Google Public NTP Service เตรียมรับมือกับ Leap Second ที่จะเกิดขึ้นช่วงสิ้นปีนี้แล้ว

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

ในวันที่ 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้ จะเกิด Leap Second ขึ้น นั่นหมายถึงเวลาของโลกจะเพิ่มขึ้น 1 วินาที และทาง Google Public NTP Service ได้เตรียมวิธีรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

Google Public NTP Service เป็นบริการที่ให้ Compute Engine และ Server ทุกเครื่องใน Google Cloud มาทำการซิงค์เวลา เพื่อให้ Server ทุกตัวได้เวลาในการทำงานที่ตรงกันอยู่เสมอ เบื้องหลังของ Google NTP Service นั้นมีการจ่ายเวลาผ่าน Google Load Balancer และใช้งานร่วมกับ Atomic Clock เพื่อให้ได้เวลาที่เดินเที่ยงตรงมากที่สุด และในวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 23:59:60 UTC จะเกิดเหตุการณ์ Leap Second ขึ้น นั่นหมายความว่าเวลาของโลกจะเพิ่มขึ้น 1 วินาที ซึ่งทาง Google ได้มีการเตรียมรับมือเหตุการณ์นี้เอาไว้แล้ว ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2008, 2012 และ 2015

Google จะใช้วิธีการปรับเวลาให้เดินช้าลง 0.0014% ซึ่งเรียกวิธีการนี้ว่า Leap Smear กระบวนการนี้จะกินเวลา 20 ชั่วโมง นับตั้งแต่ 10 ชั่วโมงก่อนจนถึง 10 ชั่วโมงหลังจากเกิด Leap Second โดยสาเหตุที่ Google ไม่ปรับเวลาเพิ่มเป็นวินาทีที่ 61 เพราะว่า บาง OS นั้นไม่รองรับ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมายในครั้งที่ผ่านมา

บริการทุกอย่างของ Google และ API ทั้งหมด มีการซิงค์เวลากับ Smearing Time Server ดังนั้นผู้ที่ใช้งาน Google Services อยู่ควรทำการซิงค์เวลา Compute Engine ของตนเองจาก Smearing Time Server และไม่ควรผสมกับระหว่าง Smearing และ Non-smearing Time Server

สำหรับผู้ที่ใช้งาน NTP Server ภายในองค์กรควรตรวจสอบว่า NTP Server ที่ใช้งานอยู่นั้นจะสามารถรับมือ Leap Second ด้วยวิธีการอย่างไร

ที่มา : https://cloudplatform.googleblog.com/2016/11/making-every-leap-second-count-with-our-new-public-NTP-servers.html


About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนมือใหม่ผู้หลงใหลใน Enterprise IT และซูชิ

Check Also

Kali Linux ออกอัปเดต 2023.2 มาพร้อมเครื่องมือใหม่ 13 ตัวและ pre-built Hyper-V image

Kali Linux ออกอัปเดต 2023.2 มาพร้อมเครื่องมือใหม่ 13 ตัวและ pre-built Hyper-V image

เปิดตัว Panduit TX6A Vari-Matrix HD สาย Cat 6A UTP ขนาดเล็กที่สุดในโลก รองรับ 1-10GbE และ PoE++ ป้องกันสัญญาณรบกวนได้เหนือกว่ามาตรฐาน

ในปี 2023 นี้ถือเป็นปีที่น่าสนใจสำหรับวงการสายสัญญาณเครือข่าย เพราะผู้ผลิตทุกรายต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็วของ Ethernet ที่เพิ่มขึ้น, การรองรับอุปกรณ์ IoT ให้ได้หลากหลายยิ่งขึ้น ไปจนถึงการตอบรับต่อประเด็นด้านความยั่งยืนหรือ Sustainability