เมื่อช่วงประมาณ 2.30 น. ตามเวลาประเทศไทย Amazon S3 ซึ่งเป็นบริการ Cloud Storage ของ Amazon Web Services ในแถบรัฐเวอร์จิเนียทางตอนเหนือ (N. Virginia หรือ US-EAST-1 Region) เกิดปัญหา “Increased Error Rates” อย่างไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้เว็บไซต์ แอพพลิเคชัน และบริการออนไลน์ชื่อดังในสหรัฐฯ กว่า 40 แห่ง หยุดให้บริการ หรือเกิดปัญหาทำให้ใช้งานได้ช้ามาก
จากหน้าสถานะของ AWS ระบุว่า ปัญหานี้เริ่มต้นประมาณ 1.33 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการไม่กี่ราย และค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเวลา 2.35 น. AWS ได้ประกาศแจ้งเตือนบน Service Health Dashboard ว่า “เราทราบสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วว่ามาจากอัตราความผิดพลาดบน S3 ใน US-EAST-1 สูงผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อแอพพลิเคชันและบริการอื่นที่เชื่อมต่อกับ S3 เป็นจำนวนมาก เรากำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว”
อัตราความผิดพลาดที่เพิ่มขึ้นใน Amazon S3 นั้นก่อนให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไปยังบริการของ AWS ถึง 18 รายการใน US-EAST-1 Region ไม่ว่าจะเป็น RedShift, Simple Email Service, Workdocs, WorkMail, AWS Auto Scaling, CodeBuild, CodeCommit, Elastic Beanstalk และ AWS Lambda โดยเฉพาะ EC2 ซึ่งเมื่อเวลา 2.38 น. ตามเวลาประเทศไทย AWS ได้ประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับ EC2 ในแถบรัฐเวอร์จิเนียทางตอนเหนืออีกว่า “เราสามารถยืนยันการเพิ่มขึ้นของอัตราความผิดพลาดใน EC2 และ EBS APIs และความล้มเหลวในการเริ่มใช้งาน EC2 Instance ใหม่ใน US-EAST-1 Region เรากำลังประสบปัญหาว่า EBS บาง Volumes ใน Region นี้มีประสิทธิภาพลดลงด้วยเช่นกัน”
เว็บไซต์และบริการชื่อดังที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Adobe, Docker, Giphy, Grammarly, Hacker News, IFTTT, Imgur, Mailchimp, Medium, Quora, Signal, Slack, Trello, Twilio, Twitch และผู้ใช้บริการรายเล็กอื่นๆ อีกหลายล้านราย
ที่น่าแปลกคือ AWS ระบุว่า เฉพาะ US-EAST-1 Region เท่านั้นที่เกิดปัญหาระบบออฟไลน์ แต่ด้วยโครงสร้างของ AWS แล้ว Region อื่นๆ ควรเข้ามาช่วยเหลือบริการต่างๆ ใน Region ที่มีปัญหาทันที นอกจากนี้ยังพบว่า Service Health Dashboard ยังแสดงสถานะของ Amazon S3 ผิดพลาดอีกด้วย โดยแสดงเป็นสีเขียวซึ่งระบุว่าสถานะปกติ ทั้งๆ ที่ขณะนั้น S3 กำลังมีปัญหาอยู่ ซึ่งต่อมาทาง AWS ได้ประกาศแจ้งทาง Twitter ว่า ที่หน้า Dashboard ไม่เปลี่ยนสีเนื่องมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับ S3 ให้ผู้ใช้บริการอ่านแบนเนอร์ด้านบนสำหรับการอัปเดตข้อมูลต่างๆ แทน
อัปเดตเวลา 5.00 น.: จนถึงตอนนี้ หน้า Service Health Dashboard แสดงผลตามปกติแล้ว