เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเป็นคอเกมกันอยู่แล้ว ซึ่งในวันนี้ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสรีวิวโน๊ตบุ๊คจากค่าย Lenovo ในซีรีย์ Legion 5i Pro ที่ออกแบบมาสำหรับคอเกมอย่างแท้จริง อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพไล่เรียงมาตั้งแต่ CPU Intel i9-12900H, DDR5 RAM 32 GB, NVidia GeForce RTX 3070 Ti 8 GB และ PCIe SSD 1 TB คอมโบมากับ Windows 11 นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการเครื่องอย่างสมบูรณ์แบบผ่าน Lenovo Vantage เราจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งตัวนี้กันแบบเต็มๆ พร้อมทดสอบการใช้งานจริงกันครับ

เรียบหรู ทนทาน เบากระชับ และ AI อัจฉริยะ
ต้องบอกเลยว่าเมื่อเห็นครั้งแรกการดีไซน์ของ Lenovo ยังรักษาความเรียบง่าย งานประกอบดีเหมือนเคย วัสดุสังเคราะห์ประกอบจากอะลูมิเนียมและแมกนิเซียมตอบโจทย์ความทนทาน สำหรับหรับสีที่ทางทีมงานได้รับมาทดสอบคือเฉดสี Storm Grey ฝาพับเปิดได้สุดในมุมป้าน และจอกว้างถึง 16 นิ้วความละเอียดระดับ 2k อัตราการรีเฟรชได้ถึง 240 Hz ทำให้มุมมองภาพต่างดูสมจริงเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่สเป็คสูง แต่กลับมีน้ำหนักเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น (ยังไม่รวมที่ชาร์จ)
เรื่องระบบความร้อนของเครื่องเล่นเกมป็นหัวใจสำคัญอย่างแท้จริง เพราะหากเครื่องออกแบบมาไม่ดีพออุณหภูมิที่สูงมากจะทำให้หน่วยประมวลผลไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะในปัจจุบันโน๊ตบุ๊คสเป็คสูงส่วนใหญ่มักมีระบบ AI ที่คอยมอนิเตอร์การทำงาน หากอุณหภูมิสูงขึ้นระบบก็จะลดการจ่ายไฟเพื่อรักษาไม่ให้อุปกรณ์เกิดการผิดพลาดและป้องกันการสูญเสีย เช่นกันใน Lenovo Legion
ด้วยเหตุนี้จะสังเกตเห็นช่องระบายความร้อนรอบเครื่องถึง 4 จุด (ซ้าย 1 ขวา 1 หลัง 2) ด้านหลังของเครื่องยังมีฝาปิดที่มีช่องระบายความร้อนแผงใหญ่เพื่อให้พัดลมได้ระบายอากาศอย่างสะดวก นอกจากที่ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าช่องระบายด้านหลังถูกออกแบบมาให้ยื่นออกมาจากตัวเครื่องอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เครื่องเสียงดังแต่อย่างได้ จากการทดสอบแม้ว่าจะเปิดเล่นเกมไปหลายชั่วโมงเราก็ยังไม่ได้ยินเสียงดังจากตัวเครื่อง
สำหรับคุณลักษณะเด่นอื่นๆที่ Lenovo Legion 5i Pro คัดสรรมาสู่มือผู้ใช้งานมีดังนี้
- TrueStrike Keyboard รองรับการกดปุ่มอย่างละมุนปลายนิ้วสัมผัส มีปุ่มตัวเลขมาให้ ปุ่มลูกศรขนาดใหญ่ ซึ่งที่เราเห็นคือปุ่มถูกออกแบบมาให้วางนิ้วลงไปได้อย่างดี ทำให้การอารมณ์ของเกมอร์ไม่มีสะดุด และมีการยกเล็กน้อยเป็นช่องระบายความร้อนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นเรื่องสีไฟที่แบ่งเป็น 4 โซนปรับเฉดของสีและลูกเล่นการกระพริบได้อย่างละเมียดละไม โดยเฉพาะที่แสงน้อยสีไฟจะทำหน้าที่แสดงความงามของมันได้อย่างโดดเด่น
- Rapid Charge เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่มีสเป็คสูงมักเจอกับปัญหาด้านพลังงานเพราะใช้งานหนัก แต่ด้วยฟีเจอร์นี้การชาร์จในเวลา 30 นาทีก็สามารถเติมไฟเข้ามาได้ถึง 80%
