หัวเว่ย กำหนดนิยามใหม่ของความปลอดภัย เปิดตัว HiSec ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ และ HiSec SASE โซลูชันรักษาความปลอดภัยทรงพลัง [Guest Post]

ในงานหัวเว่ย คอนเนกต์ (HUAWEI CONNECT) ประจำปี 2566 หัวเว่ย ซีเคียวริตี้ (Huawei Security) ได้รวบรวมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค และผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับอาวุโสในอุตสาหกรรม มาร่วมสำรวจแนวทางใหม่ในการพัฒนาความปลอดภัยของเครือข่าย โดยในระหว่างการประชุมด้านความปลอดภัยนั้น คุณไมค์ หม่า (Mike Ma) ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย ได้เปิดตัว HiSec 3.0 สถาปัตยกรรมรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการบนคลาวด์-เครือข่าย-เอดจ์-เอนด์พอยต์ ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเข้าใจและแนวปฏิบัติใหม่ของหัวเว่ยในด้านความปลอดภัยของเครือข่าย พร้อมกันนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชันความปลอดภัย HiSec SASE ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมคลาวด์-เครือข่าย-เอดจ์-เอนด์พอยต์ ซึ่งกำหนดนิยามใหม่ของขอบเขตความปลอดภัยขององค์กร

HiSec 3.0 โซลูชันรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการบนคลาวด์-เครือข่าย-เอดจ์-เอนด์พอยต์ โฉมใหม่ ช่วยรักษาความปลอดภัยขององค์กร

คุณไมค์ หม่า กล่าวว่า การพัฒนาทางดิจิทัลกลายเป็นวาระสำคัญระดับชาติ และการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายคือรากฐานที่สำคัญของโลกดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยขององค์กร หัวเว่ยได้อัปเกรด HiSec 3.0 โซลูชันรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการบนคลาวด์-เครือข่าย-เอดจ์-เอนด์พอยต์ โดยในส่วนของคลาวด์ สามารถสมัครใช้บริการซอฟต์แวร์มากกว่า 10 รายการตามความต้องการบนแพลตฟอร์มคลาวด์เฉียนคุน (Qiankun) ของหัวเว่ย เพื่อรับบริการแบบเรียลไทม์และมั่นใจได้ในการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในส่วนของเครือข่าย ความสามารถด้านเครือข่ายและความปลอดภัยได้รับการผนวกรวมเข้าด้วยกัน ขณะที่การจัดการและการควบคุมก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อสร้างเครือข่ายที่เรียบง่าย ในส่วนของเอดจ์ ทรัพยากรความปลอดภัยแบบคอนเทนเนอร์และการจัดการห่วงโซ่บริการความปลอดภัยที่ยืดหยุ่น ทำให้สามารถใช้บริการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที และในส่วนของเอนด์พอยต์ การตรวจจับและตอบสนองปลายทาง (EDR) บนแพลตฟอร์มคลาวด์เฉียนคุนของหัวเว่ยนั้น มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และมีอัตราการตรวจจับภัยคุกคามระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเหล่านี้ โซลูชัน HiSec 3.0 จึงมอบการปกป้องที่ครอบคลุมและแข็งแกร่งสำหรับองค์กร

HiSec SASE โซลูชันรักษาความปลอดภัยที่กำหนดนิยามใหม่ของขอบเขตความปลอดภัยขององค์กร

เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่บริการต่าง ๆ ได้ถูกย้ายไปยังระบบคลาวด์ ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสรรพสิ่งและการมาบรรจบกันของคลาวด์และเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้านี้มาพร้อมกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญมากขึ้น

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ จึงมีการเปิดตัว HiSec SASE โซลูชันรักษาความปลอดภัยที่กำหนดนิยามใหม่ของขอบเขตความปลอดภัยขององค์กร โดยมีคุณสมบัติอัจฉริยะที่สำคัญ 4 ประการ หนึ่งคือ การดำเนินงานอัจฉริยะ โดยใช้การจัดการ การควบคุม และการตอบสนองแบบรวมศูนย์ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงถึง 50% สองคือ การควบคุมอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้สามารถโหลดฟีเจอร์ความปลอดภัยแบบคอนเทนเนอร์ได้ตามความต้องการและใช้ทรัพยากรได้มากกว่า 70% สามคือ การไม่สูญเสียข้อมูลอัจฉริยะ โดยใช้ Adaptive Forward Error Correction (A-FEC) เพื่อรองรับการเล่นวิดีโอที่ราบรื่น แม้ว่าจะสูญเสียแพ็กเก็ตถึง 30% ก็ตาม และสี่คือ การตอบสนองอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงการตรวจจับแบบไดนามิกอย่างต่อเนื่อง การสำรองข้อมูลแบบเรียลไทม์ การกู้คืนไฟล์ที่เข้ารหัส และการสูญเสียแพ็กเก็ตเป็นศูนย์

ในการประชุมโต๊ะกลมว่าด้วยความปลอดภัยของเครือข่ายทางการเงิน หัวเว่ยได้เชิญองค์กรการเงินชั้นนำทั่วโลกมาร่วมหารือเกี่ยวกับ SASE ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ โดยโซลูชันรักษาความปลอดภัยของหัวเว่ยอย่าง HiSec SASE เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับสำนักงานระยะไกล เครือข่ายหลายสาขา แลการปกป้องเอนด์พอยต์ โดยช่วยให้เข้าถึงบริการซอฟต์แวร์ คลาวด์สาธารณะ อินเทอร์เน็ต และสำนักงานใหญ่ขององค์กรด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น บริการสาธารณะ การเงิน และการผลิต เป็นต้น

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

AWS เปิดพร้อมใช้ FPGA EC2 รุ่นที่ 2

ในบางอุตสาหกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลด้วย FPGA จะช่วยให้ความยืดหยุ่นได้ตรงโจทย์มากกว่า ซึ่งล่าสุดทาง AWS ได้ปล่อย EC2 FPGA instance รุ่นที่สองหรือ F2 ออกมาให้บริการแล้ว

Google เปิดตัว Gemini 2.0 พร้อมตอบโจทย์ยุค Agentic Era

หลังจาก Google ได้เปิดตัว Gemini 1.0 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด Google ได้อัปเกรดเป็นโมเดลใหม่ที่ปล่อยออกมาเป็น Gemini 2.0 ที่ Google เคลมว่าเป็นโมเดล Generative …