวมปริ้นเตอร์ของหลายๆ แผนกเข้ามาเป็นปริ้นเตอร์ที่ใช้ร่วมกันระหว่างแผนกแทน ดังนั้นปริ้นเตอร์นี้ก็ควรจะต้องรองรับการพิมพ์เอกสารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารการเงิน, บัญชี, เอกสารการประชุม ไปจนถึงงานของฝ่ายออกแบบและการตลาด เพื่อตรวจชิ้นงานหรือนำไปใช้จริงในกิจกรรมต่างๆ เป็นหน้าเป็นตาให้กับธุรกิจ ดังนั้นคุณภาพของงานพิมพ์จึงถือว่าสำคัญมาก ต่างจากเมื่อก่อนที่เรามักจะซื้อปริ้นเตอร์ขาวดำให้กับบางแผนกใช้ และซื้อปริ้นเตอร์สีดีๆ ให้แผนกออกแบบและการตลาดใช้เท่านั้น

 

2. การจัดการกระดาษง่าย แก้ปัญหาเรื่องกระดาษติดตอนพิมพ์ได้ง่าย

เมื่อปริ้นเตอร์เครื่องเดียวต้องมีการใช้งานร่วมกันหลายแผนก การรองรับกระดาษได้หลากหลายชนิดโดยไม่ต้องเสียเวลามาเปลี่ยนมาตั้งค่าใหม่ทุกครั้งก็เป็นอีกความสามารถที่มักถูกมองข้ามไปเวลาเลือกซื้อปริ้นเตอร์ดังนั้นการเลือกปริ้นเตอร์ให้มีถาดใส่กระดาษหลายช่อง และมีช่องแยกสำหรับการพิมพ์เอกสารทีละแผ่นเดียวง่ายๆ นั้นก็จะทำให้การทำงานสะดวกและคล่องตัวขึ้นเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน การพบปัญหากระดาษติดระหว่างพิมพ์เองก็ถือเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดไม่น้อยในชีวิตการทำงาน ดังนั้นการเลือกปริ้นเตอร์ให้ดีและไม่ต้องเจอกับปัญหาเรื่องกระดาษติดนี้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานดีขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากับสิ่งที่ไม่สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ

 

3. ตอบรับต่อการทำงานในปัจจุบัน ด้วยการสั่งพิมพ์เอกสารผ่านโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง

ปัจจุบันสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานจริงไปแล้วสำหรับพนักงานหลายๆ แผนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายขายและการตลาดที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กรอยู่ตลอด อีกทั้งยังต้องรับส่งเอกสารมากมาย จัดการพิมพ์และเซ็นเอกสารหลายฉบับในแต่ละวัน

ความสามารถในการสั่งพิมพ์เอกสารได้จากสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ให้ได้จึงกลายเป็นความสามารถที่จำเป็นไปแล้วสำหรับปริ้นเตอร์ในทุกวันนี้ เพราะการสื่อสารและรับส่งเอกสารต่างๆ ผ่านทางอีเมลหรือแชทบนสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงานในทุกๆ วัน ดังนั้นการพิมพ์เอกสารจากสมาร์ทโฟนได้เลยก็จะทำให้พนักงานไม่ต้องเสียเวลาส่งเอกสารมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนพิมพ์ ทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้นเป็นอย่างมาก

 

4. อุปกรณ์รูปทรงสวยงาม เข้ากับออฟฟิศได้ เติมหมึกได้ง่าย ไม่เลอะเทอะวุ่นวาย

การรักษาบรรยากาศภาพรวมพื้นที่การทำงานให้สวยงามอยู่ตลอดก็ส่งผลดีต่อความรู้สึกคนทำงานไม่น้อย ดังนั้นหากจะเลือกซื้อปริ้นเตอร์ที่จะต้องวางอยู่กลางออฟฟิศให้ทุกคนใช้งานร่วมกันและเดินมาหยิบเอกสารที่ตนเองสั่งพิมพ์หรือมาสแกนเอกสารได้ง่ายๆ นั้นก็ควรจะต้องเลือกเครื่องที่ดูดีเสียหน่อย เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีนั่นเอง

และอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องคิดให้ดีก็คือ การเติมหมึกควรจะต้องทำได้ง่าย ให้พนักงานคนใดก็สามารถช่วยกันเติมหมึกได้ เพื่อให้การทำงานไม่สะดุดติดขัด และทุกคนไม่รู้สึกว่าปริ้นเตอร์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่สร้างภาระให้กับตนเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานซึ่งทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ

 

ภาพรวมของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชัน Brother รุ่น MFC-T910DW

 

 

เนื่องจากทางทีมงาน Brother ส่งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชันรุ่น MFC-T910DW ราคา 9,490 บาทมาให้ทีมงาน TechTalkThai ทำการรีวิวทดลองใช้งานจริงกัน ทางทีมงานจึงไปทำการศึกษาความสามารถต่างๆ เบื้องต้นของอุปกรณ์รุ่นนี้ก่อนเพื่อให้เข้าใจความสามารถเบื้องต้น ก่อนจะลงมือรีวิวการใช้งานจริงกันครับ

เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชันรุ่น MFC-T910DW นี้เป็นระบบ Refill Tank System หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นปริ้นเตอร์ที่สามารถเติมหมึกได้แบบระบบรีฟิลแท็งก์ซึ่งมาพร้อมกับความสามารถแบบมัลติฟังก์ชันที่ครอบคลุมทั้งการพิมพ์, การสแกน, การรับส่งแฟกซ์ และการถ่ายเอกสารได้ในหนึ่งเดียว ซึ่งทาง Brother นั้นได้ชูจุดเด่นหลักๆ ด้วยกัน 7 ประการสำหรับปริ้นเตอร์ตระกูลนี้ดังนี้

  • ความคมชัด ด้วยการรองรับความละเอียด 1,200 x 6,000 dpi จากหมึก Dye Ink ทั้งหมด 4 สี ทำให้สามารถพิมพ์เอกสารได้ทุกรูปแบบ รวมถึงงานออกแบบและเอกสารการตลาดต่างๆ ที่ต้องการความสวยงามและความคมชัดเป็นพิเศษ
  • การมีถาดกระดาษที่หลากหลาย ทั้งถาดกระดาษมาตรฐาน, ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ และช่องใส่กระดาษด้วยมือ สามารถแยกประเภทกระดาษได้ง่าย รองรับการพิมพ์ได้ตามความต้องการที่แตกต่างกันของการใช้งานในแต่ละแผนก
  • ประหยัดและเติมหมึกง่ายมาก ด้วยการใช้ระบบรีฟิลแท็งก์ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง พร้อมหมึกสี 1 เซทและหมึกดำ 2 ขวด
  • พิมพ์ได้อย่างรวดเร็วที่อัตราพิมพ์สี 23 แผ่น/นาที และพิมพ์ขาวดำ 27 แผ่น/นาที (Fast Mode) เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารจำนวนมากๆ เช่น เอกสารการประชุม หรือการยื่นงานราชการ
  • มี Mobile Application อาทิ Brother iPrint & Scan สามารถสั่งพิมพ์จากโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง รองรับทั้ง iOS และ Android สะดวกกับการทำงานด้วยอุปกรณ์พกพาในปัจจุบัน
  • มีหน้าจอ LCD ขนาด 1.8 นิ้ว สำหรับตั้งค่าต่างๆ และแสดงปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและไม่สับสน
  • ออกแบบมาให้ใช้งานและดูแลรักษาง่าย ตั้งแต่การเติมหมึกได้ที่ฝาหน้าของเครื่องแบบง่ายดาย ช่องเติมหมึกที่ถูกออกแบบมาเป็นแบบใส ทำให้เห็นปริมาณน้ำหมึกได้ชัดเจน และช่องใส่หมึกนั้นอยู่ในตัวเครื่องเลย ทำให้ไม่กินพื้นที่ในการติดตั้งใช้งาน และยังดูสวยงาม

