ที่ผ่านมาเครื่องมือเพิ่มผลิตภาพ หรือที่เราเรียกกันว่า Productivity tools ได้รับความนิยมอย่างมากบริษัทระดับโลกทั่วไปมักใช้เครื่องมือหลายตัวเช่น Slack, Google Drive, Microsoft 365, หรือ Dropbox เพื่อดำเนินการของพวกเขา
อย่างไรก็ตามการการใช้แอปพลิเคชันหลายตัวอย่างนี้ทำให้พนักงานต้องทำการสลับระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ไฟล์กระจายไปทั่วและเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล เราจะมาสำรวจความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของเครื่องมือ SaaS และแนะนำกลยุทธ์ป้องกันสำหรับองค์กรต่างๆ
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ SaaS Productivity Tools
ข้อมูลความลับขององค์กรจำนวนมากถูกเปิดเผยโดยไม่คาดหมายผ่านแนวทางปฏิบัติ SaaS ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การขาด MFA หรือแชร์ลิงก์จาก Productivity tools ที่ไม่ได้อยู่ในระบบความปลอดภัย
รายงานจาก Varonis แสดงให้เห็นว่า 81% ขององค์กรในปี 2022 ประสบปัญหาข้อมูล SaaS รั่วไหล โดยที่ 6% ของข้อมูลบนคลาวด์ถูกเปิดเผยสู่อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ส่งผลให้ข้อมูลขององค์กรจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยง ส่งผลให้องค์กรต้องสูญเสียความเสียหายสูงสุดถึง 28 ล้านดอลลาร์
เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ปัญหาด้านความปลอดภัยทั่วไปเกี่ยวกับเครื่องมือ collaboration มีดังต่อไปนี้
การป้องกันข้อมูลความลับที่ไม่เพียงพอ
หลายองค์กรอาจขาดความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ใน SaaS productivity tools และอาจไม่รู้ว่าผู้อื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ช่องว่างความรู้นี้อาจนำไปสู่การละเมิดความปลอดภัยและข้อมูลรั่วไหลได้
การจัดการด้านไอทีของ SaaS ที่กระจัดกระจาย
แผนกต่างๆใช้ SaaS ที่แตกต่างกันโดยไม่แจ้งแผนกไอที ซึ้งส่งผลให้แอปพลิเคชันบุคคลที่สามไม่ได้อยู่ในระบบ Security ของบริษัท ความเสี่ยงของการที่ข้อมูลรั่วไหลจึงเพิ่มขึ้นตอนบริษัทใช้งานแอปพลิเคชันมากขึ้นเพื่อจัดการข้อมูลความลับ รวมกับแอปพลิเคชันสำคัญของธุรกิจ
การกำหนดค่าบนคลาวด์ไม่ถูกต้องและการควบคุมการอนุญาตแบบกระจัดกระจาย
ผู้ให้บริการ SaaS อัปเดตแอปพลิเคชันของตนเป็นประจำ การเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งนี้ทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีพบว่ามันเป็นฝันร้ายที่ต้องรักษาการตั้งค่าการกำหนดค่าต่างๆนับพันรายการ การกำหนดค่าที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหล รายงานของ Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 การละเมิดระบบคลาวด์ 99% จะเกิดจากข้อผิดพลาดของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงข้อผิดพลาดในการกำหนดค่าด้วย องค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น องค์กรในอุตสาหกรรมการเงิน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา เลือกใช้ Productivity tools แบบ On-Premise สำหรับการทำงานเพราะคำนึงถึง Privacy และต้นทุนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ประโยชน์หลักๆ ของการใช้ Productivity tools ในการทำงานมีดังนี้
การทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อมคลาวด์ส่วนตัว
Productivity tools เพิ่มประสิทธิภาพงานทั้งหมดบนคลาวด์ส่วนตัว เพื่อให้ทีมสามารถทำงานได้ตามปกติในขณะที่เพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเต็มรูปแบบจาก local network ขององค์กร
การจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์
Productivity tools แบบ on-premise มีแผงการจัดการแบบรวมศูนย์ซึ่งผู้ดูแลระบบสามารถดูแลกิจกรรมของผู้ใช้ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถกำหนดค่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม Productivity tools เช่น Synology Office Suite นำเสนอเครื่องมือทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเดียวกัน ดังนั้นผู้ดูแลระบบไอทีจึงไม่ต้องกังวลกับ SaaS ที่ไม่มีบัญชีและไม่มีการตั้งค่าความปลอดภัยที่ถูกต้อง
ป้องกันการขึ้นราคาโดยไม่คาดคิดจากการเปลี่ยนแปลงแผนการสมัครสมาชิก
ผู้ให้บริการคลาวด์อาจประกาศการขึ้นราคาของแผนการสมัครสมาชิก SaaS ของตนอย่างกะทันหัน ส่งผลให้องค์กรต่างๆ เผชิญกับงบประมาณที่มากขึ้นอย่างไม่คาดคิดด้วยโซลูชัน On-Premise คุณจะได้รับ Productivity tools เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่จำเป็นทั้งหมดในการจ่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งช่วยลดต้นทุนการสมัคร SaaS ได้อย่างมากเลยทีเดียว
เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ Productivity Webinar เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
เรียนรู้เกี่ยวกับ Synology Office Suite