เปิดศักราชใหม่ 2025 – พลิกโฉม Infrastructure ให้มั่นคงปลอดภัยและพร้อมรับมือกับภัยไซเบอร์ด้วย AI-Powered Connectivity Cloud

Threat Landscape ได้มีวิวัฒนาการไปอย่างก้าวกระโดด เนื่องจาก AI ได้เสริมแกร่งให้ทุกอย่างมีพัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งการนำไปใช้ในทางที่ดีและในทางที่ไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ขององค์กรจึงต้องเสริมแกร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบันและอนาคต

จากงาน TTT Virtual Summit: Enterprise Tech & AI Trends 2025 ในเซสชันของ Cloudflare ที่บรรยายโดยคุณศิวัชญ์ ตันติกุล Senior Solutions Engineer แห่ง Cloudflare (Thailand) คืออีกหนึ่งโซลูชันที่จะช่วยให้องค์กรสามารถพลิกโฉมให้มั่นคงปลอดภัยและยืดหยุ่นสำหรับโลกที่ภัยคุกคามขับเคลื่อนด้วย Cloudflare AI มาเรียนรู้โซลูชันจาก Cloudflare ได้ในบทความนี้

ด้วยขีดความสามารถของ Cloudflare ที่มีบริการหลากหลายรูปแบบสำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้มี Performance, Security และ Reliability ในระดับสูง รวมทั้งการเป็น Connectivity Cloud จึงทำให้มี Traffic ของเว็บบนอินเทอร์เน็ตมาวิ่งผ่าน Cloudflare ถึง 20% และทำให้ Cloudflare สามารถบล็อกป้องกันภัยคุกคามรายวันไปกว่า 158,000 ล้านรายการแล้ว

ในปี 2024 ที่ผ่านมา Cloudflare ได้พบว่ามีเหตุการณ์โจมตี Distributed Denial of Service (DDoS) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 55% รวมทั้งขนาดการโจมตีก็ยังคงใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ดังเช่นตัวอย่างที่มีรายงานออกมาในช่วงต้นปีว่า Cloudflare สามารถป้องกันการโจมตี DDoS ระดับ 5.6 Tbps ได้สำเร็จเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา 

นอกจาก DDoS แล้ว ยังมีเทรนด์ภัยคุกคามอื่น ๆ ที่ Cloudflare พบ อาทิ 

  • API Attack Surface ที่องค์กรไม่รู้ว่ามีอยู่นั้นมีกว่า 33% หรือที่เรียกว่า Shadow API อันเป็น API ที่ทีมความมั่นคงปลอดภัยไม่มีข้อมูลจึงทำให้ไม่ได้มีการปกป้องแต่อย่างใด
  • ความเร็วในการสร้างเครื่องมือโจมตีที่ก้าวกระโดด การสร้างเครื่องมือในการโจมตีของผู้ไม่ประสงค์ดีที่สามารถใช้เวลาเร็วระดับ 22 นาทีก็สามารถนำไปใช้งานโจมตีจริง ๆ ได้แล้ว
  • Phishing ยังคงเป็นที่ 1 โดย Phishing นั้นยังคงเป็นช่องทางการเข้ามาโจมตี (Initial Attack Vector) อันดับ 1 ในระดับที่ 9 ใน 10 ของการโจมตีที่สำเร็จนั้นเริ่มต้นจากการ Phishing ก่อน

แม้ว่า AI จะมีคุณประโยชน์ช่วยเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ในการทำงานในภาคธุรกิจได้ แต่อีกมุมหนึ่งก็ได้สร้างความท้าทายให้กับวงการ Cybersecurity เพราะเครื่องมือโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและซับซ้อนมากกว่าที่ผ่านมาอีกด้วย

โดย AI ได้ทำให้เกิด Attack Surface แบบใหม่ ๆ มากมาย อาทิ

  • การทำ Phishing หรือ Social Engineering โดยใช้ AI ที่ทำให้คนติดกับดักได้ง่ายและมากขึ้นกว่าเดิม
  • การสร้าง Deep Fake ที่แนบเนียน ทำให้ผู้คนหลงเชื่อในเรื่องที่เป็นเท็จ
  • การปลอมเสียงผู้ใช้ ที่สามารถนำไปแอบอ้าง ยืนยันตัวตน หรือหลอกลวงในอีกหลากหลายรูปแบบ
  • การจัดการกับ Botnet ที่สามารถทำได้อย่างซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

