Bitdefender ผสานเทคโนโลยีกับ Nutanix และ Citrix ปกป้องระบบ HCI และ Virtualization แบบไร้รอยต่อ

Bitdefender ผู้นำด้าน Endpoint Security ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านเครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลก จับมือกับ Nutanix และ Citrix ผสานรวมเทคโนโลยี GravityZone เข้ากับโซลูชันของผู้ให้บริการทั้งสองอย่างไร้รอยต่อ ปกป้องระบบ Hyper-converged Infrastructure และ Virtualization จากภัยคุกคามขั้นสูงได้ถึงระดับ Hypervisor

Mission-Critical Applications เริ่มใช้ HCI อย่างแพร่หลาย

Hyper-converged Infrastructure (HCI) เป็นระบบโครงสร้างที่ผสานรวมส่วน Compute, Network และ Storage เข้าด้วยกันและปรับแต่งให้ทุกส่วนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดภายในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เดียว ซึ่งทั้งหมดจะถูกควบคุมผ่านซอฟต์แวร์เพื่อลดความซับซ้อนของ Data Center และเพิ่มความสามารถในการขยายระบบในอนาคต HCI ถูกพัฒนาและใช้งานอย่างแพร่หลายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และด้วยความเป็น Data Center ขนาดย่อมที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกสภาพแวดล้อม ทำให้ HCI เริ่มถูกนำไปใช้ในสำนักงานสาขามากขึ้นเรื่อยๆ

ปัจจุบันนี้ มีการเพิ่มฟีเจอร์ Automation และ Machine Learning/Artificial Intelligence เข้าไปบน HCI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการใช้งาน ทั้งยังช่วยให้บริหารจัดการระบบทั้งหมดได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ HCI ถูกนำมาใช้งานกับ Workload ที่หลากหลาย รวมไปถึงแอปพลิเคชันประเภท Mission-Critical ในขณะที่ Gartner ก็คาดการณ์ไว้ว่า HCI จะถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในแบบ Edge Computing ในอุตสาหกรรมค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต และ Hybrid Cloud/Multicloud ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

Bitdefender ผสาน GravityZone เข้ากับ Nutanix ปกป้องระบบ HCI อย่างไร้รอยต่อ

เพื่อปกป้องระบบ HCI จากภัยคุกคามไซเบอร์ขั้นสูง Bitdefender ได้นำเสนอโซลูชัน GravityZone ซึ่งเป็นระบบ Endpoint Security ที่ผสานรวมกลไกการป้องกันแบบ Next-generation หลากหลายชั้น ไม่ว่าจะเป็น Tunable Machine Learning, Application Control, Anti-exploit หรือ Network Sandboxing บริหารจัดการได้จากศูนย์กลาง ช่วยลดความยุ่งยากและยังคงรักษาประสิทธิภาพของระบบ HCI ไว้ให้ได้มากที่สุด

สำหรับผู้ใช้ Nutanix HCI นั้น Bitdefender GravityZone สามารถผสานการทำงานร่วมกับ Acropolis Hypervisor (AHV) ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้การบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย Workload บน HCI เป็นเรื่องง่าย โดย Nutanix Prism จะส่งข้อมูลสภาพแวดล้อมที่ทำงานอยู่ ได้แก่ VM Inventory และ Cluster Hierachy รวมไปถึงข้อมูลการเริ่ม จบ และการเคลื่อนย้าย VM แบบเรียลไทม์ให้แก่ Bitdefender GravityZone ซึ่งจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปตั้งค่า In-guest Security Tools และ Security Server เพื่อสร้างนโยบายรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่รัดกุมที่สุด นำ License จาก VM ที่เลิกใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ และจัดทำรายงานให้โดยอัตโนมัติ

Bitdefender GravityZone พร้อมให้บริการผ่าน Calm Marketplace ของ Natunix ซึ่งช่วยให้การติดตั้งแพลตฟอร์มด้านความมั่นคงปลอดภัยกลายเป็นเรื่องง่ายด้วยการกดคลิกเมาส์เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ Nutanix ยังให้บริการ Blueprint สำหรับเป็นคู่มือติดตั้ง Bitdefender GravityZone ภายใต้สภาวะแว้มล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบทดสอบ ระบบจริง หรือระบบที่ใช้ Hypervisor อื่นนอกจาก AHV เพื่อให้พร้อมใช้งานได้ภายในเวลาไม่นาที

จุดเด่นสำคัญของการใช้ Bitdefender GravityZone บน Nutanix AHV คือ การขจัดปัญหาเรื่องการติดตั้ง Agent ขนาดใหญ่บนแต่ละ VM ซึ่งบริโภคทรัพยากรอย่างมหาศาล โดย Bitdefender GravityZone จะทำการติดตั้ง In-guest Security Tools ขนาดเล็ก และให้ Security Server (SVA) ที่แยกออกมาต่างหากทำหน้าที่สแกนหาภัยคุกคามและจัดการเรื่องอัปเดตต่างๆ แทน ส่งผลให้ลดภาระการทำงานของ CPU และเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองของแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น