- ระบายความร้อนอย่างมั่นใจด้วยเทคโนโลยี Coldfront 4.0 ใน Lenovo Legion 5i Pro ซึ่งเป็นระบบรักษาอุณหภูมิสมัยใหม่ที่เรียกว่า Vapor Chamber ทำให้มีการกระจายความร้อนได้อย่างหมุนเวียน นอกจากนี้ความบางของใบพัดยังช่วยลดทอนการปะทะให้เสียงของเครื่องเงียบขึ้น อีกทั้งยังมีฉนวนกันเสียงร่วมด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่ได้เอะใจกับเสียงรบกวนแม้จะใช้เครื่องไปหลายชั่วโมง

- MUX Switch เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยสลับการทำงานของ ระหว่างส่วนประมวลผลทางกราฟฟิคที่มีติดมาให้ในเครื่องกับกราฟฟิคการ์ดภายนอกจาก NVidia ซึ่งแม้จะได้ประสิทธิภาพขั้นสุดแต่ในบางสถานการณ์เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้แรงเครื่องมากและประหยัดไฟกว่าด้วย
- Legion AI เป็นกลไกที่จะช่วยตรวจจับ ปรับแต่ง คุณภาพของเกมอย่างอัตโนมัติ ด้วยการควบคุมอัตราการจ่ายไฟให้หน่วยประมวลผลซีพียูและ GPU โดย AI นี้สามารถทราบถึงเกมประเภท AAA หรือเกมที่ผู้ผลิตมีขนาดกลางหรือใหญ่ ซึ่งเกมเหล่านี้มักได้รับความนิยมและมีความร่วมมือระหว่าง Vendor ต่างๆ
- NVidia RTX มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า RT-Core แยกต่างหากสำหรับการประมวลเรื่อง Ray Tracing หรือการจำลองแสงและเงาของ 3D Object เพื่อให้เกิดความสมจริงในการแสดงผล นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Deep Learning Super Sampling (DLSS) ที่ทำให้การ Render ภาพกราฟฟิคมีคุณภาพดีสมจริงยิ่งขึ้นไปเพิ่มประสิทธิภาพของ Frame Rate เนื่องจากชิป Tensor Core AI ในการ์ดจอ
ข้อมูลฮาร์ดแวร์
Lenovo Legion 5i Pro มาพร้อมกับซีพียูจากค่าย Intel ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด Gen 12 ผสานพลังด้านกราฟฟิคขั้นเทพจาก NVidia GeForce RTX 3070 Ti และแรม DDR 5 ขนาดสูงสุด 32 GB พร้อมความจุแบบ SSD PCIe (4th) ขนาด 1 TB ฝั่งของหน้าจอก็ไม่แพ้กันเพราะมีขนาดถึง 16 นิ้วแสดงผลด้วยคุณภาพระดับ WQHD+ ที่ 2560 x 1600 พิกเซลหรือ IPS 16:10 รองรับสีสัน sRGB 100%
การเชื่อมต่อทางเครือข่ายถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการใช้งาน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มาตรฐาน WiFi 6 ได้เปิดตัวออกมาแล้ว แม้ว่าในประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้มีการใช้งานที่แพร่หลายนักแต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์ระดับสากล Lenovo จึงได้ทำให้เครื่องสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง WiFi 5, 6 และ 6E รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.1



สำหรับพอร์ตของเครื่องฝั่งขวามาพร้อมกับหัวต่อที่รองรับ USB Type-A 3.2 และหัวต่อแจ็คเสียง นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับเปิดปิดกล้องให้ใช้ได้ง่ายป้องกันเรื่องของความเป็นส่วนตัวระดับกายภาพ เครื่องฝั่งซ้ายมาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 4 และพอร์ต USB Type-C ด้านหลังมาพร้อมกับ USB Type-A 2 พอร์ต Type-C 1 พอร์ต HDMI, RJ-45 และ DC-In
สเป็คทั้งหมด
Performance
โปรเซสเซอร์
12th Generation Intel CoreTM i9-12900H 3.80 GHz
กราฟฟิคการ์ด
