IBM FlashSystem 5300 เป็นโซลูชัน All-flash รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีเฉพาะของ IBM มากมาย ทำให้ FlashSystem 5300 จึงมีความน่าสนใจไม่น้อย เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถเป็นฐานเก็บข้อมูลสำคัญสำหรับองค์กรได้
ในบทความนี้เราขอสรุป 6 เหตุผลที่ทำให้ IBM FlashSystem 5300 สามารถตอบโจทย์กับงานระดับองค์กร
1.) ประสิทธิภาพล้นเหลือ ในขนาดเพียง 1U
IBM FlashSystem 5300 ได้ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์หลายด้านอย่างสมดุลย์ ทั้งมีการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วด้วยแบนด์วิดท์สูงสุดในการอ่านที่ 28.6 GB/s พร้อมกับอัตราการตอบสนองการอ่านไม่ถึง 50 ไมโครวินาที นอกจากนี้ยังให้ Ethernet Port ที่ระดับ 10/25 GbE และจะรองรับการเชื่อมต่อ Fiber Channel 64 Gb/s ถึง 8 พอร์ต
หากพูดถึง Storage ไฮไลต์สำคัญนอกจากเรื่องความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแล้ว ความจุเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องถูกระบุมา โดย FlashSystem 5300 สามารถจุข้อมูลได้สูงสุดถึงระดับ 1.3 PB เลยทีเดียว ต้องขอบคุณความสามารถของการทำ Data Compression และ Deduplication ที่เข้มแข็งของ IBM ซึ่งอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญคือการรองรับไดร์ฟประเภท Flash Core Module ได้หลายขนาดที่ 4.8, 9.6, 19.2 และ 38.4 TB จำนวนสูงสุด 12 ไดร์ฟ ทั้งหมดนี้อยู่ในฮาร์ดแวร์ขนาดเพียงแค่ 1U เท่านั้น
ฮาร์ดแวร์ขนาด 1U ที่ทรงพลัง ยังส่งผลต่อการทำงานระดับองค์กรอีกหลายด้าน ทั้งเรื่องของการใช้พลังงานที่ตอบโจทย์อย่างยิ่งในด้านความยั่งยืน ตลอดจนพื้นที่เพื่อติดตั้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาดจัดได้ว่า FlashSystem 5300 มาพร้อมกับประสิทธิภาพในขนาดที่คล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง
2.) Flash Core Module 4
IBM FlashSystem สามารถรองรับแฟลชไดร์ฟได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น SCM (Storage-class Module), FCM (Flash Core Module), NVMe, SSD, ไปจนถึง SAS และ NL-SAS ได้ภายใน Enclosure เดียวกัน แต่สิ่งที่โดดเด่นสำหรับ FlashSystem 5300 ก็คือ FCM 4 ที่เป็นหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพที่กล่าวถึงไปแล้ว
Flash Core Module (FCM) ถึงเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร โดยมีชิป ASIC ที่ทำหน้าที่เฉพาะได้เช่น Deduplication, Compression และ เข้ารหัสข้อมูลได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย โดยใน FCM เวอร์ชัน 4 เพิ่งถูกเปิดตัวออกมาในปี 2024 นี้ ซึ่งอีกความสามารถหนึ่งก็คือการตรวจจับแรนซัมแวร์ที่จะกล่าวถึงต่อไป
3.) ตรวจจับ Ransomware ที่จุดกำเนิดข้อมูล
การปกป้อง Ransomware มีความท้าทายค่อนข้างมาก โดยทั่วไปแล้วการป้องกันจะเกิดขึ้นที่การเฝ้าระวังคำสั่งระดับเบื้องบนลงมา อย่างไรก็ดีความเร็วในการรับรู้เป็นหัวใจสำคัญในการรับมือ Ransomware เพราะยิ่งตอบสนองได้ไวเท่าไหร่ความเสียหายก็จะถูกจำกัดไปด้วย
โดยภายใน FCM 4 จะมีการเก็บข้อมูลสถิติทุกการเข้าออกเพื่อวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมของการปฏิบัติการหลายด้านทั้งเรื่องของ Signature ที่บ่งชี้ถึงภัยคุกคามและพฤติกรรมการทำงานที่ผิดจากปกติ หรือดูมีความอันตรายต่อระบบ โดยเมื่อประกอบกับอัลกอริทึม AI ใน Storage Virtualize และการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Storage Insights Pro องค์กรจะได้รับการแจ้งเตือนอย่างฉับไวและแม่นยำ
4.) รวมศูนย์การจัดการด้วย Storage Virtualization