โดยสรุปแล้ว การใช้ Bitdefender GravityZone บน Nutanix AHV จะช่วยเพิ่ม Virtualization Density ขึ้นสูงสุดถึง 35% และลด Latency ของแอปพลิเคชันลงได้สูงสุด 17%

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.bitdefender.co.th/nutanix

การันตีด้วยรางวัล 2018 Nutanix Elevate Partner Award – AHV Innovator

จากการผสานรวมเทคโนโลยีระหว่าง Bitdefender GravityZone และ Nutanix AHV อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ Workload ที่รันบนแพลตฟอร์มของ Nutanix แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ทำให้การบริหารจัดการกลายเป็นเรื่องง่าย และการทำงานมีความอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ Bitdefender GravityZone ได้รับรางวัล Nutanix Elevate Partner Award – AHV Innovator ภายในงาน .NEXT 2018 ที่เพิ่งจัดไปเมื่อปีที่ผ่านมา

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.nutanix.com/2018/05/30/2018-nutanix-elevate-partner-year-award-winners/

ตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูงบน Citrix ด้วยเทคนิค Hypervior-based Introspection

เช่นเดียวกับ Nutanix HCI โซลูชัน GravityZone ของ Bitdefender สามารถปกป้องระบบ Citrix จากภัยคุกคามไซเบอร์ขั้นสูงได้ถึงระดับ Hypervisor กล่าวคือ ด้วยเทคนิค Hypervisor-based Introspection ของ Bitdefender GravityZone สามารถตรวจจับภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์ผ่านการสแกนข้อมูลดิบบนหน่วยความจำของ Guest VM โดยตรงจากในระดับ Hypervisor โดยไม่จำเป็นต้องมีการติดตั้ง Agent ใดๆ ลงบน Guest VM แต่อย่างใด

ผลิตภัณฑ์ Endpoint Security ทั่วไปต้องอาศัย Signature นับล้านรายการในการตรวจจับภัยคุกคาม แต่ Hypervisor-based Introspection ของ Bitdefender GravityZone นั้นใช้การตรวจสอบหน่วยความจำเพื่อตรวจจับเทคนิคการโจมตีที่แฮ็กเกอร์ใช้ ซึ่งสามารถกระทำได้เฉพาะในระดับ Hypervisor แม้ว่า Signature จะเปลี่ยนไป ก่อให้เกิดเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ แต่เทคนิคที่ใช้มักยังหนีไม่พ้นรูปแบบเดิมๆ เสมอ ส่งผลให้ Hypervisor-based Introspection สามารถตรวจจับการโจมตีแบบ Zero-day ได้เหมือนการโจมตีปกติธรรมดา ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องคอยอัปเดตฐานข้อมูล Signature อีกด้วย

“กุญแจสำคัญ [ในการตรวจจับ] คือระเบียบวิธีการโจมตี ไม่ใช่ Payload ซึ่ง Hypervisor-based Introspection ไม่สนใจว่าโค้ดอันตรายจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร มันสนใจแค่มีการเข้าถึงหน่วยความจำโดยไม่ได้รับอนุญาตเกิดขึ้นหรือไม่” — Dr. Peter Stephenson นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก SC Magazine กล่าว

เทคนิค Hypervisor-based Introspection รองรับการใช้งานร่วมกับ XenServer เวอร์ชัน 7 เป็นต้นไป สามารถตรวจจับภัยคุกคามบนระบบปฏิบัติการ Windows 7, 8, 8.1 และ 10 รวมไปถึง Windows Server และ Linux อย่าง Debian, Ubuntu, CentOS และ Red Hat Enterprise Linux อีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.bitdefender.co.th/hypervisor-introspection/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google Chrome Enhanced Protection ปกป้องผู้ใช้จากภัยคุกคามออนไลน์ได้กว่า 1 พันล้านรายแล้ว

Google ฉลองก้าวสำคัญ โดยประกาศว่าโหมด Enhanced Protection ใน Chrome ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อตรวจจับและบล็อกภัยคุกคามออนไลน์แบบเรียลไทม์ ขณะนี้สามารถปกป้องผู้ใช้ได้กว่า 1 พันล้านรายจากฟิชชิงและการหลอกลวงออนไลน์แล้ว

Workday เปิดตัว Agent System of Record ระบบจัดการ AI Agent แบบครบวงจรสำหรับองค์กร

Workday ประกาศเปิดตัวระบบจัดการ AI Agent รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมและจัดการ AI Agent ทั้งจาก Workday และบริษัทอื่นๆ ได้จากที่เดียว พร้อมเปิดตัว AI Agent ใหม่