Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

ติดสปีดการทำงาน ขับเคลื่อนธุรกิจให้รุดหน้าด้วย Samsung Galaxy Tab Active4 Pro ถึกทน พร้อมชนทุกสถานการณ์

หลายองค์กรมุ่งหน้าสู่การทำ Digital Transformation เพื่อก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูง เทคโนโลยีดิจิทัลจึงได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเร่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ทันตอบสนองความต้องการของลูกค้าสมัยนี้ ยิ่งพนักงานแนวหน้า (Frontline Worker) ผู้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจนั้นมีอุปกรณ์ Smart Device อย่างแท็บเล็ตประกอบการทำงานด้วยแล้ว ยิ่งสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจให้กับองค์กรไปด้วย

บทความนี้จะขอพาทุกท่านไปร่วมรู้จักแท็บเล็ตสำหรับธุรกิจองค์กรเพื่อผู้ปฏิบัติงานในทุกสภาวะอย่าง Galaxy Tab Active4 Pro จาก Samsung และร่วมค้นหาคำตอบว่า เหตุใดองค์กรจึงควรเลือกใช้ Rugged Device แทนการใช้แท็บเล็ตที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป? อุปกรณ์นี้มีคุณสมบัติเด่นอะไรที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานในธุรกิจ และนำไปประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไร? ร่วมพิสูจน์สมรรถภาพของ Galaxy Tab Active4 Pro กับการใช้งานในธุรกิจทุกอุตสาหกรรมได้ในบทความนี้

 

ทำไมพนักงานถึงต้องใช้ Rugged Device แทนแท็บเล็ตทั่วไป?

ปัจจุบันราคาอุปกรณ์ในกลุ่มสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบันทึกภาพหรือวีดีโอที่ต้องการความคมชัดและความละเอียดสูง การใช้งานที่รวดเร็วไหลลื่นด้วยศักยภาพการประมวลผลที่แรงเร็ว และวัสดุตัวเครื่องที่ต้องสวยงามโค้งมน

ทว่าผู้ใช้จำเป็นจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการใช้งาน เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นมักมีความบอบบางเกินกว่าการใช้งานในบางประเภทได้ โดยเฉพาะในงานด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่วัสดุอุปกรณ์และแบตเตอรีจำเป็นต้องมีความทนทานเป็นพิเศษ พร้อมใช้งานในทุกสภาพแวดล้อมอย่างสมบุกสมบันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าฝุ่นจะเยอะ เลอะน้ำเปียกฝน หรือใช้ขณะสวมใส่ถุงมืออยู่ อุปกรณ์นั้น ๆ ก็ควรจะต้องสามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่น และทนทานต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออีกด้วย

ด้วยเงื่อนไขข้อจำกัดมากมายเหล่านี้ องค์กรที่มีความต้องการในลักษณะดังกล่าวจึงควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่พร้อมลุยได้ในทุกสถานการณ์ประเภท Rugged Device อย่าง Galaxy Tab Active4 Pro ของ Samsung ที่ถึกทนทั้งภายนอกและภายใน ตอบโจทย์การใช้งานภายในโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และมีจุดคุ้มทุนที่ดีกว่าในระยะยาว

แท็บเล็ตสุดทนเพื่อธุรกิจ พิชิตทุกสภาวะ

Samsung ตระหนักถึงการออกแบบแท็บเล็ตเพื่อใช้งานในหลากหลายบริบท ทั้งการใช้งานอุปกรณ์ภายในอาคารสำนักงาน โรงงาน และพื้นที่กลางแจ้งนอกอาคาร รวมถึงสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยต่าง ๆ จึงพัฒนา Galaxy Tab Active4 Pro ให้มีความทนทานกว่าแท็บเล็ตทั่วไปในท้องตลาดด้วยมาตรฐานที่ใช้ในทางการทหาร ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน MIL-STD 810H [1] ที่ทดสอบแล้วว่า แท็บเล็ตทนทานต่อการตกกระแทกจากที่สูง ซึ่งหากเป็นกรณีของแท็บเล็ตทั่วไป การตกหล่นอาจส่งผลกระทบต่อตัวเครื่องภายนอกไปจนถึงระบบภายในเลยก็เป็นได้

นอกจากความทนทานจากการตกกระแทกแล้ว ตัวเครื่องและปากกา S Pen ที่มาคู่กับ Galaxy Tab Active4 Pro นั้นยังมีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 [2] จึงเหมาะกับการใช้งานในภาคสนามที่พนักงานต้องลงพื้นที่อย่างสมบุกสมบัน เช่น ไซต์งานก่อสร้าง พื้นที่ภาวะคับขันตามท้องถนน สถานที่เกิดเหตุอัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย หรือขณะฝนตก เป็นต้น ซึ่งการปกป้องตัวเครื่องในระดับนี้ทำให้เจ้าหน้าที่พนักงานสามารถโฟกัสที่หน้างานได้โดยไม่ต้องพะวงถึงความเสียหายของอุปกรณ์อีกต่อไป

