คนไทยส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง, กล้อง, โทรทัศน์ หรือแม้แต่กระทั่งรถยนต์ ถ้าให้ลองนึกถึงเหตุผลในการเลือกใช้ คำตอบที่ได้คงคล้ายๆ กัน นั่นก็คือ ความก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของสินค้า ไม่เพียงแต่คนไทยที่ยอมรับในเรื่องนี้ แม้แต่คนในประเทศอื่นๆ ก็รู้จักสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นในลักษณะเช่นเดียวกันจนได้รับความนิยมไปทั่วโลก
และสำหรับคนในวงการไอทีทางด้านเน็ตเวิร์ค อาจจะคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์จากทางด้านตะวันตก โดยอาจจะคาดไม่ถึงว่ายังมีผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน อัลไลด์ เทเลซิส นับว่าเป็นบริษัททางด้านไอทีเน็ตเวิร์คเพียงหนึ่งเดียวที่เอาปรัชญาและแนวความคิดแบบญี่ปุ่นใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ด้วย และทำการตลาดจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งจุดเด่นของของผลิตภัณฑ์นั้นมีมากมาย ได้แก่
- คุณภาพของสินค้า เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าแต่ละชิ้นได้อย่างเต็มที่ อัลไลด์ เทเลซิส เลือกที่จะผลิตสินค้าในโรงงานของตนเอง ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์และจีน โดยมีเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ควบคุมโรงงานและขั้นตอนการผลิตรวมถึงการทดสอบคุณภาพ (QC) อีกทั้งยังทุ่มทุนสร้างห้องควบคุมอุณหภูมิสำหรับการทดสอบสินค้าในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ผลิตจะสามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแม้จะติดตั้งผลิตภัณฑ์อยู่ในอุณหภูมิที่สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ก็ตาม จึงไม่น่าแปลกใจที่ อัลไลด์ เทเลซิส จะกล้ารับประกันสินค้าถึง 5 ปี ในทุกไลน์ของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่อุปกรณ์ตัวเล็กๆ ในระดับ Media Converter, Edge Switch, Firewall, Wireless Access Point ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ทำงานซับซ้อนแบบ Chassis ในระดับ Core Switch ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี
- ความน่าเชื่อถือ บ่อยครั้งที่เราพบว่าสินค้าที่เราเลือกซื้อมาไม่สามารถทำงานได้ตามคุณสมบัติที่มีการโฆษณาไว้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 33 ปี อัลไลด์ เทเลซิส ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทประหนึ่งเป็นคำมั่นในสัญญาของบริษัท คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์สามารถทำงานได้อย่างแท้จริง จากผลการทดสอบที่เราสามารถทำการทดลองได้บ่อยๆ ระหว่างการค้นคว้าและพัฒนา มิใช่เพียงแค่การนำผลทดสอบที่สามารถทำได้เพียงบางครั้งบางคราวมากำหนดเป็นคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
- เทคโนโลยี อัลไลด์ เทเลซิส สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ของตัวเองถึง 9 แห่ง ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่เดิมพันกับแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดของวงการไอทีไว้ ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) เหล่านี้ให้ใกล้ชิดกับผู้ใช้งานจริงมากที่สุด เพื่อจะนำความต้องการของผู้ใช้งานจริงเหล่านั้นมาพัฒนาเป็นเทคโนโลยีของบริษัทและใส่เข้าไปในสินค้าที่จำหน่ายไปทั่วโลก ส่งผลให้เทคโนโลยีหลายอย่างที่ อัลไลด์ เทเลซิส เป็นผู้ริเริ่มและได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรทางปัญญา เช่น
- Autonomous Management Framework สำหรับช่วยให้ระบบเน็ตเวิร์คทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพด้วยระบบอัตโนมัติโดยเหมาะสำหรับยุคปัจจุบัน ที่หาผู้ดูและระบบที่เชี่ยวชาญได้ยาก
- Active Fiber Monitoring สำหรับตรวจสอบคุณภาพของสัญญาณส่งบน Optical Fiber เพื่อแจ้งเตือนก่อนที่จะเกิดความเสียหายในระบบ และยังช่วยในการป้องกันการรุกรานจากแฮ็คเกอร์ได้อีกด้วย
- Continuous POE สำหรับช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่องหรือช่วยลดระยะเวลา down time ของอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ POE ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด, Access Point และอื่นๆ อีกมากมาย
- Channel Blanket เทคโนโลยี Roamingless Wireless เหมาะสำหรับการใช้งาน Wireless ที่มีการเคลื่อนที่อยู่เสมอ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการ Roaming ระหว่าง Access Point ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการสะดุดของการส่งสัญญาณ เหมาะสำหรับงานคลังสินค้าเป็นอย่างยิ่ง
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยประชากรที่หนาแน่น การใช้พื้นที่และพลังงานในประเทศญี่ปุ่นต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นพื้นฐานตั้งต้นในการผลิตอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมดของ อัลไลด์ เทเลซิส ขนาดของอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่ออกแบบมาให้ประหยัด rack space จะช่วยลดการใช้ไฟ ลดการกำเนิดความร้อนภายในห้อง Data Center ซึ่งยังช่วยประหยัดค่าไฟในแต่ละปีได้อย่างดีอีกด้วย โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของระบบเน็ตเวิร์คในระดับ 100 MB/S ไปจนถึงระดับ 100 GB/S แต่อย่างใด
ในปัจจุบัน โลกเราเดินทางมาถึงยุคที่อุปกรณ์ไอทีเกือบจะเป็นปัจจัยที่ 6 ในการใช้ชีวิตของคนเราไปแล้ว แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ยังสามารถใช้อุปกรณ์ไอทีเป็นก่อนที่จะท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูกได้ครบทุกตัวเสียอีก ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่อนาคตอันใกล้นี้จะมีอุปกรณ์อีกหลายสิ่งถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นอุปกรณ์ไอที และต้องเชื่อมต่อกันอยู่ตลอดเวลา
“อัลไลด์ เทเลซิส” จึงตอบรับความท้าทายนี้ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น รองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกันจากอุปกรณ์จำนวนมหาศาล และการบริหารจัดการได้ง่ายในคราวเดียวกัน เราจึงทุ่มเทกำลังทั้งหมดที่มี ด้วยทีมงานกว่าพันชีวิตทั่วโลกบวกกับประสบการณ์อันยาวนานกว่า 30 ปี เพื่อสร้าง Wired & Wireless System ให้ผสานเข้ากันกับ Network Management Software (NMS) และ Software Defined Networking (SDN) จนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ในที่สุด
ในตอนถัดไปเราจะมาเล่าให้ฟังถึงหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดของ อัลไลด์ เทเลซิส ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนความยุ่งยากในการดูแลระบบเครือข่ายฯ ให้เป็นเรื่องง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
ผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Allied Telesis ได้ที่ https://www.alliedtelesis.com/products
#AlliedTelesis
#NetworkSmarter