คุณศิวัชญ์ ได้ชี้ให้เห็นข้อมูลจาก Cloudflare Radar โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์พุ่งเป้ามาที่ประเทศไทยอยู่ไม่น้อย โดยต้นทางนั้นมีจากทั้งต่างประเทศในอีกฟากทวีป ประเทศรอบข้าง และจากในประเทศไทยเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าองค์กรไทยต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของระบบอย่างเต็มที่ และควรปรับใช้โซลูชัน Cybersecurity ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้สามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐานและข้อมูลขององค์กรได้อย่างยืดหยุ่น รวมทั้งการพิจารณาปรับใช้โซลูชัน Cloudflare AI เพื่อให้การบริการผลิตภัณฑ์ AI มีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น

Cloudflare AI เป็นโซลูชันที่สนับสนุนการ Build และ Deploy แอปพลิเคชัน AI บนเครือข่าย Cloudflare ที่มีอยู่ทั่วโลกกว่า 330 เมือง และมีมากกว่า 190 แห่งที่มี GPU พร้อมสนับสนุนการประมวลผลผ่าน Workers AI แล้ว ณ วันนี้จากทุกมุมโลก

Cloudflare AI จะช่วยสนับสนุนให้องค์กรการพัฒนาและให้บริการ AI ได้แบบ End-To-End ตั้งแต่ 

  • การ Train โมเดล AI โดยสามารถจัดเก็บข้อมูลบนพื้นที่จัดเก็บ R2 ที่สามารถย้ายระหว่าง Cloud ได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในค่า Egress
  • การ Inference หรือการสร้างผลลัพธ์จากโมเดล AI โดยดำเนินการผ่าน Workers AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Serverless รวมทั้ง Vectorize Index ที่พร้อมสนับสนุนงานด้านการสืบค้น
  • มั่นคงปลอดภัยผ่านแนวทาง Zero Trust ด้วยบริการต่าง ๆ จาก Cloudflare เช่น SWE, ZTNA, SASE หรือ Application Security เป็นต้น
  • ปรับปรุงและควบคุม ผ่าน AI Gateway ที่ทำหน้าที่เป็น Proxy ทำเรื่อง Caching หรือ Rate Limit รวมทั้งติดตามสังเกตุแอปพลิเคชัน AI ว่ามีรูปแบบการใช้งานที่ผิดปกติหรือว่าไม่เหมาะสม

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณศิวัชญ์ ตันติกุล Senior Solutions Engineer แห่ง Cloudflare (Thailand) ได้มาบอกเล่าในเซสชัน สามารถดาวน์โหลดรายงาน “State of Application Security in 2024” จากทาง Cloudflare เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย หรือรับชมวิดีโอย้อนหลังเซสชัน “เปิดศักราชใหม่ 2025 – พลิกโฉม Infrastructure ให้มั่นคงปลอดภัยและพร้อมรับมือกับภัยไซเบอร์ด้วย AI-Powered Connectivity Cloud” ในงาน TTT Virtual Summit: Enterprise Tech & AI Trends 2025 ได้ที่นี่

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Digitech One ร่วมกับ Ruckus ลงนามสัญญาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายไร้สายเทคโนโลยี AI ยกระดับสู่สากล

บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด และ RUCKUS ได้ร่วมลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor Agreement) อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดจำหน่ายระบบเครือข่ายไร้สายที่ขับเคลื่อนด้วยโซลูชัน AI อัจฉริยะอย่างเป็นทางการโดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายให้กับภาคธุรกิจไทย พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดย บริษัท …

Ubuntu 25.04 “Plucky Puffin” พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Canonical ได้ปล่อย Ubuntu 25.04 “Plucky Puffin” เวอร์ชัน Stable ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ที่มาพร้อมกับ Linux 6.14 Kernel, GNOME …