 

ส่วนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ผลิตจากกระจกนิรภัย Corning® Gorilla® Glass 5 ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ป้องกันจอแตกจากเครื่องตกหล่นได้ แถมยังให้ภาพและสีที่คมชัดขนาด 1920 x 1200 พิกเซล ซึ่งทำให้เห็นรายละเอียดของข้อมูล ทั้งไฟล์เอกสาร ภาพและวิดีโอได้ไม่ด้อยไปกว่าแท็บเล็ตทั่วไป พ่วงจุดเด่นเรื่องความไวในการสัมผัส (Touch Sensitivity) ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ Galaxy Tab Active4 Pro ได้แม้ขณะสวมถุงมือปฏิบัติงานหรือมือเปียกน้ำหรือเหงื่อ ซึ่งถือว่าสะดวกและคล่องตัวเป็นอย่างมาก

 

นอกจากนี้ Galaxy Tab Active4 Pro ยังเพิ่มความคล่องตัวสำหรับผู้ใช้งานไปอีกขั้นด้วย S Pen สุดแกร่ง ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก สามารถพกติดเครื่องและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียบชาร์จและไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครื่องเหมือนปากกาสไตลัสทั่วไปที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ อีกทั้งยังจดบันทึกได้ไวและแม่นยำ ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ปากกาจดโน้ตทั่วไป พร้อมความสะดวกในการจับภาพหน้าจอ (Screen Capturing) และแชร์ภาพต่อได้ง่าย ๆ ทั้งหมดนี้จึงเสริมการทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ

ด้วยขนาดและน้ำหนักของ Galaxy Tab Active4 Pro ก็ถือว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพนักงานแต่อย่างใด เพราะผู้ใช้สามารถถือใช้งานมือเดียวก็ได้ หรือถือใช้งานมือเดียวคู่กับการจดบันทึกด้วยปากกา S Pen ก็ย่อมได้เช่นกัน ดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ขนาดบางเบากะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่เทอะทะเกะกะ ก็ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงาน อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์องค์กรให้ดูเป็นมืออาชีพอีกด้วย

 

ประมวลผลขั้นสุด เต็มขีดสมรรถนะพลังงาน

Galaxy Tab Active4 Pro ช่วยติดสปีดธุรกิจให้พร้อมเดินหน้าได้ไวกว่าเคยด้วยหน่วยประมวลผลขั้นสูงแบบ Octa Core อย่าง Snapdragon 778G (ความเร็ว CPU ที่ 2.4GHz/1.8GHz) ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB ทำให้การประมวลผลรวดเร็วและชาญฉลาดขึ้น อีกทั้งยังรองรับการทำงานแบบ Multitasking เช่น การเปิดหลาย ๆ แอปพร้อมกัน หรือการเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ด้วย

พื้นที่จัดเก็บภายในยังมีขนาดใหญ่มากถึง 128GB และยังสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วย microSD Card ได้สูงสุด 1TB พนักงานจึงสามารถเก็บบันทึกและเรียกใช้ข้อมูลไฟล์เอกสาร ภาพและวิดีโอได้ทันที โดยไม่ต้องคอยลบไฟล์และจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

 

อีกหนึ่งโจทย์สำคัญของการออกแบบแท็บเล็ตเพื่อการทำงานคือ การมีแบตเตอรีบรรจุพลังงานที่เพียงพอพร้อมให้พนักงานใช้งานแท็บเล็ตได้ต่อเนื่องตลอดชั่วโมงการปฏิบัติงาน ซึ่ง Galaxy Tab Active4 Pro ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ด้วยความจุของแบตเตอรีมากถึง 7,600mAh รองรับการชาร์จไวแบบ Fast Charging 15W ผ่าน USB Type-C และการชาร์จไฟผ่านพิน POGO โดยเมื่อใช้งานอุปกรณ์เสร็จ ก็สามารถวางแท็บเล็ตกลับเข้าแท่น POGO เพื่อชาร์จแบตเตอรีสแตนด์บายพร้อมใช้งานต่อได้

สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าแท็บเล็ตเจ้าอื่น ๆ และตอบโจทย์การทำงานอย่างต่อเนื่องคือ แบตเตอรีที่สามารถถอดเปลี่ยนจากเครื่อง Galaxy Tab Active4 Pro ได้ ในกรณีที่แบตเตอรีหมดกะทันหัน ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานอีกต่อไป เพียงถอดฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรีก็กลับมาใช้งานอุปกรณ์ต่อได้ดังเดิม ยิ่งถ้าเกิดแบตเตอรีเสื่อม ก็ไม่ต้องถึงขั้นต้องสำรองข้อมูลก่อนส่งซ่อม การเปลี่ยนแบตเตอรีเองได้จึงช่วยอุดช่องโหว่ในจุดนี้ ด้านบริษัทเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินลงทุนซื้อแท็บเล็ตใหม่มาใช้งาน เป็นการลดการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปในตัวด้วย

 

ในกรณีที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องภายในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง เช่น ภายในยานพาหนะ หรือหากเสียบกับตู้ Kiosk ตลอดเวลา อาจมีกรณีที่แท็บเล็ตมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาจนเสี่ยงทำให้แบตเตอรีบวมเป็นอันตรายต่อตัวเครื่องได้ แต่ Galaxy Tab Active4 Pro มีคุณสมบัติเปิดใช้งานได้แม้ไม่มีแบตเตอรี เพียงเปิดใช้งานในโหมด No Battery แล้วเสียบเข้ากับแท่นจ่ายไฟโดยตรง ก็สามารถเปิดใช้งานแท็บเล็ตต่อได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องร้อนอีกต่อไป

 

ตอบรับ Hybrid Work งานไหลลื่นมั่นคงปลอดภัยบน 5G และ Wi-Fi 6

เมื่อการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสำนักงานอีกต่อไป การมีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้งในและนอกสถานที่กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้การดำเนินงานรวดเร็วต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Galaxy Tab Active4 Pro จึงตอบโจทย์การใช้งานทั้งในสถานที่ปฏิบัติงานภายในอาคารที่มีสัญญาณ Wi-Fi และนอกอาคารที่มีสัญญาณเครือข่าย 5G เพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 ทำให้พนักงานสามารถเชื่อมต่อและประสานการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ตลอดเวลาอย่างไม่มีสะดุดแม้ในขณะเดินทางหรืออยู่ท่ามกลางสถานที่ชุมชนที่มีผู้คนแออัด

Image credit: Shutterstock/Fit Ztudio

 

สำหรับพนักงานที่คุ้นชินกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อปในการทำงาน ก็สามารถเปลี่ยน Galaxy Tab Active4 Pro ให้กลายเป็นแล็ปท็อปได้ด้วย Samsung DeX ที่ติดตั้งพร้อมมาให้ในเครื่อง พร้อมใช้งานร่วมกับโปรแกรม Microsoft Office สำหรับแก้ไขไฟล์เอกสารต่าง ๆ หรือใช้คู่กับคีย์บอร์ด Book Cover เพื่อร่างอีเมล สร้างสถานะการทำงานที่หน้างาน แล้วกลับเข้าออฟฟิศไปแก้ไขหรือดำเนินการเพิ่มเติมที่คอมพิวเตอร์สำนักงาน ก็ยิ่งสะดวกและรวดเร็วไปอีกแบบ เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนทำงานแบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นอย่างเต็มรูปแบบโดยแท้จริง

 

สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้สำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ในองค์กรคือ คุณสมบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่เต็มไปด้วยการหาประโยชน์ของผู้ไม่หวังดีจากการแฮ็กระบบและภัยคุกคามต่าง ๆ ข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กรจึงควรมีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหนียวแน่น เพื่อไม่ให้ข้อมูลบริษัทอันมีมูลค่าสูงนั้นรั่วไหลหรือตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ องค์กรที่เลือกใช้ Galaxy Tab Active4 Pro ก็สามารถวางใจได้ในการปกป้องอย่างเต็มกำลังด้วย Samsung Knox แพลตฟอร์มความปลอดภัยที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง โดยองค์กรสามารถเลือกใช้บริการ Knox Suite ซึ่งเป็นเครื่องมือบริหารจัดการการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ ปรับใช้ให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งาน และจัดการอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน

 

ในระดับการใช้งานอุปกรณ์เฉพาะพนักงานแต่ละคนนั้น Galaxy Tab Active4 Pro ยังมีฟีเจอร์รักษาความมั่นคงปลอดภัยด้วยข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric Data) อย่าง Fingerprint & Face Recognition ไม่ต้องกังวลว่าพนักงานคนอื่นหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องจะหยิบอุปกรณ์ไปใช้และเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องได้ เพราะจะมีเพียงพนักงานที่ได้รับสิทธิ์อนุญาตใช้งานเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกอุปกรณ์ด้วยการสแกนลายนิ้วมือของตน หรือหากพนักงานสวมถุงมือปฏิบัติงานอยู่ ก็สามารถเลือกใช้การสแกนใบหน้าแทนได้อย่างมั่นคงปลอดภัยเช่นเดียวกัน

สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ของ Galaxy Tab Active4 Pro สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

Galaxy Tab Active4 Pro: แท็บเล็ตพร้อมลุยในทุกอุตสาหกรรม

คุณสมบัติต่าง ๆ ภายใน Galaxy Tab Active4 Pro เรียกได้ว่าจัดเต็มมาอย่างอัดแน่น ลองมาศึกษาความสามารถของแท็บเล็ตรุ่นนี้เพื่อองค์กรกับการใช้งานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ว่าตอบโจทย์การดำเนินงานได้อย่างไรบ้าง

●       หน่วยงานรัฐและความปลอดภัยสาธารณะ

การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยสาธารณะล้วนมีความเสี่ยงที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจอย่างแรงกล้า เพราะหลาย ๆ ครั้งก็คาดเดาเหตุการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือ ความทนทานของอุปกรณ์คู่ใจอย่าง Galaxy Tab Active4 Pro ที่พร้อมลุยภาคสนามไปกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสืบสวน เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หน่วยกู้ภัย เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น ของ Galaxy Tab Active4 Pro จึงเอื้อต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในสถานการณ์คับขันและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ขณะฝนตก สภาวะการจราจรหนาแน่นที่มีฝุ่นควันปริมาณมาก

ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Tab Active4 Pro ยังตอบโจทย์เรื่องความคล่องตัวขณะปฏิบัติงาน เมื่อก่อนเจ้าหน้าที่ภาคสนามอาจต้องพกทั้งไฟฉาย กล้อง ปากกา กระดาษ เพื่อใช้ประกอบการเก็บรวบรวมหลักฐาน แต่ทั้งหมดนี้ได้รวมมาอยู่ไว้ใน Galaxy Tab Active4 Pro เพียงเครื่องเดียว โดยเจ้าหน้าที่สามารถใช้แท็บเล็ตเปิดไฟฉาย ถ่ายภาพผ่านกล้องหน้าหรือกล้องหลัง และใช้ปากกา S Pen จดบันทึกบนแท็บเล็ตได้เลย หรือแม้แต่ใช้แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์สื่อสาร Walkie Talkie ก็สามารถตั้งค่าผ่าน Programmable Key บนตัวเครื่องได้ง่าย ๆ เช่นกัน

●       อุตสาหกรรมการผลิต

โรงงานในไทยหลายแห่งต่างก้าวไปสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้ง Wi-Fi และ 5G แบบ Public หรือ Private Network พนักงานระดับปฏิบัติการในโรงงานผลิตย่อมต้องมีเครื่องมือที่เข้าถึงการควบคุม จัดการกระบวนการผลิต และตรวจสอบเพื่อควบคุมคุณภาพการผลิต ร่วมกับการใช้ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรอย่าง Enterprise Resource Planning (ERP), Material Resource Planning (MRP), Warehouse Management System (WMS)

Galaxy Tab Active4 Pro สามารถสอดประสานการทำงานร่วมกับระบบ IoT และ Smart Manufacturing ได้อย่างราบรื่นผ่านความสามารถในการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi 6 และ 5G ทำให้พนักงานสามารถลงพื้นที่ปฏิบัติงานได้ทั้งในและนอกโรงงาน และใช้ฟีเจอร์บนแท็บเล็ตควบคู่ไปกับกระบวนการต่าง ๆ ในโรงงานได้ เช่น การตรวจสอบเครื่องจักรเพื่อควบคุมคุณภาพด้วยกล้องหลังคุณภาพสูงระดับ 13 ล้านพิกเซล ตรวจสอบงานผ่านมุมมอง AR ที่แสดงผลเห็นชัดเต็มจอขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว ดังนั้น หากพบข้อผิดพลาดของเครื่องจักรที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต พนักงานก็สามารถเข้าดำเนินการแก้ไขได้ทันเหตุการณ์

 

●       การขนส่งและโลจิสติกส์

ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์ยิ่งต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้การขนส่งสินค้าไปถึงที่หมายได้รวดเร็วทันเวลา ดังนั้น อุปกรณ์อย่าง Galaxy Tab Active4 Pro สามารถเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการขนส่งได้ทั้งกระบวนการตั้งแต่การจัดการภายในคลังสินค้าไปจนถึงการส่งสินค้าถึงมือลูกค้าด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ อาทิ โซลูชันเพื่อการจัดส่งแบบไร้กระดาษ โดยใช้กล้องถ่ายรูปพัสดุสินค้า สแกนบาร์โค้ด หรือใช้ S Pen เซ็นชื่อลงในไฟล์โดยไม่ต้องพึ่งกระดาษ ข้อมูลก็ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบในรูปแบบดิจิทัลพร้อมให้ตรวจสอบและเรียกใช้งานได้ทันที