สำหรับด้านล่างนี้เป็นคลิปแนะนำผลิตภัณฑ์จากทาง Brother โดยตรงครับ ลองคลิกศึกษาภาพรวมของผลิตภัณฑ์กันได้ครับ

 

 

ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง Brother ได้โดยตรงที่ http://www.brother.co.th/th-TH/contents/refilltankprinterA4 ครับ ราคาเครื่องที่แสดงในหน้าเว็บจะอยู่ที่ 9,490 บาทครับ และก็จะมีรุ่นที่เป็น Ink Tank รุ่นอื่นๆ ที่เล็กลงไปให้เป็นทางเลือกตามความต้องการในการใช้งาน

 

เริ่มต้นใช้งานจริงกันเลย

ตามสไตล์ของ TechTalkThai เราก็จะมาเริ่มรีวิวการใช้งานจริง โดยไม่พึ่งพาคู่มือมากนัก เพื่อดูว่าตัวผลิตภัณฑ์เองนั้นใช้งานยากง่ายแค่ไหน ซึ่งอันนี้นอกจากดูคู่มือคร่าวๆ ว่าถาดกระดาษอะไรอยู่ตรงไหนบ้างแล้วก็แทบไม่ได้อ่านคู่มืออะไรอีกเลย ก็ใช้งานได้แทบทุกฟังก์ชันสำคัญๆ หมดแล้วครับ ถือว่าความง่ายในการใช้งานนั้นเข้าขั้นง่ายทีเดียว

สำหรับส่วนที่ไม่ได้ทำการทดสอบคือการเติมหมึกด้วยตัวเองนะครับ แต่ก็เปิดตัวฝาถังออกมาดูแล้วก็คิดว่าตอนจังหวะเติมจริงน่าจะไม่ยากมาก แค่เอาตัวหมึกมาแกะซีลออก ซึ่งช่องเติมหมึกถูกออกแบบให้สามารถเติมได้ด้วยการเอียงขวดหมึกเพียง 45 องศาก็สามารถเติมได้ ทำให้การเติมหมึกง่ายไม่หกเลอะเทอะ ดังนั้นจึงทำเพียงแค่การเอียงขวดหมึก 45 องศาแล้วก็เทหมึกลงไป เท่านั้นก็เรียบร้อยครับ

ทั้งนี้ตอนเปิดขึ้นมาครั้งแรกก่อนทดสอบ ตัวอุปกรณ์เนื่องจากน่าจะเคยถูกติดตั้งใช้งานมาก่อนหน้าแล้ว ก็จะขึ้นหน้าจอว่า Cleaning เพื่อจัดการตัวเครื่องและหัวพิมพ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนครับ ขั้นตอนนี้จะกินเวลาอยู่บ้าง แต่หลังจากจบขั้นตอนนี้ไปก็ใช้งานได้ราบรื่นดีไม่มีปัญหาครับ

 

 

ขั้นแรกเชื่อมต่อปริ้นเตอร์เข้ากับ Wi-Fi กันก่อน

ในการทดสอบครั้งนี้เราจะลองเชื่อมต่อตัวปริ้นเตอร์เข้ากับ Wi-Fi เพื่อให้ไม่ต้องทำการเดินสายกันให้วุ่นวายครับ พอเสียบปลั๊กตัวปริ้นเตอร์ กดเปิดเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำการตั้งค่า Wi-Fi ผ่านจอ LCD หน้าเครื่องได้ทันที ซึ่งก็ถือว่าง่ายพอสมควรในการติดตั้ง ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน โดยนอกจากการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตามปกติแล้วก็ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน LAN, Wi-Fi Direct ได้ แถมยังใช้ WPS ได้อีกด้วย และตัวเครื่องเองก็รองรับ IPv6 เรียบร้อยแล้ว

ในขั้นตอนนี้ตัวเครื่อง Windows 10 ที่ใช้งานก็จะมองเห็นปริ้นเตอร์เรียบร้อย พร้อมสั่งพิมพ์งานได้แล้วครับโดยยังไม่ต้องลง Driver ใดๆ เลย

 

 