NVIDIA GeForce RTXTM 3070Ti 8GB GDDR6
แรม
4200 MHz DDR5 : 32 GB (2×16 GB)
ฮาร์ดดิสก์
PCIe M.2 SSD (Gen4) 1 TB
แบตเตอรี
80 WHr > 5 Hours, Super Rapid Charge (30 mins charge 80%)
อะเด็ปเตอร์ชาร์จไฟ
230 W Slim Adapter
Design
หน้าจอ
16 นิ้ว IPS ความละเอียด 2K 2560×1600, Refresh rate 165Hz, Response time 3ms, 100% sRGB
ขนาดเครื่อง
26.6mm x 359.9mm x 264.4mm
น้ำหนัก
2.49 Kg
สีไฟคีย์บอร์ด
1.5 mm / Keycap Color / Storm Grey or White (Glacier White) / White Backlight (Storm Grey) / Blue Backlight (Glacier White) / 4-Zone RGB / 0.3 Ditch / 100% Anti-Ghosting / Swappable Keycap
สีตัวเครื่อง
Storm Grey หรือ Glacier White
Connectivity
Webcam
Built-in HD Webcam (720p) with E-Shutter
WLAN
2×2 Intel WiFi 6E (802.11ax) / 6 (802.11ax) / 5 (802.11ac)
Bluetooth
Bluetooth 5.1 or Upper
Audio
2x2W Stereo Speakers with Nahimic Audio
I/O (Input/Output) Ports
Left Side
- 1 x ThuderboltTM 4 (USB 4, DisplayPortTM 1.4)
- 1 x USB Type-CTM (USB 3.2 Gen 2, DisplayPortTM 1.4)
Right Side
- 1 x USB Type-A 3.2 Gen1
- 1 x Audio Combo Jack
- 1 x E-Shutter Button
Rear
- 1 x USB Type-A (3.2 Gen 1 Always-On 5V)
- 1 x USB Type (3.2 Gen 1)
- 1 x USB Type-CTM (3.2 Gen 2, DisplayPortTM 1.4, PD up to 135w)
- 1 x HDMITM 2.1
- 1 x RJ45 Ethernet
- 1 x DC-In
การรับประกันต้องบอกเลยว่าคุ้มจุใจมากสำหรับ Legion 5i Pro เพราะมาพร้อมกับประกันถึง 4 ปีเต็ม ซึ่ง 2 ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุอีกด้วย ให้ใช้กันได้ยาวๆอย่างคุ้มค่าทีเลยเดียว นอกจากนี้ยังมีการดูแลระดับพรีเมียมจากทีมงาน Lenovo โดยมีศูนย์ให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาต่อเกมโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าพรีเมี่ยมสุดๆไปเลย
วีดีโอพาชมเครื่องจริง
เอาใจคอเกมขั้นสุดด้วยซอฟต์แวร์ปรับแต่งเครื่องโดยเฉพาะผ่าน Lenovo Vantage และ NVidia Experiences

Lenovo Vantage เป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครื่องอย่างครบวงจรตั้งแต่การดูสถานะของ CPU, GPU, VRAM และ SSD ซึ่งในมุม Info จะพาผู้ใช้งานไปยังข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น ทั้งข้อมูลของฮาร์ดแวร์และสถานะการทำงานของซอฟต์แวร์นั่นเอง
ในส่วนของ System Tool ประกอบด้วย
- System Update – แสดงผลข้อมูลการอัปเดตของแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการ โดยท่านสามารถเปิดอัปเดตอัตโนมัติตามปัญหาที่ร้ายแรงหรือตามคำแนะนำได้จากเมนูนี้
- Macro Key – เมนูนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคอเกมที่ต้องการปุ่มลัดใช้สกิลอย่างว่องไว หรือการใช้งานผ่านคีย์ลัดที่ใช้บ่อย
- Power – แสดงผลและปรับแต่งการทำงานของแบตเตอรี่เครื่องว่ามีไฟมากแค่ไหน อุณหภูมิ ช่วงระยะเวลารับประกัน การจ่ายไฟและการทำงานของเครื่องที่อาจปรับให้ประหยัดพลังงานได้ และพระเอกของเมนูนี้ก็คือ Rapid Charging ที่ชาร์จแบบได้สูงสุดถึง 80% เพียงครึ่งชั่วโมง
- Media – การแสดงผลของกล้อง ไมค์โครโฟน คีย์บอร์ดและเม้าส์ ปรับแต่งได้จากเมนูนี้
