“AIS Cloud PC for Business” พลิกโฉมการทำงานผ่านรูปแบบ “Desktop-as-a -Service” ปกป้องข้อมูลให้ปลอดภัย ทำงานผ่าน Cloud ได้ทุกที่ทุกเวลา

ในยุคที่ AI มีวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดด เรื่องของความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) ก็เป็นอีกส่วนที่เติบโตขึ้นมาอย่างมหาศาลเช่นกัน ประกอบกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปหลังยุค COVID-19 ที่เป็นแบบไฮบริด (Hybrid Work) ยิ่งส่งผลให้การทำงานในยุคอนาคตของแต่ละองค์กรจะมีความท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องข้อมูล (Data) อันเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ

หากองค์กรมีความกังวลเรื่องข้อมูลความลับที่อาจจะหลุดรั่วหรือโดนโจมตี ไม่ว่าจะถูกขโมยเครื่อง หรือข้อมูลจากโน้ตบุ๊กพกพาของพนักงาน ทาง AIS Business มีโซลูชันใหม่ในชื่อ “AIS Cloud PC for Business” ที่จะช่วยทรานส์ฟอร์มให้การใช้งานเครื่องของพนักงานกลายเป็นรูปแบบ “Desktop-as-a-Service (DaaS)” ซึ่งทำให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าวได้ และพนักงานยังทำงานจากที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์อย่าง Cloud Pocket PC ที่น้ำหนักเบาแค่ 55 กรัมเท่านั้น แถมยังช่วยลดภาระของฝ่ายบำรุงรักษาไปได้อย่างมากอีกด้วย รายละเอียดโซลูชันนี้เป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้

แม้ว่าจะผ่านช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มาแล้ว แต่ความต้องการทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) หรือการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) นั้นยังคงเป็นสิ่งที่พนักงานยุคใหม่ต้องการ ตามที่ Gartner ได้คาดการณ์ว่า 39% ของคนทำงานที่มีความรู้ทั่วโลกจะทำงานแบบ Hybrid ภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2565

เหตุนี้เอง AIS Business จึงเปิดตัวโซลูชัน “AIS Cloud PC for Business” ภายในงาน “AIS Business Digital Future 2024 – DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION” เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานให้พนักงานในองค์กรสามารถทำงานในลักษณะ “Desktop-as-a-Service (DaaS)” โดยจะมีอุปกรณ์ให้กับพนักงานพกพาเพื่อเชื่อมโยงเข้าไปยังเครื่อง PC บน Cloud ที่องค์กรจัดสรรทรัพยากรไว้ให้ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องความคล่องตัว พกพาไปทำงานจากที่ไหนก็ได้ และยังมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ในขณะที่เรื่องสเปคอย่างเช่นหน่วยประมวลผล (CPU) หรือหน่วยความจำ (Memory) ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย

“สิ่งที่มีความต้องการปัจจุบันเป็นอย่างมากคือความคล่องตัว (Mobility)” คุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร (CEBO) แห่ง AIS Business กล่าว “ทำอย่างไรที่จะทำให้พนักงานจะสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาด SMB ซึ่งก่อน COVID-19 คงไม่มีใครนึกว่าฝันมาก่อนว่าจะมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น”

องค์กรที่ใช้งานโซลูชัน AIS Cloud PC for Business จะสามารถจัดสรรทรัพยากรของแต่ละเครื่อง PC บน Cloud ที่อยู่บนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของทาง AIS ให้กับพนักงานแต่ละคนตามความต้องการที่เหมาะสม เช่น ต้องการใช้หน่วยประมวลผลขนาดใด มีหน่วยความจำเท่าไหร่ รวมทั้งซอฟต์แวร์ที่ต้องการใช้งาน อย่างเช่นงานสำนักงานที่ต้องมี Microsoft 365 ใส่มาให้ในเครื่องของพนักงานคนนั้น เป็นต้น

หลังสร้างเป็นเครื่อง PC ไว้บน Cloud เรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะสามารถใช้อุปกรณ์ภายใต้โซลูชัน AIS Cloud PC เข้าถึงเครื่องดังกล่าวได้ ซึ่งอุปกรณ์นั้นสามารถพกพาไปกับตัวได้อย่างสะดวก และมั่นใจหายห่วงเพราะอุปกรณ์จะไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ไว้ทั้งสิ้น โดยอุปกรณ์จะใช้เพื่อรีโมท (Remote) เข้าไปที่เครื่อง PC บน Cloud เพียงเท่านั้น