แนวคิดของ IBM Storage Virtualization คือผสาน Storage ทั้งหมดในองค์กรสามารถใช้งานและบริหารจัดการร่วมกันได้เสมือนเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลระบบเดียวกัน และความสามารถต่างๆ ที่เทคโนโลยี Storage Virtualization สามารถทำได้นั้น ก็จะถูกนำไปใช้ได้บนทุกๆ Storage ด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างความสามารถที่ Storage Virtualize ทำได้มีดังนี้
- บูรณาการพื้นที่จัดเก็บของ Storage ทุกยี่ห้อในองค์กรเข้าเป็น Storage Pool ทำให้เกิดการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพจากศูนย์กลาง
- ทำการบีบอัดข้อมูลแบบเรียลไทม์ในแต่ละ Storage Pool ได้
- โอนถ่ายข้อมูลระหว่าง Flash Storage และ Disk Storage โดยไม่มีช่อง Downtime ทำให้เกิดการสำรองหรือ Migrate ข้อมูลได้โดยไม่กระทบต่อแอปพลิเคชันด้วย
- จัดทำ Tier ของ Storage ได้อย่างยืดหยุ่นระหว่าง Storage หลายชุดได้ เช่น Storage ที่มีประสิทธิภาพแตกต่างซึ่งต้นทุนต่างกัน
- รองรับการทำสำเนาข้อมูลข้ามสาขาและรวดเร็วด้วย FlashCopy
- ลดแบนด์วิดท์ในการทำ Data Replication
- รองรับการใช้ IBM HyperSwap เพื่อทำ DR ได้แบบ Real-time ข้าม Data Center
- ประหยัดพื้นที่ได้ด้วยการทำ Thin Provisioning และ Snapshot Replication
- Volume Protection ป้องกันการลบหรือ unmap volume ของระบบสำคัญที่ยังคงใช้งานอยู่
- Encryption เข้ารหัสข้อมูลแม้กระทั่งคนร้ายเข้าถึงเครื่องก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หากปราศจากการถอดรหัสที่ถูกต้อง
- Secure Data Deletion การันตีการลบข้อมูลโดยใช้กลไกด้าน cryptographic เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ถูกลบไปจะไม่ถูกกู้คืนกลับมาได้
5.) ป้องกันปัญหาการสูญเสียข้อมูลสำรองในทุกสถานการณ์ด้วย IBM SafeGuarded Copy
IBM SafeGuarded Copy เป็นแผนหนึ่งของ IBM Cyber Resiliency ที่ว่าด้วยเรื่องของการบรรเทาปัญหา กู้คืนระบบเมื่อกลไกการป้องกันไม่สามารถต้านไว้ได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งในโซลูชัน IBM Storage Virtualization เช่นกัน
IBM SafeGuarded Copy ได้มอบอีกส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูข้อมูลจากความเสียหาย โดยเฉพาะกับ Ransomware ซึ่งมีความสามารถด้าน Immutable Copy และ Air-gapped จะทำให้แม้คนร้ายจะเข้าถึงด้วยระดับสิทธิ์แอดมินก็ไม่สามารถแก้ไขหรือทำลายข้อมูลได้โดยง่าย หากยังไม่ถึงกำหนดอายุข้อมูลหรือต้องมีการอนุมัติเพิ่มเติมที่นอกเหนืออำนาจของคนร้าย
6.) IBM Storage Insights
IBM Storage Insights เป็นโซลูชัน Cloud ที่คอยมอนิเตอร์พฤติกรรมและการทำงานของระบบ Storage ในองค์กร เช่น สุขภาพการทำงาน สถานะต่างๆ และประสิทธิภาพ โดยภาพเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าใจการทำงานภาพรวมได้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วลดเวลาที่ต้องใช้ในการ Downtime ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในเวอร์ชัน Pro จะครอบคลุมไปถึงโซลูชันจากค่ายอื่นๆ รวมถึงระบบ File Storage, Block Storage และ Software-defined Storage ทั้งหมด ตลอดจนอุปกรณ์เครือข่ายและ VMware ด้วย
และนี่คือความสามารถของ IBM FlashSystem 5300 ที่ถูกวางตัวให้ตอบโจทย์การทำงานในองค์กรระดับกลางที่เน้นความคล่องตัวแต่ทรงพลัง แต่จากข้อมูลข้างต้นคงยืนยันได้ว่า IBM FlashSystem 5300 สามารถให้บริการงานส่วนใหญ่ขององค์กรได้อย่างมั่นใจ เช่น งานด้านฐานข้อมูล Container, Virtualization, SAP และอื่นๆ
สนใจโซลูชัน IBM FlashSystem 5300 ติดต่อบริษัท Ingram Micro Thailand ได้ที่ TH-IBM@ingrammicro.com