อัปเดตเฟิร์มแวร์ง่ายๆ ไม่มีปัญหา

พอเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ปุ๊บ ตัวปริ้นเตอร์ก็แจ้งทันทีว่ามี Software เวอร์ชันใหม่มาให้อัปเดต ซึ่งการหมั่นอัปเดต Firmware ของปริ้นเตอร์อยู่เสมอนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญของแผนก IT เนื่องจากปริ้นเตอร์ถือเป็นอุปกรณ์ที่สามารถตกเป็นเป้าของการโจมตีและภัยคุกคามต่างๆ ได้โดยง่ายด้วยการเจาะช่องโหว่ต่างๆ บนตัวอุปกรณ์ การอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอก็พอจะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ลงไปได้บ้าง เราก็เลยตัดสินใจว่าจะลองอัปเดต Firmware กันดูครับว่ายากง่ายแค่ไหน

 

 

พอทดสอบจริงก็พบว่าการอัปเดตทำได้ง่ายมากครับ กดคำสั่งตามหน้าจอ LCD ไปเรื่อยๆ ขอแค่เน็ตไม่ขาดระหว่างอัปเดตก็พอ รอไม่นานซัก 5-10 นาทีการอัปเดตก็เสร็จลุล่วงเรียบร้อย ใช้งานต่อได้ทันทีครับ ไม่ต้องใช้ความรู้เทคนิคอะไรมากมาย แค่อ่านภาษาอังกฤษให้เข้าใจแล้วก็ทำตามขั้นตอนไปก็พอ

 

พิมพ์เอกสารแรกกันก่อน

ในขั้นตอนเท่านี้เราสามารถเริ่มพิมพ์เอกสารกันได้แล้วครับ โดยใน Windows 10 จะเป็นตัว Brother MFC-T910DW ขึ้นมาเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งให้ใช้พิมพ์งานได้เลย ดังนั้นเอกสารต่างๆ จากพวก Microsoft Office ก็จะสามารถใช้พิมพ์ได้เรียบร้อย ออกมาเป็น 4 สีสวยงามตามปกติ อันนี้ทดสอบให้ไว้เผื่อใครจะพกพาไปใช้พิมพ์เอกสารตามงานสัมมนาต่างๆ จะได้รู้ว่าถ้าจะพิมพ์งานทั่วๆ ไป ก็ไม่ต้องลง Driver บน Windows 10 ก็ได้ครับ

 

 

ก่อนลง Driver จะมีสิ่งที่ทำไม่ได้คือการพิมพ์เอกสาร 2 หน้านะครับ ดังนั้นถ้าจะพิมพ์งาน 2 หน้าก็ต้องใช้ Driver ด้วย

 

ลง Driver เพื่อให้พิมพ์เอกสารสองหน้าได้

ขั้นตอนถัดมาเราก็จะลง Driver กันแล้ว โดยตัว Driver สามารถ Google จากชื่อรุ่นก็หาเจอได้ง่ายๆ เลย โดยลิงค์จะส่งเราไปที่ http://support.brother.com/g/b/downloadtop.aspx?c=as_ot&lang=en&prod=mfct910dw_all ครับ เราก็ต้องเลือกว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการอะไร โดยทาง Brother รองรับทั้ง Windows 7/8/8.1/10, Windows Server 2008/2012/2016, macOS, Linux, iOS, Android, Windows Phone ครบถ้วนใช้งานได้

 

 

สำหรับ Windows 10 ที่ทดสอบ Driver ใหญ่ประมาณ 419MB ครับ ถือว่าใหญ่อยู่พอสมควรเลย ก็ต้องใช้เวลาโหลดกันหน่อย พอโหลดเสร็จก็ติดตั้งไปตามปกติ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือต้องตั้งค่าเป็นพิเศษครับ หลังจากนั้นก็จะพิมพ์เอกสาร 2 หน้าได้แล้วครับ พร้อมมีเครื่องมือใหม่ๆ มาให้เล่นเพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานได้

 

 

