NVIDIA ประกาศเข้าซื้อกิจการ Mellanox มูลค่า 220,800 ล้านบาท เสริมทัพตลาด High Performance Computing

NVIDIA ได้ออกมาประกาศถึงการตกลงเข้าซื้อกิจการของ Mellanox แล้วอย่างเป็นทางการที่มูลค่า 6,900 ล้านเหรียญหรือราวๆ 220,800 ล้านบาท เพื่อเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับตอบโจทย์ให้กับตลาด High Performance Computing ร่วมกัน

Credit: NVIDIA

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของ NVIDIA และ Mellanox เองได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Supercomputer ใน TOP500 ด้วยกันมากถึง 250 ระบบ อีกทั้งเหล่าผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ และผู้ผลิต Server ชั้นนำเองต่างก็ใช้เทคโนโลยีของทั้งคู่ด้วย

สำหรับเทคโนโลยีเด่นของ Mellanox นั้นก็คือการเป็นผู้นำในตลาด InfiniBand และระบบ Ethernet ความเร็วสูง สำหรับเชื่อมโยงระบบประมวลผลนับพันนับหมื่นชุดเข้าด้วยกัน ตอบโจทย์การประมวลผลประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดองค์กรและ Cloud ในยุคที่ AI และ Data Science นั้นกำลังได้รับความสำคัญเป็นอย่างดี

หลังจากการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ ทาง NVIDIA มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมให้กับทีมงานของ Mellanox ในอิสราเอล โดยนโยบายด้านการขายและการสนับสนุนของ Mellanox จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถือเป็นอีกดีลที่ผิดกับข่าวลือก่อนหน้าเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวของการเสนอเข้าซื้อกิจการของ Mellanox จากทั้ง Intel, Microsoft และ Xilinx มาก่อนแล้ว

ที่มา: https://nvidianews.nvidia.com/news/nvidia-to-acquire-mellanox-for-6-9-billion

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Meta เผยแผนเล็งใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพสำหรับดาต้าเซนเตอร์

เป็นที่รู้กันว่าการประมวลผลด้าน AI ต้องการพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง Meta เองเป็นหนึ่งในผู้เล่นด้าน AI ยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงต้องมองหาพลังงานทางเลือกที่ยังต้องสอดคล้องต่อเรื่องอัตราการปลดปล่อยคาร์บอน โดยล่าสุดแนวทางการใช้ความร้อนใต้พิภพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว

Fortinet ยอมรับถูกขโมยข้อมูลออกไปจริง

Fortinet ได้ออกมายืนยันข่าวที่มีกลุ่มแฮ็กเกอร์สามารถเข้าไปขโมยข้อมูลบน Azure Sharepoint ของตนได้ โดยยืนยันว่ามีผลกระทบกับลูกค้าเพียงแค่ไม่เกิน 0.3% เท่านั้น และยังไม่มีการเผยถึงเนื้อหาข้อมูลที่ถูกขโมยไป