แผนของ Meta ในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับงาน AI ต้องถูกพับไปเพราะเจอบั๊ก แต่ดันเป็นแมลงจริง ๆ โดยมีรายงานว่าซีอีโอ Mark Zuckerberg แจ้งต่อพนักงานในที่ประชุมรวมว่าสาเหตุหนึ่งคือการค้นพบผึ้งสายพันธุ์หายากในพื้นที่ที่วางแผนจะสร้าง สะท้อนถึงความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นระหว่างการใช้พลังงานที่สูงขึ้นของ AI และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ก่อนหน้านี้ Meta อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อจัดหาพลังงานสะอาดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลใหม่ที่เน้นงานด้าน AI นี้แต่ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและอุปสรรคทางระเบียบข้อบังคับทำให้ดีลนี้ต้องหยุดชะงักไป ทั้งนี้ สถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้า (EPRI) ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยด้านพลังงานสะอาดได้เปิดตัวโครงการ Power-In-Pollinators ในปี 2018 เพื่อสนับสนุนให้บริษัทพลังงานคำนึงถึงแมลงผสมเกสร เช่น ผึ้งและผีเสื้อ เนื่องจากแมลงผสมเกสรมีบทบาทสำคัญต่อการเกษตรและการผลิตอาหาร การทำลายพวกมันเพื่อสนับสนุนแชทบอตและเนื้อหาที่สร้างโดย AI บนโซเชียลมีเดียจึงอาจไม่เป็นที่พึงประสงค์นัก โดยจากบันทึกของ EPRI ในปัจจุบันมีอยู่ 295 พื้นที่ที่ดำเนินการโดยบริษัทพลังงาน 19 แห่งที่เข้าร่วมให้การสนับสนุนแมลงผสมเกสรดังกล่าว
ด้าน Amazon เองก็ประสบอุปสรรคในการจัดหาพลังงานนิวเคลียร์สำหรับศูนย์ข้อมูลเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ คณะกรรมการกำกับดูแลด้านพลังงานของรัฐบาลกลาง (FERC) ได้ออกคำสั่งปฏิเสธข้อตกลง Interconnection Service Agreement (ISA) ฉบับแก้ไขที่มีเป้าหมายเพื่อให้ศูนย์ข้อมูล Cumulus ซึ่งดำเนินการโดย Talen Energy ได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นิวเคลียร์ได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI ต้องการพลังงานมหาศาลและมุ่งสู่แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ คู่แข่งอย่าง Microsoft, Google และ Oracle ต่างก็สร้างความร่วมมือกับแหล่งพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ AI ของตนเองเช่นกัน โดย Microsoft เพิ่งลงนามในข้อตกลง 20 ปีกับ Three Mile Island และ Google ร่วมมือกับบริษัทเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก (SMR) ในขณะที่ Oracle ได้รับใบอนุญาตสำหรับสร้าง SMR ของตนเอง
ที่มา: https://www.theregister.com/2024/11/04/meta_ai_datacenter_bee/