สแกนเอกสารเป็นไฟล์ ส่งเข้าคอมหรือ USB ก็ได้

อันนี้เป็นหนึ่งในความสามารถที่ค่อนข้างประทับใจ คือการสแกนเอกสารของ Brother นี้เราสามารถเลือกได้ครับว่าสแกนเสร็จแล้วจะบันทึกไฟล์ในนามสกุลไหน และจัดเก็บเอาไว้ที่ไหน ซึ่งนามสกุลของไฟล์ก็เลือกได้ว่าจะเป็นไฟล์ภาพ หรือจะทำเป็นไฟล์ PDF และยังสามารถสแกนเอกสารหลายๆ หน้ารวมเป็น PDF ไฟล์เดียวได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อไฟล์เอง หรือจะส่งเข้า OCR เพื่อแปลงตัวหนังสือในเอกสารออกมาเป็นไฟล์ Text ก็ได้ แต่เท่าที่ทดสอบนั้นใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษนะครับ ภาษาไทยใช้ไม่ได้

ส่วนการเลือกปลายทางในการจัดเก็บไฟล์ที่สแกนมานั้น เราสามารถเลือกได้เองเลยว่าจะเก็บลงเครื่องคอมพิวเตอร์, จะส่งเป็นอีเมล หรือจะเสียบ USB Thumb Drive ไปที่ตัวปริ้นเตอร์แล้วเซฟงานที่สแกนลง USB นั้นเลย ก็ถือว่าสะดวกดีครับ

 

Brother iPrint & Scan: สร้าง Workflow เองได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

สำหรับหัวข้อนี้ถือเป็นความสามารถที่ชอบที่สุดครับ คือหลังจากลง Driver มาแล้วเราจะได้ใช้งาน Brother iPrint & Scan ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เพื่อให้การจัดการการพิมพ์และการสแกนเอกสารนั้นง่ายขึ้นอีกระดับ โดย Brother เปิดให้เราสร้าง Workflow เบื้องต้นใช้งานเองได้โดยอัตโนมัติผ่านโปรแกรมนี้ เช่น สร้างปุ่มลัดขึ้นมาสำหรับการสั่งสแกนเอกสารแล้วนำไปจัดเก็บในโฟลเดอร์ที่ระบุเอาไว้ ทำให้เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ก่อนสแกนเอกสารเลยว่าอันนี้งานเกี่ยวกับอะไร จะไปลงที่โฟลเดอร์ไหน หรือไปลงใน File Sharing บน NAS Storage ทำให้ประหยัดเวลาการทำงานไปได้อีกขั้น คือไม่ต้องไปเปิดโฟลเดอร์แล้วย้ายไฟล์เอง ลดความผิดพลาดในการทำงานลงไปได้ด้วยครับ หรือจะเลือกใช้การส่งเป็นอีเมล์ก็ได้เช่นกัน

อีกกรณีหนึ่งที่ชอบคือการที่เราสามารถสร้าง Workflow เองได้ว่า สแกนไฟล์เสร็จแล้วจะเซฟเป็นนามสกุลอะไรแล้วนำไปเปิดในโปรแกรมไหนต่อ เช่น เปิดใน Adobe Photoshop หรือ Adobe Illustrator เพื่อแต่งภาพหรือปรับสีต่อทันที เป็นต้น

 

ขั้นตอนแรก เปิด Brother iPrint & Scan ขึ้นมาก่อน แล้วคลิกปุ่ม Create Workflow ด้านขวาบนครับ

 

จากนั้นก็เลือกได้ว่าจะตั้งค่าการสแกนเอกสารอย่างไร และส่งไปที่ Application หรือโฟลเดอร์ไหน

 

สร้างเสร็จก็จะได้ปุ่มสำหรับ Workflow นั้นๆ ขึ้นมาครับ พร้อมใช้งานได้เลย

 

