เมื่อวันอังคารที่ 17 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมาทางทีมงาน TechTalkThai ได้รับเชิญไปดูบรรยากาศงาน AWS Hackdays ที่จัดขึ้นที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ซึ่งในงานนี้เรายังได้สัมภาษณ์ ดร. ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ถึงทัศนะและกลยุทธ์ในการรุกตลาดประเทศไทยอีกด้วย

เริ่มแรกในเนื้อหางาน Hackdays ทาง ดร. ชวพล เล่าว่าเป็นงานที่จัดขึ้นจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI/ML ของ AWS ใน 4 หัวข้อหลักคือ Fintech, Transportation, Media และ E-commerce โดยหัวข้อนั้นอ้างอิงมาจากผลวิจัยของ IDC ที่ว่าสาขาไหนเป็นส่วนที่เกิด Disruptive จากเทคโนโลยีสูง นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยอย่าง Thailand 4.0 อีกด้วย ส่วนตัวชี้วัดในการตัดสินผู้ชนะประกอบด้วย 4 ด้านคือ
-
innovation หัวข้อที่นำมาแข่งขันต้องเป็นนวัตกรรมใหม่มีความโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
-
Business Case โปรเจ็คที่นำมาสามารถตอบสนองความต้องการในธุรกิจจริงได้หรือไม่
-
Implementation และ Business Impact โปรเจ็คที่นำเสนอสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานจริงได้หรือไม่ และมีผลกระทบต่อธุรกิจแค่ไหนหากสามารถนำไปใช้งานจริงได้
-
User Experience การออกแบบหน้าตาการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทางทีมผู้แข่งขันต้องใส่ใจ
โดยผู้ชนะในงานคือทีม Sunday Morning นั่นเองและจะได้รับสิทธิ์ไปเข้าแข่งขันต่ออีก 1 ด่านที่ประเทศอินโดนีเซีย หากชนะก็จะได้เข้าร่วมงาน AWS ใหญ่ประจำปีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงของคำถามที่เราถามถึงกลยุทธ์การส่งเสริม Startup ประเทศไทยทาง ดร. ชวพล ได้เล่าว่า “AWS มีคอร์สเริ่มต้นพื้นฐานให้ทางนักพัฒนาอยู่แล้ว (Acceleration) นักพัฒนาสามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้และจะมีการสนับสนุน Credit เริ่มต้นให้ระดับหนึ่ง”

อีกคำถามหนึ่งคือระยะเวลาที่ AWS คาดหวังผลสัมฤทธิ์ของ Startup ที่เข้าร่วมกับ AWS ในส่วนของ AI/ML ณ ตอนนี้เราได้รับการบอกเล่าว่า “อันที่จริงแล้ว AWSไม่กะเกณฑ์คาดหวังว่าทุกคนจะต้องประสบความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่พยายามจัดงานครั้งนี้ขึ้นมาหากมองเกมแค่ระยะสั้น แต่ระยะยาวตอนนี้ก็มีหลายบริษัทที่เริ่มจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนบางที่โตขึ้นกลายเป็นบริษัทที่ไม่ใช่แค่ Startup อีกต่อไปและคาดว่าภายใน 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้าจะยิ่งแสดงถึงความสำเร็จมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทที่เพิ่งเริ่มใหม่เราก็จะสนับสนุนพวกเขาจนกว่าจะดูแลตัวเองได้” นอกจากนี้ยังได้ยกตัวอย่างบริษัทหลายรายที่อาจจะนึกไม่ถึงว่ามีการ AI/ML ของ AWS อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เช่น Wongnai, Eatigo, Sunday Insurance, aCommerce, Sellsuki, QueQ และ Scale360 เป็นต้น
คำถามสุดท้ายเราได้ยิงคำถามว่า AWS คิดว่าตัวเองเสียเปรียบในการเจาะตลาด AI/ML ฝั่งผู้ใช้งานทั่วไปหรือไม่เพราะตัวเองไม่ได้มีแพลตฟอร์มในการนำเสนอ AI/ML เข้าถึงได้โดยตรงเมื่อเทียบกับ Google ที่มี Android หรือ Microsoft ที่มี Windows เป็นพื้นฐาน ทาง ดร. ชวพล ชี้แจงว่า “แนวคิดของ AWS คือเราพยายามสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นฐานสนับสนุน AI/ML ให้กว้างมากที่สุดและเราเองจะไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีเก่าเพื่อปกป้องยอดขาย เช่น เรามี Serverless ทั้งๆ ที่ยอดขายหลักเรามาจาก infrastructure เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น Application แบบไหนก็มากับเราได้ไม่มีข้อจำกัด “