- Hardware Scan – ท่านใดที่ต้องการทราบข้อมูลของฮาร์ดแวร์ทุกชิ้นส่วนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ที่นี่
- Nahimic – ระบบเสียงที่สามารถปรับจูนให้เข้าได้กับการใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะกับคอเกมที่ถือได้ว่าเสียงคือหัวใจแห่งความเร้าใจ โดย Nahimic ก็คือส่วนหนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญด้านเกมอย่าง SteelSeries นั่นเอง
- X-Rite Color Assistant – เป็นตัวช่วยสำหรับปรับแต่งค่าการแสดงผลของสี
Legion Edge เป็นอีกหนึ่งเมนูของผู้เล่นเกมอย่างแท้จริง สำหรับปรับจูนประสิทธิภาพที่จำเป็นในหลายภาคส่วนทั้งการทำ GPU Overclock หรือการปรับความสำคัญของทราฟฟิคเครือข่ายตามความสำคัญสร้างการเล่นเกมให้มีความลื่นมากยิ่งขึ้น และพลาดไม่ได้กับเมนู GPU Working Mode ที่เป็นการหาจุดสมดุลย์ระหว่างการใช้งานส่วนประมวลผลกราฟฟิคของเครื่อง (i: Integrated) และการ์ดจอแยก (d : dedicated) โดยท่านจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้ทำงานร่วมกันหรือจะให้ใช้ความสามารถเฉพาะจากการ์ดจอเป็นหลักสำหรับงานที่ต้องการความแรงสูงสุด
สำหรับผู้ใช้งานที่ชอบสีสันท่านสามารถปรับไฟของคีย์บอร์ดได้หลายเฉดอย่างอิสระในรูปแบบต่างๆและบันทึกเป็นโปรไฟล์สูงสุดถึง 3 แบบ นอกจากนี้ยังมีเมนูของ WiFi Security และ Smart Performance ซึ่งส่วนหลังว่าด้วยเรื่องของการจูนประสิทธิภาพระบบในส่วนของปัญหาภายใน รวมถึงการทำงานของอินเทอร์เน็ต และการป้องกันมัลแวร์

สำหรับผู้ใช้งาน NVidia Graphic Card ท่านจะได้รับคุณค่าที่เหนือชั้นกว่าการเล่นเกมทั่วไปผ่าน NVidia Experience ซึ่งนอกจากจะแสดงผลคร่าวๆของระบบแล้ว ยังโดดเด่นเป็นพิเศษด้วย AI ภายในสามารถทราบถึงการเล่นเกมต่างๆ ที่ AI จะช่วยปรับให้ภาพดียิ่งขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถมอนิเตอร์การทำงานของฮาร์ดแวร์แบบ Overlay ได้อีกด้วย ที่เห็นกันในการทดสอบเกมต่างๆ อย่างค่า Frame rate per Second (FPS), โหลดของ GPU และ CPU, RAM และอื่นๆ ทั้งนี้เหล่าสตรีมเมอร์ทั้งหลายยังสามารถใช้ NVidia Experience นี้เพื่อสตรีมเกมออกไปได้ รวมถึงบันทึกภาพหน้าจอหรือบันทึกรีเพลย์วีดีโอได้จากโปรแกรมนี้ โดยการทดสอบเล่นเกมของทีมงานก็มาจากโปรแกรมนี้นั่นเองครับ
วีดีโอพาชม Lenovo Vantage และ Geforce Experience
Benchmark ด้วยเครื่องมือ PC Mark10 และ 3D Mark
เพื่อให้ความชัดเจนมากขึ้นในด้านความแรงของเครื่อง เราจึงทำการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือยอดนิยมกัน สำหรับในด้านการทำงานในชีวิตประจำวันเราจะทดสอบด้วยโปรแกรม PC Mark 10 ด้านการใช้งานทั่วๆไปเช่น ความเร็วในการเปิดโปรแกรม โปรแกรมประชุมออนไลน์ การใช้งาน Spreadsheet ทำงานต่างๆ และการใช้บราวน์เซอร์เพื่อค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงทดสอบโปรแกรมด้านมัลติมิเดียทั่วไป

คะแนนวัดผลในมุมต่างๆทาง PC Mark เองแนะนำคอมสำหรับการใช้งานทั่วๆไป โดยภาพรวมแนะนำคะแนนที่ไม่น้อยกว่า 4,100 การปฏิบัติงานสำหรับคอนเท้นต์ดิจิทัลที่ 3,450 และ Productivity (Spreadsheet และ Writing) ที่ 4,500 ทั้งหมดนี้ ซึ่ง Lenovo Legion 5 Pro ที่เราทดสอบนี้ได้คะแนนไปที่ 6,954 , 8,298 และ 9,259 ตามลำดับ โดยใน 2 มุมหลังมากกว่าเกณฑ์แนะนำถึง 2 เท่า อย่างไรก็ดีเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับฐานผู้ใช้ที่นำ PC Mark 10 ไปใช้พบว่าคะแนนของเราอยู่เกินเกณฑ์ไป 55% ซึ่งเหนือกว่าแล็ปท็อปสำหรับเกมทั่วไปมากกว่า 1,000 คะแนน สาเหตุที่คะแนนอาจจะไม่สูงที่สุดเพราะเหนือไปกว่านั่นจะเป็นเรื่องของเครื่องพีซีขนาดใหญ่กว่าแล้ว แต่สำหรับโน๊ตบุ๊คพกพาเพื่อเล่นเกมถือว่าเหลือๆ
ในด้านกราฟฟิคจะเป็นการมุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพการทำงานด้านเกมอย่างแท้จริงโดยคะแนนของ 3D Mark จะชี้แนะเราได้ว่าการเล่นเกมของเราทรงพลังได้ขนาดไหน สำหรับการทดสอบฟีเจอร์ด้านกราฟฟิคโดยเฉพาะก็เป็นที่น่าพอใจทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี Ray Tracing, DLSS ที่ได้อธิบายไปในข้างต้น รวมถึง Mesh Shader ที่เป็นความสามารถใน DirectX 12 มีคะแนนบ่งชี้ดังนี้

ผลการทดสอบกับ DirectX 12 แบบ 4K ใน TimeSpy และ DirectX 11 4K ใน Fire Strike


สำหรับค่าเฉลี่ยในมุมของ DirectX 12 ทำได้อย่างดีใกล้กับค่าเฉลี่ยและห่างกับคะแนนสูงสุดไม่ถึง 1000 คะแนน แต่ตัวเลขนี้ไม่สามารถชี้ขาดได้เพราะอาจมาจากผู้แข่งขันประเภทอื่น(เครื่องพีซี) หรือเฉพาะกลุ่มที่ซื้อ License ของผลิตภัณฑ์ 3D Mark เท่านั้น เช่นกันกับใน DirectX 11 ที่ยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยและห่างจากอันดับหนึ่งเกือบสองพันคะแนน อย่างไรก็ดีหากเปรียบเทียบในเชิงของความสามารถที่รองรับเกมจริงน่าจะเห็นภาพได้มากกว่า โดยจากที่เราเลือกดูพบว่าท่านสามารถปรับกราฟฟิคระดับ Ultra ในเกม Battlefield V, Red Dead Redemtion 2, Apex Legends, GTA V และ Fortnite ให้ท่านได้อรรถรสของการแสดงผลขั้นสุด
ทดสอบเล่นเกมจริง
สรุป
Lenovo Legion 5i Pro 16 นิ้วถูกออกแบบมาสำหรับสายเกมตัวจริงหรือทำงานด้านกราฟฟิคได้จบในตัว ซึ่งได้รวบรวมที่สุดของฮาร์ดแวร์มาให้อย่างไม่น้อยหน้า ไม่เพียงเท่านั้นภายในยังมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ช่วยให้เครื่องทำงานสเถียร ใต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ AI ได้ถูกนำเข้ามาใช้ปรับจูนการทำงานในหลายระบบ ทั้งเรื่องของพลังงาน ประสิทธิภาพ และกราฟฟิค ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานผ่าน Windows 11
ในการทดสอบกับ Benchmark ต่างๆจะเห็นได้ว่า Lenovo Legion 5i Pro รุ่นนี้ไม่สะทกสะท้านกับกราฟฟิคต่างๆ สำหรับคอเกมเชื่อว่ามีหลายเกมเลยที่สามารถปรับสุดได้ หรือใครที่ทำงานด้านกราฟฟิควีดีโอ ที่ต้องมีการโยกย้ายสถานที่และมองหาความคล่องตัวมากกว่าเครื่องขนาดใหญ่ โน๊คบุ๊คหน้าจอขนาด 16 นิ้ว น้ำหนักเพียง 2.49 กิโลกรัม ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย อีกทั้ง Lenovo ยังขึ้นชื่อเรื่องความทนทานของตัวเครื่องอยู่แล้ว ซึ่งพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 4 ปี ทั้งหมดนี้สนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 89,xxx บาท หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mercular.com/lenovo-legion-5-pro-16iah7h-82rf00f1ta-gaming-notebook