ด้วยความยืดหยุ่นตรงนี้เองก็ทำให้เราพอจะสามารถสร้าง Workflow เพื่อให้การจัดการเอกสารที่สแกนของเรานั้นง่ายขึ้น เช่น หากจะทำการสแกนใบเสร็จเพื่อส่งเบิกเงิน ก็สามารถสร้าง Workflow ส่งอีเมลไปยังแผนกที่เกี่ยวข้อง หรือส่งเข้าอีเมลเราเองเพื่อทำการ Forward ต่อพร้อมแนบเอกสารใบเบิกเงินต่อได้เลย หรือหากต้องการสแกนเอกสารเพื่อนำไปแปะลายเซ็น Digital ก็สามารถส่งไปเปิดใน Application ต่างๆ ได้ หรือหากเป็นนามบัตรก็สแกนแล้วส่งไปเข้า OCR ตัวอื่นๆ ที่อ่านภาษาไทยได้ เป็นต้นครับ ก็จะเหมาะกับออฟฟิศที่เป็นแบบ Paperless มากทีเดียว

ตรงส่วนนี้คิดว่าหากจะนำไปใช้งานให้ได้ประโยชน์ในองค์กรจริงๆ ก็มี 2 ทางเลือก คือการที่ IT เรียนรู้ความสามารถตรงนี้และไปพูดคุยกับผู้ใช้งานว่าอยากได้อะไรบ้าง แล้วทำการตั้งค่าให้ หรือการสอนผู้ใช้งานให้สามารถสร้าง Workflow ขึ้นมาเองได้ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของคนทั่วไปครับ

 

สรุปข้อดีข้อเสียสั้นๆ ของ Brother MFC-T910DW เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชัน

โดยสรุปหลังทดสอบแล้ว เราสามารถสรุปข้อดีข้อเสียสั้นๆ ของ Brother MFC-T910DW กันได้ดังนี้ครับ

 

ข้อดี

  • หน้าตาดูค่อนข้างสวย ติดตั้งใช้งานในองค์กรได้โดยไม่ทำลายบรรยากาศโดยรวม
  • ติดตั้งใช้งานง่ายมาก อัปเดต Firmware ก็ไม่มีปัญหาอะไร
  • เติมหมึกง่าย ดูแลรักษาง่าย ออกแบบเรื่องช่องเติมหมึกและวิธีการเติมมาได้ดีพอสมควร
  • สร้าง Workflow เบื้องต้นเองได้ ทุ่นเวลาในการทำงานได้ดีทีเดียวถ้าหัดใช้งานให้เป็น
  • หา Resource ในเน็ตได้หมด จัดการแทบทุกอย่างด้วยตัวเองได้

 

ข้อเสีย

  • ตัว Driver ใหญ่พอสมควร อาจต้องเผื่อพื้นที่ไว้หน่อยเวลาจะใช้กับพวกเครื่องคอมพิวเตอร์เล็กๆ อย่าง Notebook เล็กๆ หรือ All-in-One PC ตัวเล็กๆ
  • ตอนสั่งพิมพ์เครื่องมีแรงเหวี่ยงอยู่พอตัว ต้องวางบนโต๊ะที่มั่นคงมีน้ำหนักหน่อย

 

ตรวจสอบปริ้นเตอร์รุ่นต่างๆ ของ Brother ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ด้านปริ้นเตอร์ของ Brother ทั้งสำหรับการใช้งานในธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สามารถตรวจสอบรุ่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ได้ที่ http://www.brother.co.th/th หรือโทร 02-665-7777 เพื่อติดต่อ Brother Contact Center


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Line ประเทศไทย เผย 3 Roadmap สู่ปี 2027 พร้อมเปิดตัว Line Stickers Premium แบบจ่ายรายเดือน

ที่งาน Line Conference Thailand 2023 วันนี้ ทีมงาน Line ประเทศไทยได้ออกมาอัปเดตสิ่งที่น่าสนใจหลายเรื่อง ทั้งการเปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ครั้งแรกของ Line ประเทศไทย ตลอดจน Roadmap สำหรับทิศทางการดำเนินงานในอนาคต …

LINE ประเทศไทย จัดงาน LINE Conference Thailand 2023 ชูเทคโนโลยี Hyper-localized ยกระดับชีวิต ธุรกิจ และนักพัฒนา ก้าวสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” [Guest Post]

ครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย กับงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ก้าวต่อไปในการพัฒนาและดำเนินการด้านเทคโนโลยีใหม่แห่งปี สู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” …