Galaxy Tab Active4 Pro ยังสามารถติดตั้งในยานพาหนะขนส่ง และเปิดใช้งานโหมดไร้แบตเตอรีได้ด้วยซึ่งจะไม่ทำให้อุปกรณ์มีอุณหภูมิสูงเกินไป จึงเหมาะสำหรับใช้งานในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี ระหว่างการเดินทางนั้น คนขับก็สามารถใช้แท็บเล็ตตรวจสอบวางแผนเส้นทางขนส่งที่มีประสิทธิภาพที่สุดและใช้ระบบนำทางเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

●       ธุรกิจค้าปลีก

หากพนักงานในร้านค้ามี Galaxy Tab Active4 Pro ติดตัวประจำตำแหน่ง การทำงานก็ไม่จำเป็นต้องรวมศูนย์อยู่ที่จุดชำระเงินเพียงจุดเดียว เพราะพนักงานในร้านค้าสามารถใช้แท็บเล็ตนี้เป็น Mobile Point of Sales (mPOS) ระบบขายแบบหน้าร้านเคลื่อนที่ได้ผ่าน NFC เสมือนแคชเชียร์พกพา ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยกระจายความรับผิดชอบและเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความประทับใจในการให้บริการแก่ลูกค้าได้

นอกจากความคล่องตัวในการให้บริการลูกค้า เบื้องหลังในการจัดการสินค้าคงคลังและการบริหารจัดการพนักงานผ่าน Galaxy Tab Active4 Pro ก็ทำได้โดดเด่นไม่น้อยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การใช้แท็บเล็ตสแกน QR Code หรือบาร์โค้ดบนสินค้าได้พร้อมกันหลาย ๆ ภาพ ซึ่งช่วยลดกระบวนการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถติดตั้งแท็บเล็ตกับแท่นฐานเสริมเพื่อใช้เป็นจุดสแกนบัตรเข้างานของพนักงานผ่าน NFC และบันทึกข้อมูลการเข้าออกงานของพนักงานขึ้นระบบได้ทันที

 

●       ภาคสาธารณสุข

Galaxy Tab Active4 Pro สามารถเข้ามาเป็นอุปกรณ์สำคัญเพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) ในฐานะเครื่องมือประสานการทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์และบุคลากร และเครื่องมือสื่อสารระหว่างแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย เช่น การมีแท็บเล็ตข้างเตียงผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วยอัจฉริยะ หากผู้ป่วยต้องการขอความช่วยเหลือจากพยาบาล ก็สามารถสื่อสารผ่านแท็บเล็ตนี้ได้ หรือแม้แต่การรองรับการรักษาทางไกล (Telemedicine) ที่แพทย์สามารถให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยผ่านวิดีโอ รวมถึงการตรวจติดตามสัญญาณชีพการฟื้นฟูผู้ป่วยทางไกล ก็ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงระบบสาธารณสุขและได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที

 

สนใจโซลูชันอุปกรณ์สมาร์ตโฟนสำหรับธุรกิจ
ติดต่อทีมงาน Samsung ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจนำแท็บเล็ตเพื่อองค์กรอย่าง Galaxy Tab Active4 Pro ไปใช้งานกับธุรกิจ หรือระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ Smart Device ให้มีความมั่นคงปลอดภัยและกำหนดค่าการใช้งานต่างๆ ได้จากศูนย์กลาง สามารถติดต่อทีมงาน Samsung Business ได้ทันที

 

[1] MIL-STD 810H คือมาตรฐานการทดสอบที่ออกแบบโดยกองทัพสหรัฐฯ เพื่อประเมินขีดจำกัดต่าง ๆ ของอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการทดสอบนั้นรวมไปถึงการปล่อยโทรศัพท์จากที่สูง 1.5 เมตรให้ตกลงบนพื้นผิวเหล็กกล้า
[2] มาตรฐาน IP68: กันน้ำจืดได้ลึกถึง 1.5 เมตรเป็นเวลาสูงสุด 30 นาที พร้อมทั้งกันฝุ่น ดิน และทราย

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต โดย Infor

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งานในธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละอุตสาหกรรมก็มีความท้าทายเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญหน้า ในอุตสาหกรรมการผลิตเองก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า Supply Chain และอื่นๆ 

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว