ไม่เพียงแต่โรงพยาบาลเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อของ Ransomware แต่ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์เองก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน โดยในครั้งนี้ Airway Oxygen ได้ถูก Ransomware เข้ารหัสข้อมูลลูกค้าผู้ป่วยไป 550,000 ราย นับเป็นการโจมตี Ransomware ในวงการสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 จากที่ผ่านมา

นอกจากข้อมูลผู้ป่วย 550,000 รายแล้ว ข้อมูลส่วนตัวของพนักงานทั้งปัจจุบันและอดีตอีกกว่า 1,160 รายเองก็ถูกเข้ารหัสด้วยเช่นกัน
กรณีที่เกิดขึ้นกับวงการสาธารณสุขนี้ถือว่าร้ายแรงกว่าวงการอื่นๆ พอสมควร เพราะข้อมูลผู้ป่วยนี้ถือเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ต้องได้รับการปกป้องดูแลอย่างดีไม่ให้มีบุคคลอื่นสามารถเข้าถึงได้ และมีระบุเอาไว้ใน Compliance ของธุรกิจในวงการสาธารณสุขที่สหรัฐอเมริกา โดยการที่ Ransomware สามารถเข้ารหัสข้อมูลผู้ป่วยได้นี้ ก็สันนิษฐานได้ว่าผู้โจมตีเองก็มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยว่า Airway Oxygen ยอมจ่ายค่าไถ่ในครั้งนี้หรือไม่ แต่ทาง Airway Oxygen ก็มีการปรับปรุงความมั่นคงปลอดภัยภายในระบบเครือข่ายเพิ่มเติมแล้ว และได้แจ้งได้ทาง FBI เพื่อให้ร่วมสืบสวนในกรณีนี้ด้วย
Mac McMillan ประธานของ CynergisTek ได้ออกมาให้ความเห็นต่อกรณีนี้ว่า สำหรับองค์กร การใช้งาน Two-factor Authentication สำหรับการเข้าถึงสิทธิ์ผู้ใช้งานระดับสูง, การแบ่งส่วนการเข้าถึงระบบสำคัญ และการควบคุมการเข้าถึงระบบ Database อย่างจริงจังก็จะสามารถช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่จะถูก Ransomware โจมตีในระบบสำคัญเหล่านี้ลงได้ ในขณะที่เทคโนโลยี Advanced Malware Detection เองนั้นก็ควรจะถูกนำมาใช้ปกป้องระบบเครือข่ายและลูกข่ายทั้งหมดด้วย
ที่มา: http://www.bankinfosecurity.com/ransomware-attack-impacts-500000-patients-employees-a-10057