โดยปัจจุบันภายใต้โซลูชัน AIS Cloud PC for Business มีอุปกรณ์ 3 รูปแบบที่รองรับ ได้แก่ Mobile Client บนระบบปฏิบัติการ Android, Cloud Notebook ที่รูปลักษณ์เหมือนกับโน้ตบุ๊ก และล่าสุดที่เปิดตัวคือ Cloud Pocket PC ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมือนฮับ USB ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

ล่าสุดจากงาน “AIS Business Digital Future 2024 – DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION” ที่จัดขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา หนึ่งในเซสชันที่น่าสนใจมากที่สุดของงาน คือการที่ AIS Business ได้จับมือร่วมกับทาง ZTE เพื่อเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ภายใต้โซลูชัน AIS Cloud PC for Business นั่นคือ “Cloud Pocket PC” ที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 55 กรัมเท่านั้น

อุปกรณ์ Cloud Pocket PC ที่มีขนาดเล็กเท่ากับฝ่ามือนี้ จะสนับสนุนให้พนักงานสามารถเชื่อมโยง WiFi และ Bluetooh กับอุปกรณ์ แล้วพารีโมทไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองที่อยู่บน AIS Cloud PC ได้จากทุกหนทุกแห่งอย่างราบรื่น ขอเพียงแค่นำ Cloud Pocket PC เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน WiFi พร้อมต่อหน้าจอผ่านพอร์ต HDMI และเม้าส์กับคีย์บอร์ดที่จะใช้ช่อง USB 2.0 หรือว่า Bluetooth ก็ได้ ก็สามารถเชื่อมโยงเข้าไปในเครื่อง PC บน Cloud แล้วเริ่มทำงานต่อเนื่องได้ทันที

1. พกพาคล่องตัว ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ไม่จำเป็นที่พนักงานจะต้องพกพาเครื่องโน้ตบุ๊กหนัก ๆ อีกต่อไป โดยเฉพาะ Cloud Pocket PC ที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ (ไม่ถึง 1 ขีด) ก็สามารถเคลื่อนย้ายไปมาในที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะอยู่บ้าน ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็สามารถใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ WiFi เพื่อ Login เข้าไปยังเครื่อง PC บน Cloud ทำงานต่อเนื่องได้จากทุกที่ทุกแห่งทุกเวลา

2. มั่นใจปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม

ไม่ต้องกังวลเรื่องเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ที่พกพา เช่น ถูกขโมยเครื่อง หรือว่ามีอุบัติเหตุจนทำให้เครื่องเสีย ก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะไม่ได้มีจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ไว้ในอุปกรณ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจากทุกอย่างทั้งระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ และข้อมูล ทั้งหมดนั้นอยู่บน Cloud บนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจาก AIS ที่มีความปลอดภัยและมาตรฐานการเก็บข้อมูลภายในประเทศ (Data Sovereignty Protection) ซึ่งส่งผลให้ข้อมูลมีโอกาสถูกขโมยได้ยากขึ้นกว่าแบบเดิม

3. ลดภาระของแผนกซ่อมบำรุง เสริมความยืดหยุ่นมากขึ้น

เพราะองค์กรจะสามารถเลือกจัดสรรทรัพยากรบน Cloud ให้กับแต่ละ PC ของพนักงานได้ตามความเหมาะสมกับความจำเป็นต้องใช้ของแต่ละคน ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรมีความยืดหยุ่นสูงมากขึ้น ทำให้การปรับเปลี่ยนสเปคเครื่องของพนักงานแต่ละคนนั้นสามารถจัดการได้แทบจะทันที อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการตรวจสอบสถิติและสถานะการใช้งานได้ผ่านระบบควบคุมของผู้ดูแลระบบด้วย

4. บริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยได้จากศูนย์กลาง

ผู้ดูแลระบบ (System Administrator) หรือฝ่ายไอทีขององค์กรจะสามารถลดภาระความกังวล และความเสี่ยงในเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ลงไปได้มหาศาล เนื่องจากผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการเรื่องการอัปเดตความมั่นคงปลอดภัย (Security) ให้กับเครื่อง PC ที่อยู่บน Cloud ทุกเครื่องจากศูนย์กลางได้อย่างสะดวกและทำได้สม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ลดความเสี่ยงที่อาจจะถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีลงไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

5. จ่ายเงินแบบ Subscription ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น

โซลูชัน AIS Cloud PC for Business นี้ยังเป็นบริการแบบ Subscription Model โดยองค์กรต้องการใช้งานอย่างไรขนาดเท่าไหร่ ก็จะมีการคิดค่าบริการตามความต้องการที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน (Capital Expenditures หรือ CAPEX) ให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operational Expenditures หรือ OPEX) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่เหมาะกับการใช้งานโซลูชัน AIS Cloud PC for Business นั้นมีหลากหลาย อาทิ

  • ภาคธนาคารและการเงิน ที่ต้องการเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าเป็นอย่างสูง และต้องไม่ให้เกิดการรั่วไหลจากระบบธนาคารทั้งสิ้น การใช้โซลูชันนี้จะช่วยควบคุมการเข้าถึงและการนำข้อมูลออกได้มั่นใจมากขึ้น รวมทั้งลดความเสี่ยงในกรณีนำเอาเครื่องโน้ตบุ๊กองค์กรไปใช้งานนอกสถานที่แล้วอาจเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้
  • ภาคอุตสาหกรรมการผลิต โรงงาน Smart Factory หลังดำเนินการ Digital Transformation แล้ว เรื่องข้อมูลก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ต้องปกป้องไม่ให้รั่วไหลออกไป ซึ่งโซลูชันนี้จะช่วยบริหารจัดการเรื่อง Security จากศูนย์กลางในเครื่อง PC ของพนักงานที่เข้าออกเป็นช่วงเวลาได้สะดวกขึ้น
  • ภาคธุรกิจบริการ ที่มีสาขาหรือพนักงานทำงานเป็นช่วงเวลาหรือทำงานนอกสำนักงาน โดยองค์กรสามารถสร้างบัญชีแยกตามผู้ใช้งานได้ พร้อมทั้งปกป้องข้อมูลลูกค้าไม่ให้รั่วไหลจากระบบฐานข้อมูลในบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากองค์กรใดที่สนใจอยากเพิ่มเติมความคล่องตัวให้กับพนักงานให้สามารถทำงานได้จากทุกที่ทุกแห่ง พร้อมทั้งเพิ่มเรื่อง Security ให้กับองค์กรโดยเฉพาะในเรื่องข้อมูล รวมทั้งเสริมความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนทรัพยากรบนเครื่อง PC ให้กับพนักงานได้สะดวกตามความต้องการ “AIS Cloud PC for Business” ที่ให้บริการในรูปแบบ Desktop-as-a-Service นั้นคือโซลูชันที่จะตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าวได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันดังกล่าว สามารถติดต่อ AIS Business ได้ทุกช่องทาง โดยรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมของโซลูชัน AIS Cloud PC for Business สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.ais.th/business/enterprise/technology-and-solution/cloud-and-data-center/ais-cloud-pc-for-business

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย

เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่

Email: business@ais.co.th

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

OpenAI เปิดตัว Canvas แนวทางใหม่ใน ChatGPT สำหรับเขียนบทความหรือโค้ด

หลังจาก OpenAI เพิ่งสามารถระดมทุนได้สูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาหมาด ๆ ล่าสุด บริษัทได้มีการอัปเดต ChatGPT ด้วยการใส่ฟีเจอร์ใหม่เข้าไปในชื่อ “Canvas” แนวทางใหม่ในการใช้งาน ChatGPT ในการเขียนบทความหรือโค้ด ที่สามารถแก้ไข …

MongoDB เปิดตัว MongoDB 8.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด มาพร้อมการปรับปรุงประสิทธิภาพ

MongoDB ประกาศพร้อมให้บริการ MongoDB 8.0 ทั่วโลก มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เพิ่มความปลอดภัยระดับองค์กร และฟีเจอร์ใหม่จำนวนมาก