Facebook แฟลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง ถูกปรับเป็นเงิน 500,000 ปอนด์ หรือราว 22 ล้านบาท หลังองค์กรเฝ้าดูแลทางด้านการปกป้องข้อมูลของสหราชอาณาจักรสรุปเหตุการณ์ Cambridge Analytica นั้น ละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของประเทศ นับว่าเป็นค่าปรับสูงสุดที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลปี 1998

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Facebook ตกเป็นจำเลยสังคมและเกิดความเคลือบแคลงเกี่ยวกับประเด็นด้านความเป็นส่วนบุคคล เมื่อการค้นพบว่า ข้อมูลผู้ใช้กว่า 87 ล้านคนถูกรวบรวมและนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมโดย Cambridge Analytica ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง ส่งผลให้นายโดนัลด์ ทรัปภ์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016
Facebook ให้การว่า Aleksandr Kogan อาจารย์จาก Cambridge University ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้อย่างถูกต้องผ่านทาง Quiz App แต่ละเมิดเงื่อนไขของ Facebook โดยการแชร์ข้อมูลที่ได้มาไปให้ Cambridge Analytica ซึ่งต่อมาได้ถูกว่าจ้างให้เข้าร่วมแคมเปญหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม Information Commissioner’s Office (ICO) ของสหราชอาณาจักร ได้ทำการสอบสวนกรณีเหตุ Cambridge Analytica เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ข้อสรุปว่า Facebook ล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ตกไปอยู่ในมือของ Cambridge Analytica รวมไปถึงขาดความโปร่งใสในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ซึ่งจัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลของประเทศ
นับว่าเป็นโชคดีของ Facebook ที่ขณะเกิดเหตุนั้น เป็นช่วงก่อนที่กฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนบุคคลฉบับใหม่หรือ GDPR จะถูกเริ่มใช้งาน มิเช่นนั้น Facebook อาจถูกปรับเป็นเงิน 20 ล้านยูโร (ประมาณ 778 ล้านบาท) หรือ 4% ของรายได้ต่อปีแทน อย่างไรก็ตาม Facebook ยังมีโอกาสยื่นอุทธรณ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ถึงแม้ว่า Facebook จะถูกปรับ 22 ล้านบาทจริง แต่ด้วยเงินจำนวนนี้ เทียบเท่ารายได้ของ Facebook ที่ใช้เวลาทำเพียง 8 นาทีเท่านั้น
ที่มา: https://thehackernews.com/2018/07/facebook-cambridge-analytica.html