ทุกวันนี้เราอาจจะมองว่าอุปกรณ์ IoT เป็นช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัยเสียมากกว่าแต่อย่างไรก็ตามมีความเห็นต่างจาก นาย Tim Lang หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและประธานอวุโสจาก MicroStrategy บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้าน BI และ Data Analytics ได้มีความเห็นว่าอุปกรณ์ IoT สำหรับการใช้ในองค์กร (Enterprise IoT) จะสามารถนำไปใช้เพื่อติดตามและป้องกันก่อนจะเกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลได้

มีการคาดการณ์จาก McKinsey อ้างถึงว่า 10 ปีข้างหน้า 70% ของคุณค่าที่เกิดจาก IoT จะเกิดจากใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันประเภท Business-to-Business (B2B) โดยสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ IoT ในด้านความมั่นคงปลอดภัยได้ เช่น ลดความเสี่ยงความมั่นคงปลอดภัยภายใน
Lang กล่าวว่า “IoT สามารถนำไปใช้ ติดตามบุคคล หรือ การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าในระบบที่ลับสุดยอดโดยข้อมูลนี้มีคุณค่ามากกับทีมงานเพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของฐานข้อมูล” ซึ่ง EIoT นี้ให้ผลดีกว่าการใช้เพียงแค่รหัสผ่านแบบเดิมๆ ที่ต้องคอยอัปเดตและเสี่ยงต่อการสูญหายและรั่วไหลอีกด้วย นอกจากนี้ Lang ยังเสริมว่า “ในโลกทุกวันนี้องค์กรไม่สามารถรอตั้งรับเพียงอย่างเดียวแต่ต้องรุกกลับไปบ้าง นอกจากนี้การใช้ EIoT จะช่วยให้องค์กรสามารถลดภัยคุกคามก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เช่น หากได้รับข้อมูลแจ้งเตือนถึงกิจกรรมในระบบที่เกิดขึ้นนอกองค์กร คุณจะสามารถเห็นได้ทันทีว่าบุคคลนั้นเป็นใครและทำอะไรอยู่ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
การใช้งาน EIoT เช่น การนำเซนเซอร์และตัวเชื่อมต่อไปติดที่อุปกรณ์ต่างๆ นำมาสู่คอนเซปต์ที่เรียกว่า ‘Digital Twins’ หมายถึงตัวแทนของอุปกรณ์จริงในโลกเสมือน ซึ่งทาง MicroStrategy ได้ประยุกต์ใช้งานคอนเซปต์นี้กับคนทั่วไปจนเกิดเป็น ‘Digital Badge’ หรือที่เรียกว่า Usher คือพนักงานพกเซนเซอร์เพื่อติดตามตัวได้โดย Digital Badge ถูกใช้เพื่อยืนยันตัวตนกับระบบ ว่าพนักงานเดินไปที่ไหนทำอะไรอยู่แบบ Real Time ซึ่งข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ด้านความมั่นคงปลอดภัยรวมถึงการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น นายจ้างสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของลูกจ้างและกิจกรรมที่ทำ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจได้